Pebble กลับมาเปิดโครงการระดมทุนบน Kickstarter อีกแล้ว ครั้งนี้เปิดตัวนาฬิการุ่นที่ 2 “Pebble 2” และ “Pebble Time 2” เสริมความสามารถในเรื่องของการออกกำลังกายมากขึ้น ด้วยระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และใช้งานเป็น Activity Tracker ได้ด้วย
Pebble 2 และ Pebble Time 2 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?
สำหรับ Pebble 2 หน้าตาตัวเรือนจะเป็นพลาสติกทั้งหมดรวมถึงสายที่เป็นแบบยางซิลิโคน หน้าจอใช้เป็นขาวดำแบบ E-Ink ที่มองได้ชัดแม้ในกลางแดด ส่วน Pebble Time 2 ตัวเรือนวัสดุจะใช้เป็นสแตนเลสสตีลที่ดูพรีเมี่ยม และใช้หน้าจอเป็น E-Ink ที่เป็นแบบสี พร้อมทั้งปรับขนาดให้ใหญ่กว่ารุ่นแรกถึง 53%
ทั้ง 2 รุ่นนี้ติดตั้ง Heartrate Monitor แบบแสงเอาไว้ที่หลังตัวเรือนเพื่อใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้งานเป็น Tracker เพื่อใช้นับก้าวเดินในแต่ละวัน รวมถึงเก็บข้อมูลคุณภาพในการนอนให้อีกด้วย โดยทาง Pebble ได้ทำระบบที่ชื่อว่า “Pebble Health” สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้มาประมวลผล
ตัวเรือนกันน้ำได้ลึก 30 เมตรเรียกได้ว่าใส่ลงสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่นั้น Pebble 2 ใช้ได้นานต่อเนื่อง 7 วัน ส่วน Pebble Time 2 ใช้ได้นานถึง 10 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รวมถึงยังมีตัวไมโครโฟนติดตั้งมาให้ในตัวอีกด้วย
สำหรับราคาที่เปิดให้สั่งจองผ่านทาง Kickstarter ตอนนี้ Pebble 2 ราคา $99 (จากราคาเต็ม $129) มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี จะเริ่มจัดส่งให้คนที่จองในเดือนกันยายน 2016 ส่วน Pebble Time 2 ราคาจอง $169 (จากราคาเต็ม $199) มีให้เลือก 3 สี เริ่มจัดส่งสินค้าเดือนพฤศจิกายน 2016 นี้
Pebble Core อุปกรณ์พกพาสำหรับคนรักการวิ่ง
ในครั้งนี้ Pebble เปิดโครงการใน Kickstarter ไม่ได้มาแค่นาฬิกาเพียงอย่างเดียว แต่มีอุปกรณ์ใหม่ที่ชื่อว่า Pebble Core เป็น Wearable Device รูปทรงสีเหลี่ยมพร้อมคลิปสำหรับเหน็บกับเสื้อผ้า ในตัวเครื่องจะมี GPS สำหรับระบุพิกัดจากดาวเทียมพร้อมทั้งเชื่อมต่อออนไลน์ได้ผ่านทาง Wi-Fi และ 3G (ใส่ซิมแบบ micro sims)
คุณไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนไปวิ่งอีกต่อไป เพราะมันจะบันทึกทั้งเส้นทางที่วิ่ง, Pace, ความเร็ว ฯลฯ ในระหว่างที่วิ่งและใส่หูฟัง จะมีเสียงคอยแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลการวิ่งให้ด้วย เมื่อวิ่งเสร็จกลับมาก็ทำการซิงค์ข้อมูลเข้ากับแอพของ Pebble รวมถึงสามารถเอาข้อมูลนี้เชื่อมต่อกับแอพออกกำลังกายชื่อดังได้ด้วย อาทิ Runkeeper, Strava, Under Armour Records, Mapmyrun และ Google Fit ได้อีกด้วย
Pebble Core ยังสามารถเสียบกับหูฟังเพื่อฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งจากแอพ Spotify ได้ หรือจะใส่เพลงเองก็มีพื้นที่เก็บให้ 4GB มีฟีเจอร์ Voice Note สำหรับบันทึกเสียงของคุณขณะที่กำลังวิ่ง และยังมีฟีเจอร์ส่ง SMS ได้ในกรณีฉุกเฉินอีกด้วย
ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 1 อาทิตย์สำหรับการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถเชื่อมต่อเกับนาฬิกา Pebble เพื่อใช้แสดงผลข้อมูลการวิ่ง, ควบคุมการเล่นเพลง ฯลฯ ได้
Pebble Core เปิดให้จองใน Kickstarter ในราคา $69 (จากราคาปกติ $99) สินค้าจะเริ่มจัดส่งให้ในช่วงเดือนมกราคมต้นปี 2017 นอกจากนี้ยังมี Pebble Core รุ่น for Hacker ที่จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถเขียนโปรแกรมผ่าน SDK เพื่อดัดแปลงมันเอาไปใช้งานอื่นๆ อาทิ
สำหรับคนที่สนใจ สามารถเข้าไปสั่งจองสินค้าได้ที่เว็บของ Kickstarter ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ สำหรับสินค้าในการจัดส่งมายังประเทศไทยจะมีค่าจัดส่งเพิ่มอีก $15