กลุ่มบริษัทสามารถ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีครบวงจร ย้ำชัดปี 56 เป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้ารายได้รวม 30,000 ล้านบาท คาดผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับปี 2555 ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัจจัยที่ช่วยเสริมความมั่นใจ คือ แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีการขยายตัวและการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยงบประมาณภาครัฐ ที่สำคัญ คือในปี 56 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G และระบบดิจิตอลทีวี ซึ่งจะสร้างโอกาสทางการตลาดอย่างมหาศาลให้แก่กลุ่มบริษัทสามารถ นอกจากนี้ ทุกธุรกิจของกลุ่มสามารถในปัจจุบัน ล้วนมีผลประกอบการที่ดีขึ้นและมีลู่ทางการเติบโตที่สดใส เช่น ธุรกิจ Call Center โดยบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด ซึ่งมีแผนนำเข้าจดทะเบียนในตลท.ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนการขยายธุรกิจด้านพลังงานและบริการสาธารณะ ก็มีความคืบหน้าชัดเจน ล่าสุด ได้ควบรวมกิจการ บริษัท เทด้า จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างสถานีและสายส่งไฟฟ้า ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงาน โดยมีแผนเข้าประมูลโครงการมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สิ่งที่น่าภาคภูมิใจของกลุ่มสามารถในปี 2555 คือ อัตราการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้น ทะลุ 1 พันล้านบาทและการเติบโตของรายได้ประจำซึ่งในปี 55 มีรายได้ประจำถึง 5,400 ล้านบาท คิดเป็น 30 เปอร์เซนต์ของรายได้รวม
ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจโมบายก็ส่อแววฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดนับจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายเครื่อง
ไอ-โมบาย Smart Phone ถึง 400,000 เครื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ส่วนธุรกิจด้านไอซีที แม้จะมีการดีเลย์ ของบางโครงการ แต่ก็ยังสามารถกวาดงานเข้ามาในมือ รวมมูลค่าสัญญากว่า 7,000 ล้านบาทในปี 55”
จากปัจจัยบวกรอบด้าน บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าในปี 2556 จะเป็นปีทองของธุรกิจ และ STRONG คือ กลยุทธ์เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มสามารถ
“S” Sustainable Growth สร้างความยั่งยืนด้วยรายได้ประจำที่เติบโตต่อเนื่อง
“T” Trustworthy สร้างความเชื่อมั่นด้วยรางวัลดีเด่นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“R” Returns on Investment สร้างผลตอบแทนและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
“O” Operation & Service Excellence นำเสนอบริการที่เป็นเลิศด้วยทีมงานมืออาชีพ
“N” New Business แสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ
“G” Global Standard สร้างมาตรฐานการทำงานและการให้บริการระดับโลก ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับมาตรฐาน
ISO 27001 (IT Security Management) และมาตรฐานด้านระบบการทำงานและการพัฒนาซอฟต์แวร์
(CMMI) ระดับ 3 รวมทั้งมุ่งสู่มาตรฐาน ISO 20000 ในการบริหารคุณภาพและกระบวนการในการให้บริการด้าน IT
ในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 30,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้จากสาย ICT Solutions 15,000 ล้านบาท Mobile Multi-media 11,000 ล้านบาท สายธุรกิจ Related Businesses 2,400 ล้านบาท และสายธุรกิจ Utility Services 1,655 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดของแต่ละสายธุรกิจดังนี้
สาย ICT Solutions นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท คาดกำไรเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซนต์ ปัจจุบันมีงานสะสมในมือ ( Backlog) มูลค่ารวมกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าพิชิตงานใหญ่ที่รอการประมูลรวมมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย โครงการ 3 G เฟส 2 ของทีโอที รวมถึงโครงการต่างๆของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กรมสรรพากร, กรุงเทพมหานคร และอื่นๆ โดยมั่นใจว่าด้วยความชำนาญและผลงานที่ผ่านมา บริษัทฯ จะสามารถดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจ
