หลังจากงาน Samsung Galaxy UNPACKED 2019 จบไปอย่างสวยงาม พร้อมกับเปิดตัวโปรดัคต์ใหม่อย่างคับคั่ง ซึ่งก็มีทั้งสมาร์ทโฟนใหม่ตามข่าวหลุดข่าวลืออย่าง Samsung Galaxy S10 Series ถึงสามรุ่นด้วยกัน แต่งานนี้ขอบอกเลยว่า ความว้าวไม่ได้มีเพียงแค่เท่านี้นะ
เปิดตัวก่อนใคร Samsung Galaxy Fold มือถือจอพับได้จากซัมซุง
- หน้าจอ AMOLED 2 ขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียด 1960 x 840 พิกเซล ขณะพับ แต่เมื่อกางหน้าจอออก จะมีขนาดใหญ่ถึง 7.3 นิ้ว ความละเอียด 2152 x 1536 พิกเซล
- ใช้งานแบบ Multi Window แบ่งซ้ายขวาได้เมื่อกางเต็มจอ รองรับถึง 3 แอปพร้อมๆ กัน
- RAM 12GB, ROM ในเครื่อง 512GB ชิปเซ็ต Exynos 9820
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 9.0 พาย และ One UI ในตัว
- แบตเตอรี่ในตัว 2 ก้อนแบ่งซ้าย-ขวาเช่นกัน ความจุรวม 4,380 มิลลิแอมป์
- กล้องถ่ายภาพทั้งหมด 6 ตัว แบบออกเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์
- มีให้เลือกหลายสี
- ลำโพงสเตอริโอแบบคู่ AKG
- ราคาเปิดตัว 1,980 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวางจำหน่าย 26 เมษายน
ซีรี่ส์ใหม่ Samsung Galaxy S10
ส่วน Samsung Galaxy S10 Series คราวนี้เปิดตัวถึง 3 รุ่นด้วยกัน เริ่มต้นด้วยรุ่นน้องเล็กอย่าง Samsung Galaxy S10e ที่แม้ว่าจะมาพร้อมกล้องคู่ กล้องหน้าแบบเดี่ยว แต่ในเรื่องของดีไซน์ก็สวยไม่แพ้รุ่นพี่เลยล่ะ แถมยังทำหน้าที่แท่นชาร์จไร้สายให้กับมือถือ สมาร์ทวอชและหูฟังไร้สายได้อีกด้วย
- หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Dynamic AMOLED HDR+ ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ครอบทับด้วยกระจกจอ Gorilla glass 5
- ตัวเครื่องบางเพียง 7.9 mm หนัก 150 กรัม
- ชิปเซ็ต Exynos 9820
- RAM 6GB ROM 128GB (เวอร์ชั่นวางจำหน่ายในไทย) เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 512GB
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/1.5, OIS, มุมกว้าง 77 องศา) + 16 ล้านพิกเซล (F/2.2, เลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 123 องศา)
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K Selfie Mode พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ขนาด 3,100 มิลลิแอมป์ รองรับระบบชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
- มีให้เลือก 2 สี (เวอร์ชั่นวางจำหน่ายในไทย) สีขาว Prism White และสีเขียว Prism Green
ขยับมาที่รุ่นกลาง Samsung Galaxy S10 ซึ่งมีขนาดเครื่อง ขนาดหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ที่เพิ่มจาก S10e และยังเป็นรุ่นที่ใช้กล้องหลังสามเลนส์อีกด้วย แต่กล้องหน้ายังมีมาให้ตัวเดียวนะจ๊ะ
- หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Dynamic AMOLED HDR+ จอโค้ง ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD+ ครอบทับด้วยกระจกจอ Gorilla glass 6
- บางเพียง 7.8 mm น้ำหนัก 157 กรัม
- ชิปเซ็ต Exynos 9820
- RAM 8GB, ROM 128GB ในตัว เพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 512GB
- กล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K Selfie Mode พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (F/1.5, OIS, มุมกว้าง 77 องศา) + 16 ล้านพิกเซล (F/2.2, เลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 123 องศา) + 12 ล้านพิกเซล (F/2.4, OIS, เลนส์ Telephoto สำหรับซูม, มุมกว้าง 45 องศา)
- Super Steady ระบบกันสั่นที่ทางซัมซุงการันตีว่าสามารถกันสั่นขณะถ่ายวิดีโอได้ใกล้เคียงแอคชั่นคาเมร่า
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแสดงผล (Ultrasonic Fingerorint) ที่ทางซัมซุงการันตีว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง
- แบตเตอรี่ความจุ 3,400 มิลลิแอมป์ รองรับระบบชาร์จเร็วและเป็นแท่นชาร์จไร้สายในตัวได้
มี ให้เลือก 3 สี สีดำ Prism Black, สีขาว Prism White ซึ่งมาในลักษณะสีเหลือบดูหรูหรา และสีเขียว Prism Green
Samsung Galaxy S10+ รุ่นใหญ่ตัวท็อป
ส่วน Samsung Galaxy S10+ นั้นเป็นรุ่นพี่ที่อัดสเปคแบบเต็มสูบๆ หลักๆ เลยก็คือกล้องหลังสามเลนส์ กล้องหน้าแบบคู่ สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ได้ ทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จไร้สายก็มี ดีไซน์สวยพร้อมขนาดตัวเครื่องที่เล็กเหมาะมือทีเดียว แถมยังมีเวอร์ชั่นพิเศษทำจากวัสดุเซรามิกอีกด้วย
- หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Dynamic AMOLED HDR+ จอโค้ง ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ครอบทับด้วยกระจกจอ Gorilla glass 6
- ตัวเครื่องบาง 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 175 กรัม
ชิปเซ็ต Exynos 9820, RAM 6GB/ ROM 128GB (เวอร์ชั่นปกติ) แต่จะมีเวอร์ชั่นเซรามิกที่ใช้ RAM 8GB/ROM 512GB และเวอร์ชั่นตัวท็อป RAM 12GB/ROM 1TB ซึ่งวางจำหน่ายในไทยทั้งสามเวอร์ชั่น
- กล้องหน้าเซลฟี่แบบคู่ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 +8 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/2.2 ช่วยปรับหน้าชัดหลังเบลอและวัดระยะชัดลึก) รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K Selfie Mode พร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/1.5, OIS, มุมกว้าง 77 องศา) + 16 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/2.2, เลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 123 องศา) + 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/2.4, OIS, เลนส์ Telephoto สำหรับซูม, มุมกว้าง 45 องศา)
- ตัดต่อวิดีโอได้ง่ายผ่าน Adobe Premiere Rush
- Super Steady ระบบกันสั่นที่ทางซัมซุงการันตีว่าสามารถกันสั่นขณะถ่ายวิดีโอได้ใกล้เคียงแอคชั่นคาเมร่า
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแสดงผล (Ultrasonic Fingerprint)
- ระบบระบายความร้อนขณะเล่นเกม Vapor Chamber
- แบตเตอรี่ความจุสูง 4,100 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
- วางจำหน่ายทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ Prism Black, สีขาว Prism White และสีเขียว Prism Green รวมถึง 2 สีพิเศษ Ceramic Black และ Ceramic White ที่ตัวเครื่องทำจากวัสดุเซรามิก
ฟีเจอร์ที่พบได้ใน Samsung Galaxy S10 Series ทั้งสามรุ่น
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos 3D Sound
- ลำโพงสเตอริโอ Tuned by AKG แถมหูฟัง Tuned by AKG เหมือนเดิม
- ระบบ Scene Optimiser เพิ่มเป็น 30 แบบแล้ว จากเดิม 20 แบบ
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย OneUI เวอร์ชั่นล่าสุด
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ทั้งสามรุ่น
- รองรับการถ่ายวีดีโอ Super Slow-motion ได้ดีกว่ารุ่นเดิม
- มีระบบ Smart Composition Scale โดยตัวกล้องจะกำหนดจุดวงกลมเพื่อกำหนดองค์ประกอบภาพ เพียงเลื่อนมุมมองกล้องให้ตรงกับที่ระบบกำหนดไว้
- ฟีเจอร์ใหม่ Wireless Power Share สามารถเปลี่ยนเจ้า S10 ทั้งสามรุ่นเป็นที่ชาร์จไร้สายอย่างรวดเร็วได้ (สำหรับชาร์จกับหูฟัง Galaxy Buds รุ่นใหม่และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับมาตรฐาน Qi)
- หน้าจอรองรับเทคโนโลยี HDR 10+ ดูหนังความละเอียดสูงก็ให้ภาพที่คมชัดสวยงาม ครบเครื่อง เต็มอรรถรส
- รองรับ Face Recognition เช่นเดิม แต่ตัดระบบสแกนม่านตา Iris Scanner ออกไปแทน
- AR Emoji ที่พัฒนาให้มีความสมจริงมากขึ้นในเรื่องของการแต่งหน้าแต่งตัว เลือกฉากหลังเพิ่มได้ คล้ายกับแอปพลิเคชั่น ZEPETO
- Bixby Routine ตั้งค่าการทำงานของเมนู การตั้งค่าต่างๆ ได้ตามเวลาที่ต้องการ เช่น ตั้งค่าปิดเสียง หรี่แสงหน้าจอ เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้
- Bixby Vision ที่ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลายเจ้า เช่น ทดลองเครื่องสำอางใน Sephora ผ่านกล้องและ Bixby
- ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ในทุกรุ่น!
แต่นอกจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่แล้ว ซัมซุงยังเปิดตัวแก็ดเจ็ตใหม่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
Samsung Galaxy Watch Active
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว ความละเอียด 360×360 พิกเซล
- ซีพียู Exynos 9110 Dual Core
- RAM 768MB, ROM 4GB
- แบตเตอรี่ความจุ 236 มิลลิเมตร
- ระบบปฏิบัติการ OS Tizen 4.0.0.3 ครอบทับด้วย One UI
- กันน้ำลึก 50 ATM ใส่ว่ายน้ำได้
- การเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi, Bluetooth 4.2, GPS และ NFC
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แบบ Realtime และสามารถแจ้งค่าที่ผิดปกติขณะวัดได้
Samsung Galaxy Fit / Fit e
- น้ำหนักเบาเพียง 15/24 กรัม
- หน้าจอสี 0.74 และ 0.95 นิ้ว
- กันน้ำระดับ 5ATM ใส่ว่ายน้ำได้
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้
- Sleep Tracking เก็บข้อมูลการนอนหลับได้
- Stress Management ช่วยในเรื่องของการจัดการความเครียด
- วางจำหน่าย 31 พฤษภาคม
Samsung Galaxy Buds
หูฟังไร้สายจากซัมซุง มาพร้อมกล่องแท่นชาร์จในตัว เพื่อนำไปชาร์จบน Galaxy S10 ทั้งสามรุ่นแบบไร้สายได้ด้วย
และแน่นอนว่าก็ยังร่วมมือกับทาง AKG เช่นเคยในเรื่องของการปรับจูนเสียง และยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธและการสั่งงานผ่าน Bixby ได้อีกด้วย ส่วนวันวางจำหน่าย 8 มีนาคมเช่นเดียวกับ Galaxy S10 Series ในราคา 129 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาและวันวางจำหน่าย
ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S10e เริ่มต้นที่ 749 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S10 เริ่มต้นที่ 899 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาเปิดตัวของ Samsung Galaxy S10+ เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐ
เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 8 มีนาคม
ส่วนใครที่อยากลองเปรียบเทียบสเปคของทั้งสามรุ่นคร่าวๆ ก็สามารถดูตามนี้ได้เลย และถ้ามีอัพเดตข้อมู ราคาและรายละเอียดใดๆ เวอร์ชั่นไทย เดี๋ยวเราจะมาอัพเดตให้ทราบเร็วที่สุดจ้า