ปุณณมี สุขยิ่ง หรือ นะดา เจ้าของร้าน “ฮาลาลปันสุข by นะดา” หนึ่งในผู้ประกอบการ ดีแทค เน็ตทำกิน เล่าถึงอดีตอันน่าขมขื่นที่เธอนั้นถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
นะดา เกิดและเติบโตที่ จ.นครราชสีมา จบการศึกษาชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาการบัญชี จากนั้นก็เข้ารับราชการที่หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี พร้อมกับใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์เรียนต่อในระดับปริญญาตรี พร้อมกับแต่งงานและตั้งครรภ์ ในปี 2539 เธอได้รับคำสั่งโอนย้ายไปรับราชการที่ จ.อำนาจเจริญ จนกระทั่งปลายปี 2543 เธอได้รับคำสั่งให้ออกจากราชการเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในของส่วนกลางพบการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
นอกจากจะสูญเสียหน้าที่การงาน เธอยังตกอยู่ในสถานะหม้ายจากการหย่าร้าง ในขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่ในวัยกำลังโต ระหว่างที่กระบวนการยุติธรรมคงดำเนินต่อไป เธอตัดสินใจจากแก้วตาดวงใจอายุ 3 ขวบกว่ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่กรุงเทพฯ โดยปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกผิดและอับอาย ฝากลูกชายเพียงคนเดียวให้แม่ช่วยดูแล ขณะเดียวกัน เธอได้งานทำที่ศูนย์พยาบาลแห่งหนึ่งรับดูแลผู้ป่วย
“ถึงแม้จะเป็นงานที่เหนื่อย ไม่มีเวลาส่วนตัว แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์แก่ผู้อื่น ไม่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลาเหมือนที่เคยเป็น เพราะพี่รู้ว่าสิ่งที่ทำในอดีตผิดพลาดอย่างมาก แต่พี่ก็ไม่สามารถกลับแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตได้” นะดา เผยความในใจ
เธอประกอบอาชีพดูแลผู้ป่วยอยู่หลายปีและเปลี่ยนงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ จนกระทั่งปีปลายปี 2557 เธอถูกศาลตัดสินจำคุกทั้งสิ้น 50 ปี พร้อมด้วยคำนำหน้าว่า “น.ญ.” ประตูแดนนารีของเรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญต้อนรับเธอเป็นเวลา 6 เดือนจนคดีสิ้นสุดลง ต่อมาจึงย้ายมาสู่ทัณฑสถานหญิง จังหวัดนครราชสีมา
ในวันแรก เธอเข้าใจว่า เธอจะได้รับการประกันตัวและถูกกักกันเพียงวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น แต่สุดท้าย เธอถูกศาลคัดค้านการประกันตัว และต้องใช้ชีวิตหลังกำแพงนับตั้งแต่นั้น ผู้บังคับแดนให้คำแนะนำว่าขอให้อยู่ในระเบียบวินัย ความสุขสร้างได้โดย “สร้างมิตรภายใน ตัดมิตรภายนอก”
“ในเรือนจำ ถือว่าเป็นความโชคดีที่ได้มิตรที่ดี สามารถปฏิบัติตามหลักศาสนาได้ ทั้งการทำละหมาดและการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และการมีอาหารฮาลาลกิน ซึ่งนี่ถือป็นความสุขในฐานะอิสลามิกชนของพี่” นะดา กล่าว
อิสรภาพที่มาพร้อมโอกาส
เธอได้รับอิสรภาพอีกครั้งในปี 2564 โดยในขวบปีแรกหลังจากได้รับการปล่อยตัว เธอยังคงอยู่ในภาวะกลัวสังคม ไม่กล้าสู้หน้าผู้อื่น เก็บตัว นอกจากนี้ การกลับไปประกอบวิชาชีพนักบัญชีเหมือนในอดีตก็คงยาก เธอเลยเลือกเป็นแม่ค้าทำอาหารสสำเร็จรูปใส่กล่องขายหน้าโรงงาน เวลา 6.00-8.30 น. ของทุกวัน ขณะเดียวกัน ลูกค้าหลายรายก็เรียกร้องว่า อยากให้นะดาทำร้านอาหารที่ให้พวกขาได้นั่งกินในตอนกลางวันได้ พร้อมกันนั้น เธอได้มีโอกาสร่วมโครงการ “Hygiene Street Food สร้างโอกาส” โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยได้รับการสนับสนุนเป็นรถเข็นและอุปกรณ์ทำร้าน
ระหว่างการอบรม เธอมองเห็นโอกาสว่า ก๋วยเตี๋ยวที่เป็นฮาลาลเป็นอาหารที่หาทานค่อนข้างยาก ขณะที่เธอก็มีความสนใจอยู่แล้ว จึงขอสูตรก๋วยเตี๋ยวไก่ที่น้องสาวเคยทำขายมาดัดแปลงเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เนื่องจากความนิยมของการทานเนื้อวัวที่เพิ่มขึ้น พร้อมกันนั้น นะดายังได้เข้าร่วมโครงการ #ชิมเรียกยิ้ม โดยเข้าอบรมการทำตลาดออนไลน์กับทางดีแทค เน็ตทำกิน
ออนไลน์มอบชีวิตใหม่
“จากวันแรกพี่ทำไม่เป็นเลย เพราะพี่เองก็อยู่ในเรือนจำเป็นเวลานาน ขณะที่เทคโนโลยีก็ก้าวไปไกลมาก แต่ได้โค้ช ดีแทค เน็ตทำกิน มาถ่ายทอดความรู้ ย่อยเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย มีความใส่ใจ โทรตามย้ำเตือนตลอด บางครั้งก็เป็นแอดมินให้ ทำให้ร้านฮาลาลปันสุขมาไกลได้จนถึงทุกวันนี้” นะดา กล่าวอย่างตื้นตัน
วันนี้ เธอสามารถใช้แอปพลิเคชันในการรับออเดอร์ ได้เรียนรู้และใช้ช่องทางออนไลน์ในการหาลูกค้าประจำ อย่างการปักหมุดบน Google map เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในซอย ทำให้ไรเดอร์สามารถตามเข้ามาได้ ลูกค้าหลายรายตามมาชิมจากที่ไกลๆ ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และนำมาสู่การเพิ่มยอดขายได้จริง
“ช่วงที่พีคขายดีมากๆ คือช่วงที่มีโครงการคนละครึ่ง จากที่เคยขายได้หลักพัน ก็มียอดขายเพิ่มมากขึ้นขายได้เป็นหลักหมื่นเป็นหลักแสนบาท เพราะการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการค้าขาย จนวันนี้พี่วางแผนขยายสู่สาขา 2 แล้ว” นะดา กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่โอกาสบนโลกออนไลน์ช่วยให้คนต้นทุนน้อยมีโอกาสที่มากขึ้นได้ เช่นเดียวกับนะดาที่มีโอกาสในการอบรมกับดีแทค เน็ตทำกิน ทำให้เธอพลิกฟื้นเหมือนมีชีวิตใหม่ขึ้นมา
หากท่านใดสนใจลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเนื้อแก้มวัวรสเด็ด เค้กกล้วยหอม พร้อมด้วยอาหารตามสั่งชูโรงจานเด็ด เช่น ข้าวกระเพราะเนื้อเปื่อย เนื้อตุ๋น ข้าวไก่ผัดกระเทียม สามารถไปชิมได้ที่ ซอยสามัคคี 18 หรือติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/nadahalanpunsuk หรือสั่งซื้อผ่าน Robinhood ที่ https://bit.ly/3Q5cl4n