HUAWEI ย้ำความแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์ระดับโลก พร้อมมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดติดอันดับ 47 จาก “100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลก” (Top 100 Most Valuable Global Brands) ประจำปีนี้ของ BrandZ ซี่งตีพิมพ์และเผยแพร่โดย Kantar บริษัทวิจัยในเครือ WPP โดยเลื่อนขึ้นหนึ่งอันดับจากปีก่อน ด้วยมูลค่าของแบรนด์ที่เติบโตถึงร้อยละ 8 ทั้งนี้หัวเว่ยติด 50 อันดับแรกของแบรนด์ระดับโลกมา 4 ปีซ้อน
นวัตกรรมระดับปฏิวัติวงการ
ด้วยผลิตภัณฑ์ระดับนวัตกรรมที่เรียกได้ว่า ปฏิวัติวงการของหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็น ระบบกล้องสุดล้ำของสมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Series และเทคโนโลยีอันเลิศล้ำเกินคาดของ HUAWEI Mate X ซึ่งครบครันไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่รองรับระบบ 5G และตัวเครื่องแบบพับได้แนวใหม่ ซี่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งสื่อมวลชนและผู้บริโภค โดยได้รับคำชม “ดีเลิศ” จากบทวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนรางวัลอีกมากมายนับ ไม่ถ้วน และความสำเร็จเหล่านี้ได้สะท้อนออกมาในรูปของตัวเลขยอดขายที่พุ่งขึ้นในทุกภูมิภาคบนโลกอีกด้วย
ยอดขายอันโดดเด่น
บริษัทวิเคราะห์ชื่อดัง “IDC” ระบุใน “Worldwide Mobile Device Tracker” ฉบับล่าสุดว่า หัวเว่ยเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่มีความโดดเด่นในมุมมองของผู้ผลิตเนื่องจากสามารถเพิ่มยอดส่งสินค้าได้มากกว่าร้อยละ 50 พร้อมย้ำว่า จุดยืนอันชัดเจนต่อการสร้างสรรค์แบรนด์ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เคลื่อนที่ของหัวเว่ย ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใกล้แบรนด์ผู้นำตลาดอย่างซัมซุงได้มากยิ่งขึ้น กลายเป็นแบรนด์หมายเลข 2 ที่มีความแข็งแกร่งเต็มที่
รายงานของ IDC ยังเปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันหัวเว่ยมีส่วนแบ่งการตลาดในหมวดสมาร์ทโฟน สูงถึงร้อยละ 19 ในตลาดโลก และถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับแนวหน้าเพียงรายเดียวที่สามารถเพิ่มยอดการจัดส่งสินค้าได้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019
ความสำเร็จของหัวเว่ย ส่งผลให้เห็นภาพเทรนด์ขาขึ้นของแบรนด์จีนในตลาดโลกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ 15 ใน 100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลก ล้วนเป็นแบรนด์ที่มาจากแดนมังกร นอกจากนี้แล้ว 4 ใน 9 ของแบรนด์ที่เพิ่งติดอันดับเป็นครั้งแรกจากการจัดอันดับโดย BrandZ นั้น เป็นแบรนด์จีนด้วยเช่นกัน
โดยรวมแล้ว ดัชนีประจำปี 2019 ระบุว่ามูลค่าโดยรวมของสุดยอด 100 แบรนด์อันดับแรกของโลก สูงขึ้นราวร้อยละ 7 หรือเพิ่มจากประมาณ 4.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มาเป็นประมาณ 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยตัวเลขมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 328 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้บริษัทสินค้าเทคโนโลยีได้ยึดครองตำแหน่งในสุดยอด 10 แบรนด์แรกได้มากถึง 8 ตำแหน่ง และเฉพาะ 8 แบรนด์นี้ มีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของสังคม
โครงการ ‘AI for Good’ ของหัวเว่ย คือ 1 ในตัวอย่างนวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม โดยโครงการนี้ ได้นำเสนอให้เห็นว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ พร้อมที่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับมนุษยชาติเมื่อนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเอาชนะอุปสรรคความท้าทาย ตลอดจนเสริมสร้างโอกาสในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น หัวเว่ยยังมีโครงการอีกมากมายที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นโครงการแปลหนังสือเป็นภาษามือเพื่อเด็กๆ ที่มีความบกพร่องด้านการได้ยิน โครงการอ่านสีหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้ทีมีความบกพร่องทางสายตา ตลอดจนโครงการวินิจฉัยปัญหาทางการมองเห็นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะที่อาการยังสามารถรักษาได้อีกด้วย
“นวัตกรรมระดับปฏิวัติวงการ ยอดขายอันโดดเด่น และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของสังคม คือกุญแจสู่ความสำเร็จ”