LG G3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว และก็เปิดจองทั่วประเทศในเวลาเดียวกันด้วยราคาเปิดตัว 20,990 บาท ซึ่งถือว่าทำราคาเปิดตัวได้สวยกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายอื่นๆพอสมควรทีเดียวครับ และสำหรับ LG G3 ที่วางขายในประเทศไทยนั้นจะนำเข้ามาทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และสีทอง (LG แอบกระซิบมาว่าเน้นขายสีทองกับสีดำ ส่วนสีขาวเอาเข้ามาน้อย) นอกจากนี้สเป็คของ LG G3 ที่วางขายในประเทศไทยจะเป็นรุ่นแรม 2GB และความจุเครื่อง 16GB โดย LG ประเทศไทยให้เหตุผลว่า ด้วยเรื่องของราคา และประสบการณ์การใช้งานของตัวเครื่องไม่แตกต่างกันกับรุ่นแรม 3GB ความจุเครื่อง 32GB ทำให้ LG ประเทศไทยเลือกนำรุ่นนี้เข้ามาขายครับ
LG G3 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอ Quad HD (ความละเอียด 2560×1440 พิกเซล ที่ 538PPI) ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งมีหน้าจอที่คมชัดมากๆ และขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าเดิมทีเดียวครับ ส่วนสเป็คอื่นๆนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับท็อปเช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Quad-Core Snapdragon 801 รองรับการใช้งาน 4G LTE และมีแบตเตอรี่ 3,000 mAh
LG G3 นั้นตัวเครื่องบาง 8.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนน้ำหนักนั้นทำได้ดีแค่ 149 กรัมเท่านั้น เทียบกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องแล้วถือว่าไม่หนักครับ
ด้านล่างของตัวเครื่องนั้นมีรูไมโครโฟน, ช่องเสียบ microUSB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านบนของตัวเครื่องมีพอร์ต IR Infared สำหรับเปลี่ยนช่องทีวี
ไฮไลท์ของตัวเครื่องก็คือฝาหลังของ LG G3 ที่เป็นพลาสติก แต่ทำลายให้เหมือนกับว่าเป็นโลหะครับ ซึ่งดูสวยงามมากเลยทีเดียว ด้านบนนี้คือสีดำและสีทอง ครับ
ปุ่มส่วนใหญ่ของ LG G3 นั้นจะอยู่บริเวณด้านหลังทั้งหมด เป็นจุดต่อยอดมาจาก Rear Key บน LG G2 นั่นเอง แต่ดีไซน์ของปุ่มนั้นพัฒนาขึ้นมากเลยทีเดียว ดูสวยและลงตัวขึ้นมาก
ลองเทียบLG G3 กับ LG G2 จะเห็นว่าดีไซน์ของ LG G3 สวยกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียวครับ
หันมาดูด้านหน้ากันบ้าง
นอกจากฝาหลังที่มีลวดลายโลหะแล้ว LG G3 ยังมีเลเซอร์สำหรับช่วยโฟกัสอยู่บริเวณด้านซ้ายของกล้องด้วยครับ ทำหน้าที่ช่วยโฟกัสแบบเดียวกับที่เราเห็นในกล้อง DSLR นั่นเอง
ฝาหลังของตัวเครื่อง LG G3 สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย
ตัว UI ของ LG G3 นั้นได้รับการปรับปรุงให้เป็นไปในแนวเรียบๆ minimalism
อุปกรณ์เสริมของ LG G3 คือฝาพับ Quick Circle case เวลาใส่เข้าไปครั้งแรกจะเป็นรูปนาฬิกาแบบนี้
ของแถม