บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ยกระดับประสบการณ์ใหม่ของการฟังเพลงคุณภาพสูง ด้วยการเปิดตัว WH-1000XM5 หูฟังไฮเรสออดิโอไร้สายแบบครอบหูเจนเนอเรชั่น ที่ 5 ในตระกูล 1000X Series ที่ได้รับรางวัลและการยอมรับว่าเป็นหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวนชั้นนำของวงการและดีไซน์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมไมโครโฟน 8 ตัว และ Auto NC Optimizer ที่คอยปรับการตัดเสียงรบกวนตามสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ผสานการทำงานเข้ากับ Integrated Processor V1 และ HD Noise Canceling Processor QN1 ได้อย่างลงตัว เพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพการโทรระดับแนวหน้า ควงคู่มากับ Sony LinkBuds S รุ่น WF-LS900N หูฟังไร้สาย Truly Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเสียงคุณภาพสูง และการตัดเสียงรบกวนที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ พร้อมการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ และออฟไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงอย่างเหนือชั้น
ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มหูฟังจากโซนี่ ประกอบด้วย
- WH-1000XM5
เป็นหูฟังไฮเรสออดิโอไร้สายแบบครอบหูรุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ และได้รับการต่อยอดความสำเร็จมาจากหูฟังรุ่น WH-1000XM4 ที่ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและการโทรระดับแนวหน้าด้วยโปรเซสเซอร์สองตัวที่ควบคุมไมโครโฟนทั้ง 8 ตัว จะช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในช่วงความถี่กลาง-สูง ผสานกับ Auto NC Optimizer จะทำหน้าที่ปรับการตัดเสียงรบกวนตามสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ในขณะที่ชิปประมวลผล Integrated Processor V1 ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ สามารถทำงานร่วมกับ HD Noise Canceling Processor QN1 ได้อย่างลงตัว พร้อมมอบคุณภาพการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งไดรเวอร์ขนาด 30 มม. ที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ได้รับการปรับปรุงความไวต่อความถี่สูงเพื่อคุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษจะช่วยยกระดับในการตัดเสียงรบกวน รวมถึงปรับปรุงความคมชัดของเสียงและการสร้างเสียงเบส
นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของโซนี่ผสานบัดกรีไร้สารตะกั่วระดับพรีเมี่ยมที่มีส่วนประกอบของทองคำให้การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ และวงจรไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการปรับปรุงเสียงรบกวนให้ดีขึ้น เพื่อให้ได้เสียงที่คมชัดและสม่ำเสมอในทุกแทร็ก พร้อมถ่ายทอดน้ำเสียงคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยมทั้งการใช้งานทั้งแบบต่อเชื่อมด้วยสาย และไร้สายผ่าน LDAC อันเป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียงที่เป็นที่ยอมรับในวงการ ขณะที่เทคโนโลยีเสียง DSEE ExtremeTM จะเพิ่มสเกลไฟล์เพลงดิจิตอลที่บีบอัดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมระบบเสียง 360 Reality Audio ที่ให้คุณดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ทางดนตรีที่สมจริงด้วยการปรับแต่งในแบบของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ WH-1000XM5 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Precise Voice Pickup จะช่วยในการตรวจจับเสียงที่แม่นยำ ซึ่งเป็นการควบคุมไมโครโฟน Beamforming ทั้งสี่ตัวผสานเข้ากับอัลกอริธึมการลดเสียงแบบ AI เพื่อแยกเสียงของคุณออกมาได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่โครงสร้างการลดเสียงรบกวนจากลมที่พัฒนาขึ้นใหม่จะช่วยลดเสียงรบกวนจากลมระหว่างการโทรออก ทั้งนี้เพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ชัดเจน คมชัด และแม่นยำให้กับสายสนทนาได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ฟังก์ชั่นอันชาญฉลาดของ Adaptive Sound Control ที่มีอยู่ในหูฟัง WH-1000XM5 จะช่วยในการปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันระบบจะทำการจดจำตำแหน่งที่คุณไปบ่อยที่สุด และปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะกับสถานการณ์นั้น ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความ สามารถในการเข้าถึงระบบควบคุมการใช้งานด่วนด้วยฟังก์ชั่น Quick Access สะดวกสบายด้วยการกำหนดการตั้งค่าควบคุมหูฟังให้เล่นเพลงใน Spotify ได้ด้วยการแตะสองถึงสามครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับสมาร์ทโฟน
