MediaTek เปิดตัวชิประดับบนทีเดียวสองรุ่น ได้แก่ Dimensity 1100 และ Dimensity 1200 ทั้งสองรุ่นออกแบบมาให้อัพเกรดความสามารถจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Dimensity 1000 ของปีที่แล้วที่ชนะใจผู้ผลิตมือถือหลายรายด้วยกัน
ทั้งสองรุ่นถือว่าเป็นการอัพเกรดที่ต่อยอดจาก Dimensity 1000 อย่างถูกทาง ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดกระบวนการผลิต (6nm) และเปลี่ยนชิปประมวลผลหลักเป็นรุ่นที่ใหม่กว่าเดิม (Cortex-A78) เรื่องที่น่าเสียดายคือ GPU กลับยังคงใช้ Mali-G77 เช่นเดิม ทั้งที่ชิปรุ่นอื่นๆ จากคู่แข่งที่เปลี่ยนไปใช้ซีพียูตัวใหม่ต่างก็ใช้ Mali-G78 กันแล้ว
Dimensity 1200 เป็นชิปรุ่นบนสุด ทำให้มันรองรับกล้องความละเอียดสูงสุดที่ 200 Megapixel (ขณะที่ Dimensity 1100 สเปคลดลงมาเล็กน้อยจะยังรองรับกล้องเพียง 108 Megapixel) ส่วนหน่วยความจำ DRAM ที่รองรับคือ LPDDR4X ที่ความถี่สัญญาณนาฬิกา 2133 Mhz น่าเสียดายที่ MediaTek จำต้องใช้หน่วยความจำแบบเก่าต่อเพื่อควบคุมเรื่องราคา ถ้าหากหันไปใช้ LPDDR5 ได้ น่าจะทำให้เร็วขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียว
สำหรับโมเดม 5G นั้นตัว Dimensity 1100 และ 1200 ไม่ได้แตกต่างจากเดิม โดยยังรองรับเฉพาะช่วงความถี่ 6GHz ลงไปเท่านั้น (Sub-6GHz) ไม่รองรับความถี่ mmWave ที่เป็นกลุ่มความถี่ 26GHz ขึ้นไป สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าในปัจจุบันมีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ใช้ความถี่เหล่านี้
ชิปใหม่นี้จะใช้กระบวนการผลิตขนาด 6nm ของ TSMC ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ใช้การผลิตที่ 7nm แต่เมื่อพิจารณาจากความแตกต่างแล้วคงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าชิปทั้งสองรุ่นเป็นการอัพเกรดเพียงเล็กน้อย และนำของเก่ามาขายใหม่ในปี 2021 ยิ่งทั้งสองรุ่นเองความแตกต่างก็ไม่ได้มากมายนัก ทำให้เกิดคำถามว่าจะแยกออกมาเป็นสองรุ่นทำไม ทั้งที่ MediaTek เองก็เน้นเรื่องสเปคที่ดีมาและทำราคาที่เข้าถึงง่ายมาตลอด
ทาง MediaTek ระบุว่าเราจะได้เห็น Xiaomi, Vivo, OPPO และ Realme ใช้ชิปใหม่ทั้งสองตัวนี้ภายในไตรมาสแรกของปีครับ
ที่มา – Anandtech
