ก้าวสำคัญของกลุ่มจัสมิน การที่ประมูลได้คลื่น 900 ถือว่าเป็น Step ที่สำคัญมาก มาวันนี้เราได้โมบายเข้ามามันก็จะเติมเต็มธุรกิจที่เรามีอยู่ ซึ่งในอนาคตอันใกล้ก็จะได้เห็นธุรกิจโมบายกับฟิกซ์บรอดแบรนด์เข้ามาด้วยกัน เรามี Hotspot หลายแสนกว่าจุด ในอนาคตทุกท่านก็จะเห็นการใช้งานโมบายอินเตอร์เนต ที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ
จัสมิน ตั้งเป้าหมายปีแรก (2016) ได้ถึง 2 ล้านเลขหมาย Subscriber ลูกค้าเรามีฐานลูกค้า 3BB อยู่แล้วกว่าล้านครัวเรือน แต่ละบ้านก็มี 3-4 คน พ่อแม่ลูกอยู่แล้ว Potential ประมาณ 6-8 ล้านคน ที่เราพร้อมจะให้ service ตรงนี้ รวมถึงลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่ต้องการ Service ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อตอนต้นปีที่เคยเรียนไปแล้วว่าเราเน้นเรื่องของ Data เป็นหลัก ไลฟ์สไตล์ทุกอย่างทุกคนใช้ Data ตอนนี้การสื่อสารทุกคนใช้สมาร์ทโฟน ส่งข่าวรวดเร็ว ออกที่เว็บไซต์ออกที่โมบาย ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน
ลูกค้าที่พูดถึงเยอะมาก ภายใน 3 ปีเราเชื่อว่าจะมีลูกค้าอย่างน้อย 5 ล้านราย ซึ่งไม่ได้ยากเกินไป อย่างที่เราประเมินไว้ แหล่งเงินทุนมีคำถามเข้ามาเรื่อย ๆ การประมูลครั้งนี้ 75,654 ล้าน ถามว่าแจสเอาเงินมาจากไหน แหล่งเงินทุนของเรามีหลากหลาย อันดับแรกเมื่อตอนต้นปี ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าเราทำ Jasif กองทุน เราจ่ายปันผลแล้วรอบนึง เราก็ยังมีเงินสดเหลืออยู่ 10, 000 ล้าน โอเปอเรชั่นของ 3bb เอง เราก็สามารถ generate รายได้ เรียกว่า Crash flow 5 พันกว่าล้านอัพ โตขึ้นเรื่อย ๆ นอกเหนือกจากนั้นเราก็มีการออก warrant ไปแล้ว warrant มีอายุ 5 ปี ถ้า exercise ครบก็จะมีเงินอีก 15,000 ล้าน
นอกจากนั้นเรายังมีเตรียมทำเรื่อง Project Financing เราได้มีการคุยกับแบงค์ใหญ่เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รวมกับเราก็มี supplier เครดิต ที่เราได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว วงเงินทั้งหมดตรงนี้ก็อีกหลายหมื่นล้าน ซึ่งทั้งหมดตรงนี้ก็ค่อนข้างที่จะเพียงพอกับการที่เราจะ Finance ธุรกิจอันนี้ อยากให้มองว่าการทำ โมบาย นี้เป็นธุรกิจหนึ่งอันเดอร์แจส เพราะฉะนั้นการทำ Project Financingก็สามารถทำได้ นอกเหนือจากนั้นเรายังสามารถเติบโตได้เร็ว เราก็ทำ IPO ได้อีก ที่ LEVEL Jas Mobile บริษัทลูก รวมถึงเราสามารถใช้ประโยชน์ การที่เรามีกองทุน Jasif มูลค่ากองทุน 55,000 ล้านยังสามารถกู้เงินมาได้อีก3 เท่า เพื่อนำมาซื้อทรัพย์สินของ Jas mobile ได้อีก
เรามี Protential partner ที่เป็นต่างาชาติ ยังไม่เปิดเผยรายชื่อ เขาเข้ามาใน level ของ Jas Mobile คงต้องมีราคาที่เป็น พรีเมี่ยม เพราะฉะนั้นจุดสำคัญก็คือว่าผู้ถือหุ้น Jas ทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะเราไม่มีการเพิ่มทุนใน Level ของ JAS แน่นอน ทุกอย่างที่ทำจะไปอยู่ที่บริษัทลูกของ JAS คือ Jas Mobile 100% เพราะฉะนั้นการหาพาร์ทเนอร์ การทำ Project Financing การเพิ่มทุนลงไปในนั้นจะอยู่ที่นี่ทั้งหมด จะไม่มีผลกระทบกับผู้ถือหุ้น JAS ผู้ถือหุ้น JAS ทุกคนก็จะได้ประโยชน์ในขณะที่บริษัทประมูลคลื่นความถี่นี้ได้