สาย Mobile Multi-media นำโดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย ตั้งเป้ารายได้ที่ 11,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 200 เปอร์เซนต์ โดยปี 56 จะเป็นปีแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจโมบายและคอนเทนต์ อันเนื่องมาจากการขยายเครือข่าย 3G อย่างจริงจังและรวดเร็วของทุกค่ายโอเปอเรเตอร์ ก่อให้เกิดโอกาสทางการตลาดอย่างมหาศาล บริษัทฯ จึงตั้งเป้ายอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปีนี้ 3.2 ล้านเครื่อง คิดเป็น Smart Phone 2.2 ล้านเครื่อง หรือ 70 เปอร์เซนต์ของจำนวนเครื่องทั้งหมด ล่าสุดประกาศเปิดตัว iQ6 ซึ่งโดดเด่นด้วยหน้าจอไอพีเอส ภาพคมชัดระดับHDและกันรอยขีดข่วน ในราคาสุดคุ้มตามสไตล์ไอ-โมบาย ด้านธุรกิจ MVNO ภายใต้ i-mobile 3GX ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น ด้วยสัญญาณที่แรงและการอัดฉีดโปรโมชั่น คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มเป็น 1.2 ล้านรายในสิ้นปี 56 สำหรับแผนงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มโมบาย-มัลติมีเดียในระยะยาว ได้มีการกำหนดเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปี ผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มโมบาย-มัลติมีเดีย อาทิ โทรศัพท์มือถือ บริการคอนเทนต์ และบริการ MVNO จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตแบบ Mobility ของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยจะมุ่งเน้นที่กลุ่ม Mass ซึ่งมีฐานตลาดขนาดใหญ่
สายธุรกิจ Related Businesses ตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท จากบริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด ผู้ให้บริการ Contact Center มาตรฐานโลก โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และเตรียมขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ ทั้งกัมพูชา พม่า และลาว ต่อไป ด้านบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้ขยายไลน์การผลิตจากเสาอากาศและจานดาวเทียมไปสู่อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญานอื่นๆ เช่น กล่องรับสัญญานดิจิตอลทีวี มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างชัดเจน ส่วนบริษัท วิชั่นแอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ปัจจุบันมีงานในมือมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และมีงานที่จะเข้าประมูลในปีนี้ มูลค่าราว 1,200 ล้านบาท
สุดท้ายสายธุรกิจ Utility Services ตั้งเป้ารายได้ 1,655 ล้านบาท โดยนอกจากจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอจากบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) และบริษัท Kampot Power Plant จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนแก่โรงงานปูนซิเมนต์ไทยที่ประเทศกัมพูชาแล้ว ยังมีความคืบหน้าในการขยายธุรกิจด้านสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น การควบรวมกิจการบริษัท เทด้า จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งต่อไปจะเป็นหัวหอกสำคัญในการขยายธุรกิจด้านพลังงานทั้งนี้ มีแผนในการเข้าร่วมประมูลโครงการมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี
นายวัฒน์ชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ในระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีช่วงจังหวะของการเติบโตแบบก้าวกระโดดในหลายๆช่วง โดยเฉพาะในยุคของการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี เช่น จากยุคอนาล็อคไปสู่ยุคดิจิตอล ซึ่งในแต่ละครั้งของการเปลี่ยนแปลงก็ได้นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจ และในปีนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลุ่มสามารถในการขยายผลทางธุรกิจ จากการเปลี่ยนแปลงของระบบเครือข่ายการสื่อสาร 2G ไป 3G และ 4G ในเวลาอันสั้น
ปี 2556 จึงเป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทายสำหรับธุรกิจมือถือ คอนเทนต์และบริการไอซีทีทั้งระบบ บริษัทฯ จึงตอบรับความท้าทายอย่างมั่นใจด้วยการตั้งเป้ารายได้ในปี 56 แบบก้าวกระโดดถึง 3 หมื่นล้านบาทและในแผนงานของทุกธุรกิจในเครือ ก็ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ประจำและการเติบโตแบบยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า กลุ่มสามารถจะต้องมีรายได้ประจำไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท”