ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่จะจัดขึ้นกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้ นอกจากจะมีสมาร์ทโฟน-แท็ปเล็ตมาให้เลือกซื้อหากันแล้ว ในงานนี้ยังมีโซนที่เรียกว่า “Gadget Zone” สำหรับจัดแสดงอุปกรณ์แนวไฮเทค อินเทรนด์ ไม่เหมือนใครด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่เรียกว่า Wearable Device ยุคนี้ใครใส่อุปกรณ์แบบนี้นี่เท่ห์อย่าบอกใคร มาดูกันครับว่า Gadget Zone จะเอาอะไรมาแสดงบ้าง
งานมหกรรมมือถือ Thailand Mobile Expo 2015 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00น. – 20.00น.
ASUS ZenWatch
อุปกรณ์สวมใส่ wearable device ที่เป็นนาฬิการะบบปฏิบัติการ android wear ตัวแรกของบริษัท ที่ผสานความหรู และ Zen UI ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ไปแล้วเข้ากันกับนาฬิกาได้อย่างลงตัว มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.63 นิ้วพร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 ประมวลผลด้วยซีพียู Snapdragon 400 มีหน่วยความจำภายใน 4 กิกะไบต์ และยังกันน้ำในระดับมาตรฐาน IP55 อีกด้วย [ราคา 199.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 6,700 บาท]
LG G Watch R
นาฬิกาอัจฉริยะตัวที่สองจาก LG และเป็นตัวแรกของค่ายที่ทำออกมาในลักษณะหน้าปัดทรงกลม มาพร้อมกับหน้าจอ P-OLED ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 1.3 นิ้ว พร้อมซีพียู Snapdragon 400 ความจุภายใน 4GB กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 และมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจติดตั้งไว้ด้วย [ราคา 299.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 10,000 บาท]
Sony SmartWatch 3
นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่สามจากค่ายอารยธรรม และเป็นตัวแรกสุดของค่ายที่มีการใช้ระบบปฏิบัติการ android wear ตัวนาฬิกามาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.6 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลแบบควอดคอร์ความเร็ว 1.2GHz มีความจุ 4 กิกะไบต์ พร้อมเซนเซอร์ต่างๆ และรองรับการเชื่อมต่อผ่านทาง bluetooth และ NFC [ราคา 249.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 8,500 บาท]
Withnings Activité Pop
นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดจากบริษัทผลิตอุปกรณ์เพื่อสุขภาพชื่อดังอย่าง Withnings ซึ่งพึ่งจะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ Activité Pop ไปเมื่องาน CES 2015 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อไอทีชั้นนำในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ด้วยหน้าตาที่เรียบหรูเหมือนนาฬิกาสวิส และเปลี่ยนมาใช้สายยางสีสันสดใสเจาะกลุ่มวัยรุ่นเพื่อรักการออกกำลัง และยังแฝงไว้ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อสุขภาพ [ราคา 150 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4,900 บาท]
Meizu Inwatch Pi
นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของค่าย Meizu จากประเทศจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังทีเดียว โดย Meizu Inwatch Pi นี้เป็นนาฬิกาทรงหน้าปัดกลมออกแบบได้สวยงาม พร้อมสายหนังดูหูหรา ตัวนาฬิกานั้นยังรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆทั้งการแจ้งเตือน, ติดตามการเคลื่อนไหวขณะเล่นกีฬา และติดตามการนอนหลับของเราได้ [ราคา 399 หยวน หรือราวๆ 2,100 บาท]
Fitbit Surge
นาฬิกาอัจฉริยะตัวแรกของ Fitbit เปิดตัวที่งาน CES 2015 โดยค่าย Fitbit เรียกนาฬิการุ่นนี้ว่า ‘superwatch’ เหมาะสำหรับนักวิ่งหรือสิงห์นักปั่นที่ต้องคอยตรวจสอบระยะทางของตนเองตลอดเวลา และที่สำคัญยังวัดอัตราการเต้นของหัวใจไปได้ตลอดด้วย โดย Fitbit Surge นั้นมาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน (monochrome LCD ประหยัดพลังงาน), สามารถควบคุมเครื่องเล่นเพลงได้บนหน้าจอของ Fitbit Surge, มีระบบแจ้งเตือนสายโทรเข้า และระบบแจ้งเตือนข้อความ มีเซนเซอร์ทั้งหมด 8 ตัว จุดเด่นที่น่าสนใจของ Fitbit Surge คือสามารถสวมใส่ได้ยาวนานถึง 7 วันต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง [ราคา 249 เหรียญสหรัฐฯหรือราวๆ 8,200 บาท]
Microsoft Band
สายรัดข้อมือแบบ wearable device ตัวแรกจากค่ายยักษณ์ใหญ่ในโลกไอทีอย่าง Microsoft ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งระบบ Android, iOS และ Windows Phone ซึ่งสายรัดข้อมือรุ่นนี้นั้นมีเซ็นเซอร์ต่างๆติดตั้งไว้เป็นจำนวนมาก และสามารถแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆผ่านทางหน้าจอ และยังสามารถใช้งานได้ยาวนาน 48 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง [ราคา 199 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 6,500 บาท]
Fitbit Charge HR
สายรัดข้อมือรุ่นใหม่ของค่าย เปิดตัวพร้อมกับ Fitbit Surge ที่งาน CES 2015 ตัวสายรัดข้อมือเป็นการอัพเกรดของ Fitbit Force และ Fitbit Charge โดยมีการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งช่่วยให้ผู้สวมใส่สามารถรู้ระดับ heart rate zone ของตนเองขณะออกกำลังกายได้ ซึ่งสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ไม่ชอบคาดสายวัดอัตราการเต้นหัวใจแบบคาดอกนั่นเองครับ สำหรับแบตเตอรี่ของ Fitbit Charge HR จะมีอายุการใช้งานได้นาน 5 วัน [ราคา 149 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 4,900 บาท]
iFit Act
สายรัดข้อมือฟิตเนสจากค่ายน้องใหม่ iFit ที่ค่ายนี้นั้นมีเทคโนโลยีเพื่อการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยมจนถึงขนาดไปเข้าตาค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Sony นำเทคโนโลยีของ iFit ไปใช้บนนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดของค่ายอย่าง Sony SmartWatch 3 ด้วยนะ โดยสายรัดข้อมือ iFit Act นี้จะสามารถติดตามภารกิจประจำวันของเราได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ว่าะจะเป็นการเดิน, ระยะทางการวิ่ง, วัดอัตราการเบิร์นแคลอรี่, ตรวจสอบระยะเวลาการออกกำลังกาย, ตรวจสอบการนอนหลับ ซึ่ง iFit Act นี้จะทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟนผ่านทางแอพลิเคชั่นของ iFit [ราคา 49 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 1,500 บาท]
iFit Active
สายรัดข้อมือรุ่นใหม่ของค่าย iFit ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Act โดยมีการเพิ่มหน้าจอสำหรับแจ้งเตือนการทำงานต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆได้ทั้งการออกกำลังกายประจำวัน, อ่านข้อความหรือส่งข้อความให้เพื่อนของเรา, ดูข้อมูลการเบิร์นแคลอรี่ขณะกำลังออกกำลังกาย, ติดตามการนอนหลับ รวมไปถึงการซิงก์ค่าการออกกำลังกายต่างๆของเราอัตโนมัติไปยังบัญชีของ iFit [ราคา 79 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 2,600 บาท]
Ricoh Theta M15
รุ่นใหม่ล่าสุดของกล้องถ่ายภาพแบบ 360 องศาในคลิกเดียวที่มีการโชว์ตัวที่งาน CES 2015 สามารถส่งภาพถ่าย 360 องศาเข้าสู่สมาร์ทโฟนได้โดยตรงผ่านทางแอพลิเคชั่นพิเศษ นอกจากนี้ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ยังสามารถบันทึกวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด Full HD (1080p) สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 4,800 ภาพ (ติดตั้งเมมโมรี่ภายในมาที่ 4 กิกะไบต์) [ราคา 299.95 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 9,500 บาท]
Instacube
กรอบรูปดิจิตอลเพื่อคนชื่นชอบ Instagram หนึ่งในโปรเจ็คที่ระดมทุนจนสำเร็จจาก Kickstarter ซึ่ง Instacube ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการแชร์ภาพถ่ายลงบนแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมอยู่เป็นประจำ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นกรอบรูปเท่ ๆ เอาไว้ตั้งโชว์ได้ทุกที่ โดยที่โปรแกรมในตัวเครื่องก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนรูปไปเรื่อย ๆ ตามที่ผู้ใช้งานตั้งค่าการใช้งานไว้ ทั้งรูปถ่ายในอัลบั้มของตัวเอง หรือแม้แต่รูปของคนที่เราไปตามฟอลโลว์ด้วยเช่นกัน [ราคา 149 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 4,900 บาท]
Luxi
หนึ่งใน gadget ที่ระดมทุนสำเร็จจาก Kickstarter ซึ่ง Luxi นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้กลายเป็น light meter หรือ เครื่องวัดแสง ซึ่งทำให้ตากล้องมือโปรที่ถ่ายภาพจากกล้อง DSLR สามารถใช้สมาร์ทโฟนมาเป็นมิเตอร์วัดแสงช่วยในการตั้งค่าการถ่ายภาพในสภาพแสงต่างๆได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว [ราคา 29.95 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 999 บาท]
Polaroid Socialmatic
กล้องโพลารอยด์ล้ำสมัยที่สามารถถ่ายภาพออกมาแล้วแชร์ไปยัง Social Network ของเรา พร้อมกับพิมพ์ภาพถ่ายในแบบสดๆออกมาได้ทันที โดยกล้องโพลารอยด์รุ่นนี้นั้นมาในรูปลักษณ์หน้าตาแบบไอคอนของแอพ Instagram ตัวกล้องมี Wi-Fi และ 3G พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีความละเอียดกล้อง 14 ล้านพิกเซล พร้อมฟิลเตอร์ตกแต่งรูปภายในเครื่อง [ราคา 388 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 13,000 บาท]
3Doodler
เครื่องพิมพ์ภาพ 3มิติในรูปแบบปากกาหนึ่งในโปรเจ็คที่ระดมทุนสำเร็จแล้วจาก Kickstarter ซึ่งปากกา 3Doodler นี้สามารถวาดภาพโดยใช้พลาสติกเป็นหมึก และยังสามารถนำมาประกอบกันได้เหมือนกับพิมพ์ภาพออกมาจากเครื่องพิมพ์แบบ 3มิติอีกด้วย ปากกา 3Doodler ยังสามารถเริ่มวาดจากที่ไหนก็ได้อีกด้วย [ราคา 149 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 4,900 บาท]
Ozobot
หุ่นยนต์ขนาดจิ๋วที่โชว์ตัวที่งาน CES 2015 ที่ผ่านมา และยังเป็นโปรเจ็คที่ระดมทุนมาจาก Kickstarter ด้วย ตัวหุ่นยนต์สามารถใช้งานได้ง่าย ถูกออกแบบให้ทำงานไปตามเส้นที่คนวาดขึ้นมาบนพื้นผิวหน้าจอของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต หรือแม้แต่บนกระดาษก็สามารถทำงานได้ นอกจากนี้ Ozobot ยังสามารถรับคำสั่งต่างๆได้มากกว่า 1,000 คำสั่งและใช้งานได้อย่างต่อเนื่องนาน 40 นาที [ราคา 60 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 2,000 บาท]
Thermodo
หนึ่งในโปรเจ็คที่ระดมทุนสำเร็จผ่านทาง Kickstarter และมีการนำมาโชว์ตัวที่งาน CES 2015 ด้วย โดย Thermodo นั้นจะทำการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้กลายเป็นเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิของอากาศรอบตัวของคุณผ่านทางเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายใน Thermodo และจะมีการแจ้งเตือนผ่านทางแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน [ราคา 29.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 999 บาท]
Power Up 3.0
หนึ่งในโปรเจ็คที่ระดมทุนผ่าน Kickstarter นี่คืออุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนเครื่องบินกระดาษให้กลายเป็นเครื่องบินบังคับโดยการสั่งงานผ่านทางสมาร์ทโฟน และถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นรุ่นที่ 3 แล้วด้วย โดยการใช้งานนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอไรแค่พับเครื่องบินกระดาษและหนีบชุดคิท Power Up 3.0 เข้าไปในเครื่องบินกระดาษและทำการร่อนเครื่องบินกระดาษออกไปก็จะสามารถควบคุมเครื่องบินกระดาษผ่านทางสมาร์ทโฟนพร้อมทั้งกำหนดการเลี้ยวของเครื่องบินกระดาษได้ด้วย [ราคา 49 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 1,500 บาท]