คีย์พ้อยท์ต่อไป เป็นเรื่องของ การทำงานว่า JAS ทำงานทันมั้ย ตั้งแต่ผมแถลงเมื่อตอนต้นปี เรามีการเริ่มงานตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราทำการ Survey ลูกค้าล่วงหน้าไป มีการส่งหาข้อมูลถึงลูกค้า 3BB เรียกว่าถ้าเรามี service ที่เป็นโมบายบรอดแบรนด์ ราคาเท่าไหร่รับได้ ต้องการกี่ Gig เรามี Survey ตรงนี้ และตอนนี้บุคคลากรของ JAS 6,000 คนทั่วประเทศ พร้อมที่จะทำงาน มีShopมากกว่า 300 กว่าshop จุดติดตั้งเสาได้ Survey ไว้หมดแล้ว และก็จะมีการเช่าจากรัฐวิสาหกิจ ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นแล้ว หรือในบางจุดเราก็อาจจะสร้างขึ้นมาเอง ตั้งแต่ต้นปีบุคลากรเรามีการเทรนด์เรื่อง 4G มาตลอด เพราะฉะนั้นทุกคนทุกฝ่ายทั้งเรื่อง Technical ทั้งเรื่อง Sell มีความเข้าใจในตรงนี้เป็นอย่างดีว่าต้องทำอะไรบ้าง
การที่เราเลือกคลื่น 900 เพราะมีต้นทุนต่ำ การลงทุนถูกกว่า 1800 แน่นอน และต้องขอบคุณ กสทช ที่วางโครงสร้างการชำระเงินมาที่ 900 เป็นการจ่ายที่ดีกว่า เพราะ 1800 คุณต้องจ่าย 50% ของเงินประมูลทั้งหมด และปี 2-3 25 % แต่คลื่น 900 จ่ายที่ 8000 ล้าน ปีที่ 2-3 4 พันล้าน ส่วนเกินไปจ่ายปีสุดท้าย ปีที่ 4 การจ่ายเงินแบบนี้เอื้อต่อผู้เล่นรายใหม่อย่างเรา
ภายในไม่กี่เดือนเราจะเริ่ม ออก 4G ในปีหน้าเราจะเห็นมือถือแบรนด์ใหม่ให้กับประชาชนทุกคน แต่เรื่องของแบรนด์เดี๋ยวบอกอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้คุยกับ supplier หมดแล้ว เหลือแค่ implement(การปฏิบัติการ) ก็จะทำให้เร็วที่สุด
เรื่องของ Shop เรามีอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เรามีเหลือเฟือ จะมีเรื่องของบุคลากรเพิ่ม เป็นหลักร้อย ในเรื่องการขายเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก แต่เป็นเรื่อง Service การประมูลโครงข่าย เราเช่าโครงข่ายทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านทั่วประเทศ ประมาณ 3 ปี คลื่น 900 ลงทุนถูกลง ทะลุทะลวงได้มากกว่า จำนวนเสาน้อยกว่า 1800 ในอนาคตเราคิดว่าเราสามารถสร้างเองได้เพราะเรามี JASiF อยู่แล้ว ในอนาคตเราสามารถขายตรงนี้เข้ากองทุนได้อีก
ตอนนี้เรามีพาร์ทเนอร์ต่างชาติที่เราคุยกันอยู่แล้ว แต่ต่อไปคงคุยเรื่องรายละเอียดว่าจะเข้ามายังไง ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องเงินทุน อีกส่วนเป็นเรื่อง โนวฮาว พาร์ทเนอร์น่าจะเข้ามาก่อนที่เข้ากองทุน
การเป็นมือถือรายที่ 4 เรามั่นใจยังไง เรื่องการแข่งขัน 3BB ผู้นำ ในการ Upspeed มาตลอด เรามีการทำเซอร์วิสที่ดี เซอร์วิสควอลิตี้กับลูกค้าเราคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ Data ที่เรามีมันค่อนข้างน้อย ราคายังสูงอยู่ 3-4 จิ๊ก ราคา 100 กว่าบาท ถ้าถามผมเนี่ยการใช้งาน ลูกค้า 3BBเดือนนึง 30 จิ๊ก สังเกตพอกลางเดือนใช้หมดแล้ว ต้องเติมเงิน ถ้าเทียบกับเกาหลี ญีปุ่น ออสเตรเลีย เค้าใช้ได้มากกว่านี้ เพราะฉะนั้น ทาง JAS จะทำให้กับลูกค้าให้มากที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด อันนี้คือ mission ของทาง Jas เลย เราเอา Model จากต่างประเทศมา ถ้าทุกคนจ่ายคล้ายๆ หรือ ฟิกซ์บรอดแบรนด์ได้ มันก็จะทำให้ตลาดตรงนี้เติบโต ในอนาคตที่ทุกคนจะเห็นคือการใช้สมาร์ทโฟนแทบไม่จำกัด คือสิ่งที่ทาง JAS มี Commitment ตรงนี้ และพยายามจะทำให้ได้
หลังจากที่ลงทุนเราจะไม่พูดเรื่อง Break Event แต่จะบอกว่าลูกค้าในปีแรกเรามี 2 ล้านราย ค่อนข้างมั่นใจ 3 ปี 5 ล้านราย ซึ่งดีพอให้เรามีกำไร เรามีข้อมูลจากการเซอร์เวย์ลูกค้ามาว่าเค้าต้องการอะไร เค้าไม่ได้อะไรจากโอเปอเรเตอร์รายเดิม เรามั่นใจว่าให้บริการลูกค้าได้ ลูกค้าเดิมถ้าใช้โมบายบวกกับ3BB ต้องได้สิทธิพิเศษแน่นอน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไร
Positioning ถ้าลองคิดดู โอเปอเรเตอร์ มีกี่รายที่มีทั้งฟิกซ์และโมบายพร้อมกัน มีรายนึงที่เค้าเป็นเนชั่นไวล์จริงๆ รายอื่นๆ ที่พลาดการประมูลไป ก็มีเพิ่งเข้าไปที่ฟิกซ์ แต่ฐานลูกค้าก็ไม่ได้เยอะมาก ทำมาปีกว่าตัวเลขไม่ได้สูง มีแค่ 1 รายที่ทำฟิกซ์และโมบายพร้อมกัน ที่เนชั่นไวล์จริงๆ เราเป็นรายที่ 2 ที่มีทั้งฟิกซ์และโมบาย อย่าลืมว่าฐานฟิกซ์ของเรามีทุกจังหวัดมี 75 % ในทุกตำบลทั้งประเทศ ในฐานบรอดแบรนด์ในการทำ 4G สำคัญมากในการทำให้เราสร้าง Service ที่ดีให้กับลูกค้า
ทุกคนมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจ Red ocean แต่ผมมองว่าเป็น Blue ถ้าไปแยกดูรายได้ของแต่ละ operator ส่วนใหญ่เป็น รายได้ voice แต่ Data ที่เป็นหัวใจหลักจริงๆ คุณภาพจริง อย่างรายใหญ่เค้ายังแค่เริ่มหลังจากประมูล 1800 ไป ในตลาดโมบาย 4 จีถือว่าใหม่มาก ณ วันนี้ ค่อนข้างดูไลฟ์สไตล์ทุกคนเปลี่ยน ทำทุกอย่างผ่านสมาร์ทโฟน ทุกอย่างที่เราได้ตรงนี้ไปคือ upsize รายได้ของเรา เพราะฉะนั้นมุมมองไม่เหมือนกัน การแย่งลูกค้ามันก็จะเกิดขึ้น ความเสี่ยงที่เรา Take เราอาจจะ Fight ได้มากกว่าเค้า
ตอนนี้เราทำทุกอย่างตามที่ กสทช กำหนด เรื่องข่าวที่บอกว่าราคาประมูลสูงจะทำให้หยุด ต้องบอกว่าทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ของ กสทช หมด แบงค์ที่เสนอก็หลายราย supplier ก็หลายราย เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าเข้าตลาดโมบายอีกหลายปี
ตอนนี้ยังไม่มีการ appoint อย่างเป็นทางการว่าใครเป็นCEO ใน 3 ปีข้างหน้า ถ้าเรามีลูกค้าเยอะในระดับนึงก็อาจมีการขยับ พาร์ทเนอร์ต่างชาติที่เข้ามามีมากกว่า 2 ราย ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหลักแน่นอน ด้วย project finance เราสามารถรับมือได้แน่นอน