Samsung เปิดศักราชใหม่ชูวิสัยทัศน์ Sustainable Living และ Connectivity มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะ ชูนวัตกรรมเปลี่ยนโลก “SmartThings” พร้อม ขนทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ทำตลาดครบทุกกลุ่ม ขยายไลน์กลุ่ม Bespoke พร้อมผลิตภัณฑ์กลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น พร้อมเปิดตัวธีมของปี “Samsung Live A New Day” ตั้งเป้าความสำเร็จเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทย ภายใน 3 ปี
เจนนิเฟอร์ ซอง ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย พบว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียมเติบโตสูง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับซัมซุงที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมมียอดขายเติบโต 2 เท่า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อซัมซุง ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้าทุกประเภทเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมกว่า 100 รุ่น”
“นอกจากนี้ซัมซุงยังประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยได้รับการจัดอันดับจากอินเตอร์แบรนด์ ให้เป็น 1 ใน 5 บริษัทที่ดีที่สุดตามการจัดอันดับ Best Global Brands 2022 รวมถึงซัมซุงยังครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีระดับโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 และครองอันดับ 1 ยอดขาย Soundbar ติดต่อกัน 8 ปี และล่าสุดได้รับ 42 รางวัล ในงาน International Design Excellence Awards 2022 (IDEA) ด้วยสุดยอดนวัตกรรมการออกแบบที่ช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ของผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และได้รับ 46 รางวัลนวัตกรรมจาก CES® 2023 Innovation Awards รวมถึงรางวัลสุดยอดนวัตกรรม (Best of Innovation) ถึง 3 รางวัล”
“ซัมซุงยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและอนาคตที่ยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมทันสมัยและการเชื่อมต่ออัจริยะ และเน้นเรื่องมอบประสบการณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์ Bespoke การปรับแต่งเพื่อบ่งบอกตัวตน ซึ่งซัมซุงเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่มีความแข็งแกร่งด้าน Personalization การปรับแต่งด้วยดีไซน์ที่สามารถเลือกเองตามความชอบที่สะท้อนสไตล์ของแต่ละคน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสร้างคุณค่าทางจิตใจ ดึงเอกลักษณ์ของเจ้าของออกมาอย่างชัดเจน สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคทำความต้องการให้เป็นจริงและตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด”
Samsung Live A New Day
ทุกวันนี้ชีวิตบนโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว บ้านในวันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน ซัมซุงมุ่งพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกของผู้อาศัย ตรงความต้องการยิ่งขึ้น เปรียบเหมือนวันใหม่ วิถีใหม่ของการใช้ชีวิต เครื่องปรับอากาศจะเป็นมากกว่าแค่อุปกรณ์ทำความเย็น ทีวีไม่เพียงแค่มอบความบันเทิงเท่านั้น เมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านสะท้อนถึงสุนทรียภาพของทัศนคติ บ่งบอกไลฟ์สไตล์แต่ละบุคคล
Bringing Calm to Our Connected World มอบพลังการควบคุมแก่ผู้บริโภคบนโลกด้วยทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้
เมื่อนวัตกรรมกำหนดนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดด้วยบ้านอัจฉริยะ ซัมซุงผลักดันนวัตกรรม SmartThings เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ทุกๆ อุปกรณ์ในพื้นที่หรือจุดสำคัญที่มีความจำเป็นกับผู้บริโภคในชีวิตประจำวันจะดำเนินไปพร้อมกับการมีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนกว่าเดิม ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของซัมซุงที่จะมอบพลังการควบคุม