Mi Band
สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นแรกจากแบรนด์ชื่อดังที่กำลังมาแรงจากประเทศจีนในขณะนี้อย่าง Xiaomi ซึ่ง Mi Band นี้สามารถตรวจจับการออกกำลังกายและการนอนหลับได้ และยังสามารถทำตัวเป็นนาฬิกาปลุกได้อีกด้วย Mi Band สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 วันต่อการชาร์จไฟครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย [ราคา 79 หยวน ราวๆ 500 บาท]
Netatmo June
อุปกรณ์สวมใส่ wearable device ที่ออกแบบมาเพื่อสาวๆโดยเฉพาะ เพราะ Netatmo June นี้สามารถบอกดัชนีของแสง UV ให้ผู้สวมใส่รับรู้ได้ เพื่อที่จะสามารถหาครีมกันแดดมาทา หรือเตรียมรับมือกับแสงแดดที่มากในวันนั้นว่าจะหยิบร่มหรือหมวกมาสวมใส่ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามการออกกำลังกาย และเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนได้
Wowwee Mip Robot
Wowwee Mip Robot หุ่นยนต์จากค่าย Wowwee ที่มีการนำมาโชว์ตัวที่งาน CES อยู่บ่อยๆ โดยWowwee Mip เป็นหุ่นยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อสามารถเคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่างๆได้มากมาย หรือแม้กระทั่งสามารถยกของชิ้นเล็กๆที่อยู่บริเวณด้านหน้าพร้อมกับรักษษสมดุลของตัวมันเองได้ด้วย สามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทเพื่อบังคับตัวหุ่นยนต์ได้ [ราคา 99.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 3,500 บาท]
EHang Ghost
Drone จากโปรเจ็คบนเว็บระดมทุน Indiegogo ที่ระดมทุนจนสำเร็จ และยังมีไปโชว์ตัวที่งาน CES 2015 อีกด้วย โดย EHang Ghost นั้นเป็น Drone ที่บังคับได้โดยใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และเป็น Drone ที่ใช้ในการถ่ายภาพและวีดีโอเพื่อความเร้าใจในการผจญภัยของคุณ [ราคา 879 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 28,900 บาท]
Micro Drone 2.0
Drone รุ่นใหม่ที่นำไปโชว์ตัวที่งาน CES 2015 ที่ผ่านมา เป็น Drone แบบ 4 ใบพัด สามารถถ่ายวีดีโอและสตรีมมิ่งมายังสมาร์ทโฟนได้ในทันที นอกจากนี้ยังสามารถบินตีลังกาพลิกกลับด้าน 360 องศาได้อีกด้วย ความเจ๋งของ Drone รุ่นนี้ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะสามารถนำไปแปะติดกับผนังกระจกและบินในแนวตะแคงได้อีกด้วย [ราคา 69.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 2,500 บาท]
DJI Inspire 1
สุดยอด Drone รุ่นใหม่ล่าสุดที่ติดกล้องความละเอียดสูงถึง 4K เป็น Drone แบบ 4 ใบพัด พร้อมกับราคาเปิดตัวเหยียบแสนบาท ตัว DJI Insprie 1 นั้นสามารถเคลื่อนไหวได้มากถึง 3 ทิศทาง นอกจากนี้ยังมีระบบ optic flow ที่สามารถบันทึกวีดีโอและภาพได้โดยไม่มีการสั่นไหวแต่อย่างใด นอกจากนี้ภาพที่กล้องของ DJI Inspire 1 เห็นนั้นจะถูกถ่ายทอดส่งกลับมายังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ด้วย
ทั้งนี้ผู้จัดงาน Mobile Expo ยังบอกอีกว่า Gadget ทั้งหมดนี้แค่เรียกน้ำย่อยเท่านั้น ของจริงเยอะกว่านี้! พบกับเหล่า Gadget รุ่นใหม่ล้ำสมัยมาอีกเพียบ พร้อมอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างอากาศยานไร้ขนขับ (Drone) ที่มีการพัฒนาขีดความสามารถไปจนถึงการถ่ายวีดีโอในระดับ 4K และเหล่า Gadget ที่ใช้งานควบคู่กันกับสมาร์ทโฟน รวมไปจนถึงอุปกรณ์เพื่อสุขภาพไฮเทคที่มีหลากหลายรูปแบบ
และทั้งหมดนี้พบได้ที่ Gadget Zone ณ งาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้ตั้งแต่วันที่ 12-15 กุมภาพันธ์
