และแล้ววันนี้ก็มาถึง เมื่อ Microsoft เปิดตัว Surface Pro 8 ที่มีฟีเจอร์เพียบพร้อมอย่างที่ทุกคนรอคอยมาตลอดหลายปี ถือเป็นรุ่นที่อัพเดทพลิกโฉมหลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตอน Surface Pro 3 เมื่อปี 2014
ดีไซน์ของ Surface Pro 8 มีขอบจอที่บางลงกว่าเดิมมาก และเปลี่ยนหน้าจอให้สามารถแสดงผลได้ที่ระดับ 120Hz และสามารถแสดงผลแบบ Dolby Vision กับทำ Adaptive Color Technology ได้ด้วย ทาง Microsoft เรียกเทคโนโลยีว่า PixelSense Flow Display ขนาดใหญ่กว่าเดิมเพราะขยับมาเป็น 13 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมราวๆ 11%) และโฆษณาว่าเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดที่เคยทำมา
ตัวหน้าจอนั้นจะทำงานที่ 60Hz เป็นหลัก แต่ถ้าหากมีการสัมผัสหน้าจอ หรือใช้สไตลัส มันจะขยับไปเป็น 120Hz เพื่อให้ภาพไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม
คีย์บอร์ดใหม่นี้รับแนวคิดการทำตัวเป็นที่เก็บปากกามาจาก Surface Pro X ด้วย ทำให้เราสามารถพกพา Surface Slim Pen 2 ได้ง่ายขึ้น โดยระหว่างที่เก็บอยู่ในคีย์บอร์ดก็จะชาร์จไฟไปในตัว โดยปากกาเวอร์ชันนี้มีมอเตอร์ Haptic Feedback ทำให้การเขียนบนหน้าจอจะมีความรู้สึกเหมือนเขียนลงบนกระดาษ ที่สำคัญคือลดความหน่วง และแม่นยำขึ้น
Surface Pro 8 มีตัวเลือกชิปประมวลผลสามซีรีส์ด้วยกัน ได้แก่ Core i3, i5 และ i7 โดยทั้งหมดเป็น Intel 11th Gen รุ่นล่าสุด (เฉพาะ i5 และ i7 จะเป็น Quad Core) จะมีรุ่น LTE วางจำหน่ายในภายหลังครับ ข้อดีของการเปลี่ยนมาใช้ Intel 11th Gen ก็คือมันจะรองรับ Thunderbolt 4 / USB 4 ในตัว และเลิกใช้พอร์ต USB-A มาเป็น USB-C แทน (มีให้สองช่อง) แต่การชาร์จไฟยังคงทำผ่านสาย Surface Connect เช่นเดิม
ตัวเลือกจะมีรุ่นต่ำสุด Core i3, RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,099 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่รวมปากกาและคีย์บอร์ดที่ขายแยกครับ
ที่มา – TheVerge