ให้กับผู้บริโภคบนโลกสามารถใช้ทุกอุปกรณ์เชื่อมโยงกัน มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า เข้าถึงผู้บริโภคแต่ละคนได้มากกว่าและใช้งานง่ายกว่าเดิม โดย SmartThings สำหรับผู้บริโภคเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านพลังงาน ENERGY STAR SHEMS อีกด้วย รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและอนาคตที่ยั่งยืน พร้อมตอกย้ำอีโคซิสเต็มที่เชื่อมต่อกันอย่างชาญฉลาด ซัมซุงประกาศกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม Net Zero เพื่อให้การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 รวมถึงการเข้าร่วม RE100 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกที่ซัมซุงทุ่มเทแสวงหาพลังงานหมุนเวียน 100% นอกจากนี้ยังได้สร้าง Eco Packaging เพื่อสิ่งแวดล้อม คืนชีวิตให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์ นำกลับมาใช้ใหม่ หรือเอามาประดิษฐ์เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ เช่น กล่องใส่ทีวี ที่นำมาดัดแปลงเป็นของใช้ในบ้านที่หลากหลาย หรือ Solar Cell Remote ประหยัดพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ตลาดผู้บริโภคในปี 2566 โดยรวมทั้งหมด ยังคงมองหาฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ อีกทั้งให้ความบันเทิงที่มากกว่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดทีวีพรีเมียม การออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับ Bespoke และ Smart Home ชีวิตที่ให้บ้านเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ดังนั้นผู้บริโภคจึงมองหาการเชื่อมต่อเพื่อรองรับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 (72%) สำหรับความต้องการติดตั้งสมาร์ทโฮม รองจากเวียดนาม (84%) และอินโดนีเซีย (81%) ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอัจฉริยะจะเติบโตสูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ช่องว่างระหว่างครัวเรือนที่มีรายได้สูงและครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกลับกว้างขึ้น นั่นหมายถึงผู้บริโภคระดับพรีเมียมที่สูงขึ้น
ตลาดทีวีพรีเมียมมาแรง
ตลาดทีวีปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคให้การตอบรับทีวีจอใหญ่มากขึ้น ทำให้สัดส่วนหน้าจอตั้งแต่ 65 นิ้วขึ้นไป เติบโตขึ้นมากแบบเห็นได้ชัดถึง 1.5 เท่า ทีวีพรีเมียมยังคงเติบโตสูง ในปี 2565 ยอดขาย Samsung Neo QLED เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า เฉพาะ Neo QLED 8K เติบโตถึง 4 เท่า ไลฟ์สไตล์ทีวียังเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตได้ดี และยังจะเป็นกลุ่มที่ซัมซุงให้ความสำคัญต่อเนื่องในปีนี้ โดยปีที่ผ่านมายอดขายไลฟ์สไตล์ทีวีโต 2 เท่า นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องเสียงของซัมซุงที่ใช้คู่กับทีวี เช่น Soundbar รวมไปถึง Sound Tower ก็ได้รับการตอบรับจากตลาดมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ยอดขายของ Soundbar เติบโต 1.5 เท่า ปัจจัยการเติบโตหลักของกลุ่มภาพและเสียงของซัมซุง มาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มพรีเมียม ไลฟ์สไตล์ทีวี รวมถึงได้แรงหนุนจากเทศกาลฟุตบอลระดับโลก ตลอดจนการจับมือกับพาร์ทเนอร์จัดโปรโมชั่นต่างๆ ที่โดนใจผู้บริโภค อาทิ ร่วมกับมินิคูเปอร์, BMW, Snow Peak และ 333 Gallery
ในปี 2566 ซัมซุงจะส่งผลิตภัณฑ์ทีวีรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอีกมากมาย อาทิ Samsung OLED TV ที่ขณะนี้เปิดให้พรีออเดอร์พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ, Neo QLED รุ่นใหม่, Lifestyle TV และทีวีรุ่นที่มี IOT บิลท์อินในตัว เป็นต้น รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ผู้บริโภคออนไลน์จะได้เห็นภาพผลิตภัณฑ์ในมุมต่างๆ อย่างสวยงามชัดเจน และมีการจำลองภาพให้เห็นว่า การนำผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นไปวางตกแต่งในแต่ละห้องจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนหน้าร้านจะมีการเลือกผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในแต่ละช่องทางให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าในช่องทางนั้นๆ โดยกลุ่มภาพและเสียงซัมซุงตั้งเป้าการเติบโตในปี 2566 ที่ 17%
จัดเต็มไลน์อัพเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทุกกลุ่ม เน้น Bespoke กลยุทธ์การตลาดที่เหนือคู่แข่ง
ปีที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของซัมซุงในภาพรวมเติบโต 5% กลุ่มเครื่องซักผ้าและตู้เย็นเติบโต 5% กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (เตาอบไมโครเวฟ เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องฟอกอากาศ) เติบโต 10% ปัจจัยหลักมาจากวิถีการใช้ชีวิตที่ปลี่ยนแปลง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีฤดูกาลที่แน่นอนทำให้ผู้บริโภคต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงมีนวัตกรรมล้ำหน้า รวมถึงกลุ่มตลาดพรีเมียมที่ขยายตัวขึ้น และซัมซุงมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม Bespoke ที่ซัมซุงเป็นผู้บุกเบิกตลาด ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกลุ่มพรีเมียมของซัมซุงเติบโตถึง 2 เท่าจากปี 2564
ในปี 2566 ซัมซุงเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงกลุ่ม Bespoke Home ภายใต้แนวคิด Bespoke My Life มุ่งเน้น 1.ด้านไลฟ์สไตล์ที่ผู้บริโภคออกแบบเองได้ เช่น ตู้เย็นสามารถออกแบบได้ทั้งสีสันและฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะกับความต้องการและพื้นที่ และจะขยายไลน์ Bespoke ออกไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของซัมซุง 2. Sustainability การประหยัดพลังงานด้วย AI Saving Mode และความทนทานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภค โดยซัมซุงมั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ ขยายเวลารับประกันอินเวอร์เตอร์มอเตอร์เครื่องซักผ้าและอินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นออกไปเป็น 20 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการรับประกันที่นานที่สุดในตลาดขณะนี้ และ 3.Connectivity การเชื่อมโยงอัจฉริยะผ่าน SmartThings โดยในปีนี้ซัมซุงตั้งเป้าเติบโต 2 เท่าสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกลุ่มพรีเมียม
ผู้นำด้านโซลูชั่นเครื่องปรับอากาศตัวจริง
ซัมซุงตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นเครื่องปรับอากาศด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไปและกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยปีที่ผ่านมาเครื่องปรับอากาศพรีเมี่ยมในกลุ่ม WindFree เติบโตถึง 30% ส่วนยอดขายกลุ่ม B2B เติบโตถึง 40% สำหรับในปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวไลน์อัพเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ในกลุ่ม WindFree แบบจัดเต็ม ทั้งรุ่น WindFree Premium Plus, WindFree AI, WindFree, 360 Cassette, WindFree 1-Way Cassette, WindFree 4-Way Cassette และ Ceiling ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศ WindFree แบรนด์แรกของโลก พร้อมขยายระยะเวลารับประกันสูงสุดถึง 10 ปี นอกจากนี้ยังพร้อมบุกตลาดลูกค้าองค์กรด้วยระบบเครื่องปรับอากาศ DVM S2, Free Joint Multi (FJM) และ Ceiling Fixed Speed R32 Mark5
SmartThings มอบประสบการณ์ Hyper-Connected ที่พัฒนาให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น
SmartThings เป็นแพล็ตฟอร์มสมาร์ทโฮมอัจฉริยะ ยกระดับการเชื่อมต่อภายในบ้านให้ชีวิตสมาร์ทยิ่งขึ้นด้วย Home Automation ที่ครบวงจร ทางเลือกใหม่ให้ผู้คน Live a New Day ยกระดับประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านรวมเข้ากับ SmartThings ในแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ซัมซุงเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ผลิตนวัตกรรมล้ำหน้า SmartThings สามารถควบคุมการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชัน SmartThings ที่สามารถสั่งการให้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ หรือโซล่าเซลล์ มอบทั้งความสะดวกสบาย เอื้อชีวิต Multi Tasking มากขึ้น ปลอดภัย ควบคุมและติดตามการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และที่สำคัญให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดพลังงานและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และด้วยโหมด AI Saving Mode จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างยั่งยืน และช่วยลดค่าไฟโดยเฉลี่ยได้ถึง 40% เปลี่ยนบ้านธรรมดาเป็นบ้านอัจฉริยะ นับเป็นนวัตกรรม breakthrough ของการใช้ชีวิตแบบ Live a New Day อย่างแท้จริง