หัวเว่ย แนะนำ HUAWEI Watch GT Classic Edition และ Elegant Edition เสริมทัพสมาร์ทวอทซ์ให้ครบครัน ชูจุดเด่นแบตเตอรี่สุดอึดอยู่ได้ยาวนานสูงสุด 2 สัปดาห์ และติดตามการออกกำลังกายและเคลื่อนไหวระดับแนวหน้า ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทวอทซ์ราคาสุดคุ้ม แต่ความสามารถเกินตัว ตรวจจับ ติดตามและวิเคราะห์ทุกการเคลื่อนไหวอย่างไม่คลาดสายตา บนดีไซน์สวยงาม เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความล้ำสมัยใส่ได้ทุกโอกาส
Classic Edition มาพร้อมหน้าปัดขนาด 46 มม. หน้าจอสัมผัส AMOLED HD 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454×454 พิกเซล อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 2 สัปดาห์ในลักษณะการใช้งานทั่วไปตลอดทั้งวัน ส่วน Elegant Edition มาพร้อมหน้าปัดขนาด 42 มม. ขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับข้อมือผู้หญิง หน้าจอสัมผัส AMOLED HD 1.2 นิ้ว ความละเอียด 390×390 พิกเซล รองรับการใช้งานยาวนาน 1 สัปดาห์ โดยทั้งสองรุ่นหากใช้งานในลักษณะนาฬิกาทั่วไป ไม่มีการตรวจวัดการออกกำลังกายจะสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 30 วัน
Classic Edition และ Elegant Edition มาพร้อมการติดตามการออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้ง แถมมีโหมดไตรกีฬา (Triathlon) รองรับการว่ายน้ำในท้องน้ำเปิด การปั่นจักรยานกลางแจ้ง และการวิ่งกลางแจ้ง เพื่อความครบครัน ยังมี HUAWEI TruSeen™ 3.0 สามารถวัดและวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงทั้งในขณะเคลื่อนไหวหรือพัก ด้วยการออกแบบเซ็นเซอร์ออพติคัลแบบ PPG ตลอดจนฮาร์ดแวร์ จนมั่นใจได้ว่าทุกจังหวะการเต้นของหัวใจจะถูกจับตาเพื่อนำไปวิเคราะห์ร่วมกับ AI และ HUAWEI TruSleep™ 2.0 ตรวจจับคุณภาพของการนอนหลับ การหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ เพื่อบันทึก วิเคราะห์ ตลอดจนระบุปัญหาและให้คำชี้แนะการนอนหลับอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น
Classic Edition และ Elegant Edition มีดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาให้เลือกได้อย่างหลากหลาย จึงเข้าได้กับทุกโอกาสในการใช้งาน ไม่ว่าในวันทำงาน ขณะออกกำลังกาย หรืองานเลี้ยงสังสรรค์
โดยรุ่น Elegant Edition สายนาฬิกาทำจากวัสดุฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ (Fluroelastomer) ไม่เพียงทำให้พื้นผิวโดยรวมของนาฬิกาดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้ความทนทานและสวมสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย ตัวเรือนมีให้เลือกได้ในสี Magic Pearl White และสี Magic Black Pearl ซึ่งเป็นสีเซรามิคที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยกระบวนการพิเศษ โดยที่หน้าปัดสีขาว Magic Pearl White ใช้กระบวนการตัดด้วยเพชร เพื่อให้เกิดรอยเส้นตัดบางๆ 48 เส้น แล้วจึงขัดให้เรียบอย่างแม่นยำ ส่งผลให้เกิดเอฟเฟ็คท์เป็นสีที่แตกต่างกันออกไปเมื่อแสงตกกระทบหน้าปัดในมุมที่แตกต่างกัน โดยมาพร้อมสายสีดำและสีขาว ราคา 5,990 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้
ส่วนรุ่น Classic Edition มีสายที่ทำจากหนังแท้สีน้ำตาลและบุด้านใต้ด้วยซิลิโคนเพื่อให้เหมาะกับการออกกำลังกายและคงความสวยงามคลาสิกในเวลาเดียวกัน ตัวเรือนทำจากสแตนเลสแท้ สวยงาม และทรงพลัง ราคา 6,990 บาท