ออปโป้ ผู้นำแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกได้ประกาศอัพเกรด ColorOS เวอร์ชั่นทดลองใช้ บนระบบปฎิบัติการ Android 10 อย่างเป็นทางการ โดย OPPO Reno จะเป็นรุ่นแรกที่ได้รับการอัพเกรด นอกจากนี้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เช่น OPPO Reno 10x Zoom และ OPPO Reno2 ก็จะได้รับการอัพเกรดภายในปี 2019 นี้เช่นกัน ซึ่งเวอร์ชั่นทดลองตัวอัพเดตรุ่นใหม่ก่อนวางจำหน่ายจะครอบคลุมในประเทศอินเดีย ประเทศอิโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย โดยสิทธิ์เข้าร่วมใช้งานเวอร์ชั่นทดลองมีจำนวนจำกัด และเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ วันที่ 25 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ด้วยการที่ OPPO เป็นหนึ่งในพาทเนอร์ที่สำคัญที่สุดของระบบปฎิบัติการ Android ซึ่งระบบ ColorOS ใน OPPO เป็นหนึ่งในระบบปฎิบัติการแรกที่สามารถทำงานควบคู่กันกับระบบปฎิบัติการ Android 10 โดยระบบปฎิบัติการ ColorOS 6 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มีต้นแบบมาจาก ระบบปฎิบัติการ Android 10 มาพร้อมกับฟีเจอร์สามารถปรับแต่งให้เหมาะผู้ใช้งานแต่ละคน โดยระบบปฎิบัติการ ColorOS จะช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆกับการออกแบบการใช้งานได้ด้วยตัวเองโดยระบบนี้มาพร้อมกับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่น การนำทางด้วยท่าทางและการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น
มุมมอง Dark Mode แบบใหม่
ภายใต้คอนเซปการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัดของ OPPO ระบบปฎิบัติการ ColorOS เวอร์ชั่นใหม่มาพร้อมกับ Dark Mode แบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งช่วยถนอมสายตาผู้ใช้งาน และแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ โดย User Interface (UI) มาพร้อมกับระบบควบคุมความสว่างแบบอัตโนมัติที่สามารถเปิดใช้งาน Dark Mode ปรับแสงให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในที่แสงจ้าหรือในที่แสงน้อย มอบการทำงานที่มีประสิทธิภาพในทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังสามารถเพิ่มความคมชัดให้ตัวอักษรสีขาว โดยคุณสมบัติพิเศษของ UI นี้ยังครอบคลุมถึงการใช้งานในแอปพลิเคชันอื่นๆ สามารถตั้งค่าเปิดใช้ได้อย่างง่ายดาย
การนำทางหน้าจอ Full Screen แบบใหม่สู่อีกขั้นของการนำทางที่ลื่นไหล
อีกหนึ่งการอัปเดตที่สำคัญคือระบบการรองรับท่าทางแบบเต็มหน้าจอ OPPO เป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่เปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอ Full Screen ในซีรีย์ R15 ซึ่งเป็นรุ่นที่เปิดตัวระบบการรองรับ Full Screen Gesture การอัปเดตใหม่นี้ช่วยการนำทางด้วยท่าทางแบบเต็มหน้าจอได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ระบบปฎิบัติการ ColorOS นำเสนอสามการนำทางที่จะทำให้การใช้งานลื่นไหลยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การปัดนิ้วจากด้านซ้ายของหน้าจอเพื่อกลับไปยังหน้าก่อนหน้า, การปัดขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอเพื่อกลับไปที่หน้าจอหลัก, การดูแอพที่เปิดอยู่ทั้งหมดผู้ใช้สามารถปัดขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอแล้วหยุดประมาณหนึ่งในสามของหน้าจอ และการนำทางด้วยท่าทางให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนในทุกๆวัน
ความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น
Android 10 Digital Wellbeing เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงและจัดการกับการใช้งานโทรศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการใช้งานโทรศัพท์ว่าเปิดเข้าแอพลิแคชั่นบ่อยแค่ไหน และสามารถตั้งค่าขีดจำกัดในการใช้งานบางแอพพลิเคชั่นได้ด้วยตัวจับเวลา ทั้งยังมีฟีเจอร์ Wind Down ที่สามารถเตือนผู้ใช้ให้ปิดการทำงานในตอนกลางคืน ด้วยการตั้งเวลาเข้านอนช่วยให้นอนหลับตามเวลาได้มากขึ้น ถือเป็นความสำเร็จของ Android 10 Digital Wellbeing ที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
ที่ผ่านมาสนับสนุนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวทั้งเรื่องการโทรเข้าออก, บันทึกเสียงการสนทนา, บัญชีรายชื่อ, ข้อความ, กล้องหรือวิดีโอ และอีกมากมาย OS จะไม่แสดงข้อมูลต่างๆ เมื่อแอพพลิเคชั่นต้องการที่จะเข้าถึงรายชื่อ, บันทึกการสนทนา, ข้อความ, และการนัดหมาย เพื่อให้สามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวได้
นอกจากการตั้งค่าใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว Android 10 ยังให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งการแชร์โลเคชั่น เมื่อแอพพลิเคชั่นต้องการรู้ที่อยู่ของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถแชร์ตำแหน่งนั้นได้เฉพาะเมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้นอยู่ หรือจะบล็อคการเข้าถึงทั้งหมดก็ได้เช่นกัน ถ้าหากแอพพลิเคชั่นได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลา Android จะเตือนผู้ใช้ 1 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ สามารถเข้าไปควบคุมการตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย
ขั้นตอนการทดลองใช้งาน
ไปที่การตั้งค่า – การอัพเดตซอฟต์แวร์ – ไอคอนการตั้งค่า- อัพเกรดเวอร์ชั่นทดลอง และสถานที่ต่างๆ จะปรากฏแบบเรียลไทม์ โดยสิทธิ์เข้าร่วมใช้งานเวอร์ชั่นทดลองมีจำนวนจำกัดในการอัพเกรดเวอร์ชั่นทดลอง ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai/