LetterSealing ฟีเจอร์ใหม่จาก LINE ที่ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยและปกป้องข้อความแชทของผู้ใช้ ด้วยวิธีการเข้ารหัสขั้นสูง ที่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยของข้อความแชทได้ครอบคลุมทั้งบนสมาร์ทโฟนและ PC โดยฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ที่ติดตั้งแอพลิเคชัน LINE ตั้งแต่เวอร์ชั่น 5.3.0 ขึ้นไป รวมถึง PC ระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac OS X
Line Letter Sealing
ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงของฟีเจอร์ใหม่นี้ แตกต่างจากระบบทั่วไปซึ่งใช้การเข้ารหัสข้อความที่เซิฟเวอร์ส่วนกลาง ตรงที่ เลทเตอร์ซีลลิ่งจะใช้การเข้ารหัสด้วยวิธีการแบบ End-To-End (E2EE) ซึ่งอาศัยคีย์ที่ถูกสร้างขึ้นและเก็บไว้เฉพาะที่อุปกรณ์สมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน สำหรับล๊อคและถอดรหัสของข้อความ จึงไม่มีทางที่เนื้อหาในข้อความแชทของผู้ใช้จะถูกเปิดเผยหรือถูกจารกรรมได้ที่เซิฟเวอร์ ด้วยฟีเจอร์นี้จึงทำให้ LINE กลายเป็นแชทแอพลิเคชันแรกที่มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ที่สามารถปกป้องความปลอดภัยของข้อความได้ทั้งกับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย
ทั้งนี้การเข้ารหัสแบบ E2EE จะปลอดภัยสมบูรณ์แบบเมื่อผู้สนทนาทั้ง 2 ฝ่ายเปิดการใช้งาน เลทเตอร์ซีลลิ่ง ที่อุปกรณ์ของตน สำหรับผู้ที่ใช้งานด้วยสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ฟีเจอร์นี้จะถูกตั้งค่าให้เปิดใช้งานอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android บนอุปกรณ์อื่นๆ
และผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS จะต้องทำการเปิดใช้ผ่านการตั้งค่าที่ Setting ปัจจุบัน เลทเตอร์ซีลลิ่ง สามารถใช้ได้เฉพาะกับข้อความแชทแบบส่วนตัว (สนทนา 1 : 1) และการแชร์ตำแหน่งที่อยู่ (Share Location) โดยในอนาคตจะพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุมฟีเจอร์และอุปกรณ์อื่นๆที่หลากหลายมากขึ้น
เลทเตอร์ซีลลิ่ง ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยตัวล่าสุดของ LINE หลังจากที่ได้ปล่อยฟีเจอร์และโปรแกรมด้านการรักษาความปลอดภัยหลายตัวมาก่อนหน้านีิ้ เช่น ฟีเจอร์แชทลับ (Hidden Chat) และฟีเจอร์ล็อครหัสผ่าน (Passcode Lock) นอกจากนี้ LINE ยังกำลังพัฒนาโปรแกรม LINE Bug Bounty สำหรับใช้ในการรับรายงานข้อมูลความขัดข้องของระบบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ เพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
วิธีการตั้งค่า ไปที่ setting > chat&voice calls > และติ้กถูกตรง LetterSealing เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ
LINE คำนึงถึงมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล SOC2, SOC3 และ SysTrust มาโดยตลอดตั้งแต่มีนาคม 2556 และยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้นำด้านระบบรักษาความปลอดภัย และนำเสนอแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก