แชร์เรื่องราวผ่านกล้องถ่ายภาพได้ทั้งสองด้านอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอยอย่าง Nokia 8 ที่จุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพ Zeiss และใช้งานพร้อมกล้องหน้าได้ ไปจนถึงสเปคระดับสูงและดีไซน์สวยที่สร้างขึ้นจากฝีมือชั้นเลิศ
NOKIA 8 สมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอย
โนเกีย 8 เป็นสมาร์ทโฟนที่ผ่านทั้งการออกแบบและการผลิตชั้นดีทั้งตัวเครื่องที่ผ่านการผลิตด้วยเครื่องจักรปรับสภาพผิว ขัดเงาอลูมิเนียมถึง 40 ขั้นตอน มีโครงสร้างตัวเครื่องแบบไร้รอยต่อ ดีไซน์ขนาดให้กระชับพอดีกับมือของคุณ และยังสามารถกันละอองน้ำ กันฝุ่นระดับ IP54 ได้ อย่างน้อยถ้าไปเจอฝนตกหรือฝุ่นควันตัวเครื่องก็ช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง แต่อย่านำไปจุ่มน้ำเชียวล่ะ
ใช้หน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 5.3นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1440 x 2560 พิกเซล (2k) พร้อมกระจกครอบทับหน้าจอ Gorilla Glass 5ที่เป็นวัสดุชั้นดี ส่วนดีไซน์อินเตอร์เฟซนี่เห็นปุ๊บรู้เลยว่าคือโนเกีย เข้าสู่หน้าเมนู App Drawer ได้ด้วยการปัดขึ้น-ลงการแสดงผลก็ยังทำได้ดีทีเดียว ทั้งความคมชัดและการแสดงสีสันที่สมจริง และยังมีลูกเล่นพิเศษอย่าง Always On หรือการแสดงเวลาและการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อคสกรีน ทำให้ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อดูเวลาและเช็คการแจ้งเตือนต่างๆ อีกต่อไป
หน่วยประมวลผลของรุ่นนี้เป็นสิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียว ทั้งชิปเซต Qualcomm Snapdragon 835 Octa-core 2.5 GHzRAM 4GB ROM หรือพื้นที่ในเครื่องความจุ 64GB ไหนจะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์7.1.1 (Nougat)เรื่องความเร็ว ความลื่นไหลหลังจากสัมผัสการใช้งานจริงทำได้ดีมากๆ เลยล่ะ ทดสอบการรันกราฟิกด้วยเกมที่ต้องใช้พลังจากตัวเครื่องหนักๆ ก็ยังให้ความลื่นไหลที่ดี พบอาการกระตุกน้อยมากๆ นับว่าเป็นอีกตัวเลือกน่าสนใจถ้าใครต้องการสมาร์ทโฟนแรงๆ ลื่นๆ ใช้งานคล่องตัว
ส่วนจุดเด่นอย่างกล้องถ่ายภาพคู่ Carl Zeiss 13ล้านพิกเซลก็ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ตัวกล้องที่จัดวาง ออกแบบเสมือนกล้องถ่ายภาพจริง ด้วยการจัดวางที่เรียงทั้งตัวกล้องคู่ แฟลช dual-tone LED และเซ็นเซอร์อินฟราเรดสำหรับใช้งานโฟกัสภาพให้แม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนโหมดถ่ายภาพในตัวก็ทำได้น่าถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นกกล้องถ่ายภาพที่เลือกใช้กล้องตัวใดตัวหนึ่ง (ภาพสีหรือขาวดำ)
หรือใช้งานกล้องคู่ก็ทำได้ โหมดถ่ายภาพแบบโปรมีให้เลือกทั้งค่าสมดุลสีขาว ค่าความสว่าง ระบบโฟกัสแบบต่างๆ ทั้งแบบออโต้ เฉลี่ยหนักกลาง โหมดถ่ายภาพไลฟ์โบเก้ (Live Bokeh) ช่วยปรับฉากหลังให้เบลอได้ตามชอบ หรือจะเป็นการโฟกัสภาพแบบแมนนวล ปรับค่าด้วยตัวเอง หรือถ่ายภาพระยะใกล้ (มาโคร) เพื่อให้เกิดภาพหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้และนอกจากกล้องคู่ Carl Zeiss แล้ว โนเกีย 8 ยังส่งฟีเจอร์แสนสนุกมาให้ลองเล่นกันอย่าง Dual Sight Mode ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้พร้อมกับจากกล้องหน้าและกล้องหลัง
คุณภาพภาพถ่ายจากกล้องคู่ของ โนเกีย 8 น่าจะถูกใจผู้รักภาพถ่ายที่เน้นความสมจริง ถ่ายทอดสีสันได้ไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงความคมชัดในระดับดี เมื่อแตะจอเพื่อโฟกัสและถ่ายภาพ ภาพที่ได้จะมีความคมชัด ตัวแบบมีความโดดเด่นเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นความคมชัดมากจนเกินไป ถ้าใครหวังว่า โนเกีย 8 เป็นกล้องถ่ายภาพที่ให้ผลงานคุณภาพดี รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง
เรื่องการถ่ายวิดีโอก็ไม่มีปัญหา รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4k และทางโนเกียได้เพิ่มระบบเสียงใหม่ล่าสุดอย่าง Nokia OZO Audioที่บันทึกเสียงรอบทิศทาง 360 องศาด้วยกัน และนั่นทำให้วิดีโอที่ถ่ายจาก โนเกีย 8 ถ่ายทอดพลังเสียงและระดับเสียงอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนลำโพงในตัวรุ่นนี้ก็ใช่ย่อย ให้เสียงที่ดังกระหึ่มและไพเราะทีเดียวหรือถ้าใครเน้นการฟังเพลงก็รองรับเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.0ที่สามารถแชร์เพลงผ่านหูฟังไร้สายหรือลำโพง 2 ตัวพร้อมกัน
ที่ขาดไม่ได้เลยกับการเชื่อมต่อรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ USB Type-C 3.1, เชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE, NFC สำหรับการใช้งานประเภทอื่นๆ หรือจะใช้ 2 เบอร์ 2 ซิมการ์ดก็ทำได้ แต่สลอตซิมการ์ดในรุ่นนี้ยังเป็นแบบไฮบริด ที่ต้องเลือกว่าจะใช้งาน microSDหรือซิม 2 นั่นเอง
Physical Overview
กล้องหน้า 13ล้านพิกเซลจัดวางเหนือขอบจอ
ใต้จอคือเซ็นเซอร์สแกนนิ้วขนาบด้วยปุ่ม Back และ Recent Apps
ด้านซ้ายของเครื่องมีถาดใส่ซิมแบบสลอตไฮบริด
ด้านขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มวอลลุ่มและปุ่มพาวเวอร์
ด้านบนมีเพียงช่องหูฟัง 3.5 มม
ด้านล่างเป็นพอร์ต USB Type-C ลำโพงและช่องไมค์
กล้องถ่ายภาพคู่ 13 ล้าน และ Dual-LED Flash dual-tone จัดวางเข้าชุดกัน
Final Opinion & Conclusion
โนเกีย 8 น่าจะสร้างความประทับใจให้แฟนๆ ที่คิดถึงและรอคอยมานานได้ไม่ยาก ด้วยดีไซน์ที่ไม่ได้จัดจ้าน แต่เรียบง่ายและมีสเน่ห์ วัสดุตัวเครื่องชั้นดี ใช้งานได้รวดเร็ว จุดเด่นอย่างกล้องคู่ Carl Zeiss ก็ทำได้น่าประทับใจ ไม่ว่าจะมือสมัครเล่นหรือมือโปร โนเกีย 8 เป็นอีกตัวเลือกที่จะทำให้คุณถ่ายภาพสนุก รวมถึงการถ่ายวิดีโอ 4k และระบบเสียง Nokia OZO ที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ใครที่คิดถึงมือถือโนเกีย หรืออยากลองความเป็นแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนจากแบรนด์นี้ ขอแนะนำ
Strength
- ตัวเครื่องยูนิบอดี้ ทำจากอลูมิเนียม
- หน้าจอแสดงผล 5.3นิ้ว ความละเอียด 2k (1440 x 2560 พิกเซล)
- ชิพเซต Snapdragon 835 Octa-core 2.5 GHz
- พื้นที่ภายในเครื่อง (ROM) 64 GB / RAM 4 GB / เพิ่ม microSDสูงสุด / 256 GB
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์1.1(Nougat)
- กล้องถ่ายภาพคู่ Carl Zeiss13 ล้านพิกเซล แฟลช dual-tone LED
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ 4k พร้อมระบบเสียง Nokia OZO
- เชื่อมต่อ 4G LTE และ NFC ได้ / รองรับ USB Type-1 / Bluetooth 5.0
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับ 2 ซิมการ์ด (สลอตไฮบริด)
- —————————————————————————————
On Focus
- ปรับฉากหลังให้เบลอตามต้องการด้วยโหมดไลฟ์โบเก้
On Focus
- ถ่ายภาพแบบโปรที่ตั้งค่าได้มากมาย
ข้อมูลทั่วไป
| ขนาด, น้ำหนัก | 151.5 x 73.7 x 7.9มิลลิเมตร, 160 กรัม |
| SIM Card | Nano SIM+Nano SIM |
| แบตเตอรี่ | Li-ion 3,090 mAh |
เครือข่าย
| เครือข่าย 2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz |
| เครือข่าย 3G | 850 / 900 / 1900 /2100 MHz |
| เครือข่าย 4G | 700 / 800 / 850 / 900/ 1700 / 1800 / 1900 / 2100 /2300 / 2500 / 2600 MHz |
หน่วยความจำ
| หน่วยความจำภายใน | 64 GB / RAM 4 GB |
| หน่วยความจำภายนอก | microSDสูงสุด 256 GB |
จอแสดงผล
| ขนาด | 5.3 นิ้ว |
| ความละเอียดและความหนาแน่น | 1440 x 2560พิกเซล (554) |
| ชนิดและจำนวนสี | IPS LCD 16 ล้านสี / Gorilla Glass 5 |
ระบบ
| หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | Qualcomm Snapdragon 835 Octa-core 2.5 GHz |
| หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Adreno 540 |
| ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | Android 7.1.1(Nougat) |
การเชื่อมต่อ
| Wi-Fi | 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band,Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct |
| Bluetooth | รองรับ (v5.0, A2DP, LE) |
| NFC | รองรับ |
| USB | USB Type-C 3.1 |
| ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS, BDS) |
มัลติมีเดีย
| กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
| ความละเอียด | กล้องคู่ 13ล้านพิกเซล / 13ล้านพิกเซล |
| คุณสมบัติ | รูรับแสง F/2.0 / dual-LED dual-tone/ เลนส์ Carl Zeiss/ระบบกันสั่น OIS/ HDR / ไลฟ์โบเก้/ ถ่ายภาพขาวดำ |
| กล้องวิดีโอ | |
| ความละเอียด | 3120 x 2160 (UHD) / 3120 x 2160 (UHD) |
| คุณสมบัติ | เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ |
| วิทยุ | ไม่มี |
| อื่นๆ |
ราคา 19,500 บาท
