มีการเปิดเผยจาก กสทช. ว่าเตรียมเรียกพบผู้ให้บริการทุกเครือข่ายและทาง Google เกี่ยวกับปัญหาเพดานของค่าบริการแบบรายเดือน หลังจากกรณีของยอดใบเรียกเก็บรายเดือนที่มีออกมาโพสในโลกออนไลน์ ตั้งแต่ 3 หมื่นบาท 2 แสนบาท และล่าสุดกับยอดเกือบ 6 แสนบาท ในวันนี้ ( 26 มิ.ย. ) พร้อมเตรียมตั้งมาตรการรับมือไว้คือการส่งข้อความแจ้งเตือนเมื่อมียอดการใช้งาน 1000 บาทต่อครั้ง และในส่วนของ ais ได้ปิดการให้บริการซื้อไอเทมและแอพสำหรับลูกค้ารายเดือนแล้ว
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับปัญหาบิลช็อกจากการซื้อไอเท็มในเกม “คุกกี้รัน” ว่า ทางบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำกัด (AWN) ผู้ให้บริการ เอไอเอส 3G ที่เป็นคู่กรณีได้แจ้งว่า ได้ทำความร่วมมือกับบริษัท กูเกิล ในการนำเทคโนโลยีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม อาทิ การซื้อไอเท็มในเกมผ่านโทรศัพท์มือถือ(DCB) โดยนำมารวมกับใบแจ้งหนี้ค่าบริการรายเดือนมาแต่ 30 เม.ย. และเริ่มใช้ในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา จนเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ทางกูเกิลได้แจ้งปัญหามาทาง AWN ว่ามีลูกค้าบางรายที่มียอดใช้จ่ายสูงผิดปกติ ทางบริษัทจึงได้ระงับการบริการนี้สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการแบบจ่ายรายเดือน (โพสต์เพด) เพื่อตรวจสอบและวางมาตรการป้องกันให้ และเปิดให้ลูกค้าประเภทเติมเงิน (พรีเพด) ใช้งานได้เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถซื้อไอเท็มได้เกินวงเงินในซิมอยู่แล้ว
ส่วนกรณีของผู้เสียหายที่ตกเป็นข่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนที่บริษัทจะปิดบริการในกลุ่มลูกค้าโพสต์เพดซึ่งขณะนี้ทางAWN ได้แจ้งว่า ได้เชิญผู้เสียหายมาพูดคุยแล้ว และทางบริษัทยินดีเจรจาเพื่อรับผิดชอบทั้งหมดหากเป็นการซื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทางด้าน บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ที่มีบริการในรูปแบบเดียวกันนั้น ได้แจ้งว่า บริษัทกำหนดมาตรการในการให้บริการไว้ 3 ข้อ คือ 1) จำกัดวงเงินการซื้อ 1,000 บาท/ครั้ง 2) วงเงินรวมค่าซื้อสินค้าและบริการต้องอยู่ในวงเครดิตลิมิต และ 3) ใช้ผ่านช่องทาง wifi ไม่ได้ ต้องใช้ผ่านทาง mobile network เท่านั้น เพื่อให้บริษัททำการตรวจสอบได้ ส่วนทาง บมจ.ทีโอที, กสท. โทรคมนาคม และบริษัททรู ยังไม่มีบริการ แต่ทางทรู กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับ google เพื่อเปิดให้บริการนี้
