Apple เปิดตัว macOS เวอร์ชันใหม่ประจำปีนี้ โดยจะใช้ชื่อว่า Catalina (มาจากชื่อเกาะ Santa Catalina ในแคลิฟอร์เนียร์) และเลขรหัสประจำรุ่นคือ macOS 10.15
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจก็คือ Project Catalyst (ชื่อเดิม Marzipan) เป็นทูลส์ที่ทำให้การพอร์ทแอพจาก iPad มายัง Mac ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยการแก้ไขจะทำผ่าน Xcode ทูลส์ที่ใช้พัฒนาแอพดั้งเดิมของ iOS นั่นเอง
อย่าง Twitter เองก็มีแผนจะนำแอพ Twitter เวอร์ชัน iPad มาลงเครื่อง Mac เช่นกัน รวมไปถึง Atlassian จะนำแอพ Jira เวอร์ชัน iPad มาแปลงลง macOS ด้วย แต่ Apple ยังไม่เผยรายชื่อ และยังไม่แน่ชัดนักว่ามีนักพัฒนากี่เจ้าที่มีแผนจะนำแอพ iPad มาลง macOS ในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะบนเวทีพูดถึงแค่สามแอพเท่านั้น
สำหรับ iTunes แม้จะไม่ได้ถอดออกไปโดยสิ้นเชิงเหมือนข่าวลือ แต่ก็ใกล้เคียงเนื่องจาก Apple เพิ่มแอพ Apple Music, Podcast, Apple TV เข้ามาแทนที่ โดยทำงานได้สมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องเปิด iTunes แม้แต่น้อย
Sidecar
หนึ่งในฟีเจอร์ที่เป็นข่าวลือก่อนหน้านี้ก็คือการทำให้ iPad กลายเป็นจอเสริมสำหรับ macOS ซึ่งตรงทั้งชื่อและฟีเจอร์เลย ฟีเจอร์ Sidecar ทำให้เราสามารถใช้เป็นจอเสริม และแทบเล็ตวาดรูปได้ด้วย ซึ่งแอพตัดต่อวิดิโอและวาดรูปอย่าง Final Cut Pro X, Adobe Illustrator, iWork ต่างก็รองรับการใช้งาน Sidecar กันหมด บรรยากาศคล้ายๆ กับการซื้อ Wacom รุ่นที่เป็นหน้าจอมาใช้งานเลยล่ะครับ
ตัวระบบปฏิบัติการ Catalina รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ที่พิการทางการเคลื่อนไหวก็สามารถใช้งานได้ (ตราบใดที่ยังพูดได้) ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ที่มีบน iOS 13 ไม่ว่าจะเป็น Find My, Photos, Notes, Reminders ก็ได้รับการอัพเกรดให้มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกัน
คาดว่า Apple จะปล่อยอัพเดท macOS 10.15 ตัวเต็มในช่วงเวลาเดียวกันกับ iOS 13 ซึ่งถ้าตรงกับช่วงเดียวกับปีที่แล้วก็น่าจะราวๆ กลางเดือนกันยายนครับ
ถ้าให้ทาย ปีหน้า macOS 10.16 น่าจะใช้ชื่อว่า Santa Catalina ครับ
ที่มา – The Verge