อินเทล ประเทศไทย เปิดตัวนวัตกรรมเด่น
มุ่งเสริมความแข็งแกร่งกับพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2558
กรุงเทพฯ, 12 มีนาคม 2558 — บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงความมุ่งมั่นของอินเทลในปี 2558 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแก่ผู้บริโภคในประเทศไทย ที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างครอบคลุมทุกประเภทตั้งแต่คอมพิวเตอร์ในรูปแบบใหม่ อุปกรณ์โมบายล์ และอุปกรณ์แวร์ เอเบิล (wearables) พร้อมทั้งความพยายามใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถของเหล่าตัวแทนจำหน่ายให้เสมือนเป็นที่ปรึกษาด้านไอทีพร้อมกับการนำเสนอโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มขั้น
นายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2558 จะเป็นปีที่น่าสนใจอีกปีหนึ่งของอินเทล ทั้งในด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค โดยเราจะรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทั้งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพีซีด้วยการนำเสนอพีซีในรูปแบบใหม่ๆ โดยจะมีการเปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ๆ เช่น อินเทล® คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 5 และในกลุ่มโมบายล์โดยเป็นการจัดกลุ่มของแบรนด์อินเทล® อะตอม™โปรเซสเซอร์ ที่ออกแบบในเอเชียเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชีย จะทำให้ผู้ใช้งานเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนั้น จะมีความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ในการผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการสร้างสังคมและเศรษฐกิจโฉมใหม่ตามนโยบายเศรฐกิจดิจิทัล”
จากผลสำรวจ Digital Evolution Index โดย มาสเตอร์ การ์ด* และ The Fletcher School at Tufts University พบว่า ประเทศจีน มาเลเชีย และไทย เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็วที่สุด 3 อันดับแรก สืบเนื่องจากการเพิ่มจำนวนประชากรของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง[1] สำหรับในทวีปเอเชีย อินเทลเล็งเห็นถึงความต้องการใช้อุปกรณ์โมบายล์ที่สูงเป็นประวัติการณ์ จากผลสำรวจล่าสุดของ อินเทลพบว่า ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น มีอัตราการเติบโตของอุปกรณ์โมบายล์รวดเร็วที่สุดในโลก และจะขยายตัวแซงหน้าสหรัฐอเมริกาภายในปี 2561[2]
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่อินเทล® คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 5 คือโปรเซสเซอร์ในตระกูลคอร์รุ่นล่าสุดจากอินเทล ซึ่งใช้กระบวนการผลิตแบบ 14 นาโนเมตร มาพร้อมระบบและการแสดงภาพกราฟฟิกที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อินเทล® อะตอม™ x ซีรีส์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลเต็มรูปแบบเพื่อใช้งานในอุปกรณ์สื่อสารระดับพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต แฟ็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนเป็นการผสมผสานหน่วยประมวลผลแบบ 64 บิทในตระกูลอะตอมแบบมัลติ-คอร์ เข้ากับการเชื่อมต่อเครือข่าย 3G หรือ 4G LTE จึงมีคุณสมบัติที่พร้อมรับมือทั้งแอพพลิเคชั่น ภาพถ่าย ภาพกราฟฟิก เสียง การเชื่อมต่อเครือข่าย และการจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ ซึ่งรวมอยู่ภายในชิปเดียว ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์รายต่างๆ สามารถสร้างสรรค์แท็บเล็ต แฟ็บเล็ต และสมาร์ทโฟนในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
นายสนธิญา กล่าวเสริมว่า “ในด้านนวัตกรรมสำหรับพีซี อินเทลพยายามผลักดันให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละระดับความต้องการของแต่ละภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันเกิดโมเดลการใช้งานใหม่ๆ รวมทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกที่มากขึ้นให้แก่องค์กรและส่วนบุคคล และ อินเทลได้นำเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมรูปแบบการใช้งานที่เปลี่ยนไปออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือพีซีที่มีขนาดเล็กลงไปอีกที่เรียกว่า อินเทล® คอมพิวท์ สติ๊ก ที่จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558”
อินเทล® คอมพิวท์ สติ๊ก คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋ว ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนหน้าจอโทรทัศน์ระบบ HDMI ให้สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง สามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ อาทิ การรับส่งอีเมล การท่องเว็บไซต์และการค้นดูเนื้อหาต่างๆ และการใช้งานเพื่อความบันเทิง นอกจากนั้น คอมพิวท์ สติ๊ก ยังสามารถใช้งานเพื่อประโยชน์ในด้านอื่นๆได้อีก ทั้งด้านการศึกษา การวางระบบเครือข่ายแบบ thin client การใช้งานกับตู้จำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ (kiosk) รวมถึงการเป็นจุดขายสำหรับอุปกรณ์หรือแอพพลิเคชั่นบางประเภท
“อินเทลเชื่อมั่นว่า จากความร่วมมือในการพัฒนาและคิดค้นผลิตภัณฑ์กับพันธมิตรอันหลากหลาย ซึ่งอุปกรณ์และนวัตกรรมต่างๆที่สร้างสรรค์ขึ้นมานี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค เพื่อเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตและการทำงานของคนในยุคดิจิทัลที่มีการผสานเทคโนโลยีเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งอุปกรณ์รวมทั้งโซลูชั่นอันหลากหลายนี้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้ตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ผู้ซื้อในการหาอุปกรณ์และโซลูชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในแบบองค์กรและส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยภายในปีนี้จะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายทะยอยวางจำหน่ายสู่ตลาดประเทศไทย” นายสนธิญา กล่าวทิ้งท้าย
*ชื่อและยี่ห้ออื่นอาจถูกอ้างอิงถึงโดยถือเป็นทรัพย์สินของชื่อยี่ห้อนั้นๆ