OPPO เปิดตัวเรือธงประจำปีนี้ด้วย OPPO Find X3 Pro จุดเด่นคือกล้องหลังที่มีความละเอียด 50 Megapixel สองตัว หน้าจอที่ปรับรีเฟรชเรทได้หลายระดับ
สเปคโดยรวมของ OPPO Find X3 Pro มีดังนี้
- หน้าจอ: 6.7 นิ้ว (LTPO AMOLED)
- หน่วยประมวลผล: Snapdragon 888
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 256GB
- หน่วยความจำ: 12GB (LPDDR5)
- กล้องหลัง: 50 (Wide) + 50 (UltraWide) + 13 (Telephoto) + 3 Macro) Megapixel
- กล้องหน้า: 32 Megapixel1
- ระบบปฏิบัติการ: ColorOS 11.2 (Android 11)
- แบตเตอรี: 4,500 mAh
- ระบบชาร์จไฟ: SuperVOOC 2.0 (65W)
หน้าจอ LTPO AMOLED ของ OPPO Find X3 Pro สามารถปรับรีเฟรชเรทได้ตั้งแต่ 5Hz ไปจนถึง 120Hz ทำให้ยามที่ไม่ใช้งานก็สามารถประหยัดพลังงานแม้จะเปิดหน้าจอเอาไว้ ส่วนระบบสัมผัสนั้นทำงานที่ 240Hz Touch Sampling
กล้องหลังของ OPPO Find X3 นั้นมีทั้งหมดสี่ตัว ตัว Wide Angle และ Ultra Wide Angle ทั้งคู่ใช้เซนเซอร์ 50 Megapixel ตัวเดียวกัน (SONY IMX766) รองรับทั้ง OIS, EIS, และ All Pixel Omni-directional PDAF ทำให้แม่นยำในทุกสภาพแสง สำหรับเลนส์ Telephoto ขนาด 13 Megapixel นั้นรองรับการทำ 5X Hybrid zoom และมีระยะโฟกัส 52mm ทำให้เหมือนเปิดโหมดซูม 2 เท่า และเลนส์ Macro ขนาด 3 Megapixel สามารถถ่ายระยะประชิดกับวัตถุได้ (โฆษณาว่าสูงสุด 60 เท่า)
กล้องหน้านั้นมีความละเอียด 32 Megapixel แบบ Punch Hole ขอบซ้ายบนของหน้าจอ
ตัวเครื่องรองรับ Wireless Charging เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ โดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า AirVOOC Wireless Flash Charge สามารถชาร์จแบบไร้สายได้สูงสุดที่ 30W (ต้องซื้อแท่นชาร์จแยก) โฆษณาว่าชาร์จไฟเต็มแบตเตอรีได้ภายใน 80 นาที แต่ถ้าผู้ใช้งานต้องการความเร็วที่สูงที่สุด SuperVOOC 2.0 ชาร์จไฟผ่านสายสามารถจ่ายพลังงานได้ 65W ทำให้ชาร์จแบตเตอรีเต็มในเวลา 30 นาทีเท่านั้น
OPPO Find X3 Pro ใช้ Snapdragon 888 จึงเชื่อใจในแง่ของพลังประมวลผลได้ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ในตัว โดยรองรับความถี่ 13 ช่วงคลื่น ทั้งแบบ SA และ NSA และการเชื่อมต่อไร้สายสารพัดรูปแบบ เช่น Bluetooth 5.2, WiFi 6E เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่หลากหลายที่สุดในเวลานี้ ส่วนลำโพงของ OPPO Find X3 Pro นั้นระบุว่าได้รับการรองรับมาตรฐานโดย Dolby Atmos
ตัวเครื่องมีให้เลือกรุ่นเดียวครับ คือ RAM 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB มีให้เลือกสองสี คือ Gloss Black หรือ Blue Matte ราคาอยู่ที่ 1149 ยูโร (ราวๆ 42,200 บาท)
ที่มา – GSMArena