ด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของหูฟังในตระกูล WH-1000X ทำให้หูฟัง WH-1000XM5 ได้รับการรังสรรค์ขึ้นมาอย่างสวยงามมีสไตล์ โดยออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบายหู และไร้เสียงรบกวน ด้วยตัวเอียร์แพดขนาดใหญ่ที่ผลิตจากหนังเนื้อนิ่มแบบกระชับพอดีกับบริเวณรอบศีรษะ จะช่วยลดแรงกดที่หูลงพร้อมป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ในขณะที่ตัวหูฟังยังสามารถปรับเลื่อนแบบไม่มีสเต็ปและการหมุนแบบไร้รอยต่อ ทำให้สามารถสวมใส่สบายได้ตลอดทั้งวัน ทั้งยังฟังเพลงได้อย่างปลอดภัยผ่านทางแอพพลิชั่น Sony Headphones Connect ด้วยการเปรียบเทียบข้อมูลแรงดันเสียงที่บันทึกไว้โดยหูฟังของคุณ กับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก(WHO) ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อระดับเสียงการฟังดังเกินไปอีกด้วย
WH-1000XM5 ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นอัจฉริยะอย่าง Speak-to-Chat ที่จะช่วยให้การเดินทางในแต่ละวันของคุณเป็นไปอย่างง่ายดาย ทันทีที่คุณเริ่มสนทนา เสียงเพลงภายในหูฟังจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ พร้อมเปิดรับเสียงจากภายนอกเข้ามาเพื่อให้คุณสามารถสนทนาได้สะดวก และเมื่อสิ้นสุดการสนทนาเสียงเพลงภายในหูฟังจะเริ่มเล่นอีกครั้งโดยอัตโนมัติ รวมถึงเพลงในหูฟังของคุณจะหยุดเล่นทันทีที่คุณถอดหูฟังออก ทั้งยังรองรับการใช้งานผ่าน Google Assistant และ Alexa ที่ช่วยให้คุณสามารถทำงานในชีวิตประจำวัน เพื่อรับความช่วยเหลือแบบแฮนด์ฟรีได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนและครอบครัว เพื่อรับข้อมูล ฟังเพลง และการตั้งค่าการแจ้งเตือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth® ได้ถึง 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน และเมื่อมีสายเข้าหูฟังของคุณจะรู้ได้ทันทีว่าอุปกรณ์ใดที่กำลังมีสายเรียกเข้าและจะทำการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นั้นๆได้ในทันที ในขณะเดียวกันยังสามารถสลับการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ยังรองรับ Fast Pair ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google จะทำหน้าที่ช่วยในการจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งล่าสุดที่คุณทิ้งหูฟังไว้ได้ อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ Swift Pair จะจับคู่หูฟังกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, Window 11 หรือ Window 10 ได้ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย
WH-1000XM5 ยังมอบความเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงจากศิลปินที่คุณชื่นชอบแม้ในขณะเดินทางไกล ด้วยแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ในขณะเดียวกันยังรองรับ Quick Charge ที่สามารถฟังเพลงแบบต่อเนื่องได้นานถึง 3 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเพียง 3 นาทีเท่านั้น ผ่านการชาร์จด้วย USB-PD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น WH-1000XM5 ยังมาพร้อมกระเป๋าพกพาแบบพับได้ ทำให้สะดวกในการจัดเก็บและพกพาหูฟังไปในทุกการเดินทาง โดยบรรจุภัณฑ์ของหูฟัง WH-1000XM5 ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่มีส่วนประกอบของพลาสติก มีความเป็นพิษต่ำ ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้หลักการ “Made to be Remade” นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังใช้วัสดุรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์มาเป็นส่วนประกอบพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับโซนี่โดยเฉพาะ
- LinkBuds S รุ่น WF-LS900N
เป็นหูฟังแบบไร้สาย Truly Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ประกอบกับรูปทรงของหูฟังที่เข้ากับหูของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยขนาดของหูฟังที่เล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเพียง 4.8 กรัม ทำให้คุณสามารถสวมใส่หูฟังได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังช่วยให้คุณสามารถเปิดรับเสียงจากภายนอกได้ตลอดเวลา ขณะที่คุณสวมใส่หูฟัง คุณจะได้ยินเสียงรอบข้างได้อย่างชัดเจนโดยไม่กระทบกับการฟังเพลงแต่อย่างใด รวมถึงระบบตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูงที่อยู่ในหูฟังจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงที่คุณโปรดปรานได้เต็มที่ อีกทั้งฟังก์ชั่นอันชาญฉลาดอย่าง Adaptive Sound Control ที่มีอยู่ใน LinkBuds S จะทำหน้าที่ในการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสถานการณ์รอบตัวคุณได้โดยอัตโนมัติ
ด้วยเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ที่มีอยู่ใน LinkBuds S จะทำหน้าที่ควบคุมไมโครโฟนบนเอียร์บัดทั้งสองข้างผสานโครงสร้างตาข่ายบริเวณรอบ ๆ ไมโครโฟน ช่วยให้คุณสามารถใช้งานในการโทรออกได้โดยปราศจากเสียงรบกวน พร้อมมอบคุณภาพเสียงที่คมชัดให้กับสายสนทนาได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นโซนี่ยังร่วมมือกับ Niantic ในการพัฒนา Audio AR โดยเมื่อใช้ LinkBuds S ในระหว่างเล่นเกม เซ็นเซอร์ และเทคโนโลยีเสียงจะช่วยให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่ ด้วยทิศทางของเสียงที่สมจริงในระหว่างการเล่นเกม
นอกจากนี้ LinkBuds S ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับเสียงที่สมจริง ด้วยไดรเวอร์ขนาด 5 มม. และเอียร์บัดขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเบสอันทรงพลังและเสียงร้องที่ชัดเจนอย่างน่าอัศจรรย์ ทำงานร่วมกับชิปประมวลผล Integrated Processor V1 ที่จะช่วยในการปรับปรุงคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวน ทั้งยังลดการบิดเบือนของเสียงให้น้อยที่สุด รวมถึงยังให้คุณได้สัมผัสกับเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สาย ด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียงอันเป็นที่ยอมรับในวงการอย่าง SONY LDAC ในขณะที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับเสียงคุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยี DSEE ExtremeTM ที่ช่วยในการขยายไฟล์ดิจิตอลแบบเรียลไทม์ เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่สมจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยฟังก์ชั่น Speak-to-Chat และเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ที่อยู่ใน LinkBuds S ยังช่วยให้การสนทนาของคุณง่ายขึ้น โดยเสียงเพลงภายในหูฟังของคุณหยุดเล่นโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มการสนทนา เมื่อทำงานร่วมกับ Google Assistant และ Alexa จะช่วยให้คุณสามารถทำงานในชีวิตประจำวัน เพื่อรับความช่วยเหลือแบบแฮนด์ฟรีได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนและครอบครัว เพื่อรับข้อมูล ฟังเพลง และการตั้งค่าการแจ้งเตือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมาพร้อมแผงควบคุมเซ็นเซอร์สัมผัสที่ใช้งานง่าย โดยคุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเสียงเพื่อเปิดใช้งานโหมด Quick Access และกลับมาเล่นเพลง Spotify ด้วยการแตะที่หูฟังเอียร์บัดเพียงไม่กี่ครั้ง อีกยังรองรับ Fast Pair ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google จะทำหน้าที่ช่วยในการจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android™ ของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ Swift Pair จะจับคู่หูฟังกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต, Window 11 หรือ Window 10 ได้ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย รวมถึงยังเป็นหูฟังที่พร้อมสำหรับการรองรับ LE Audio ซึ่งเป็นระบบเสียง Bluetooth รุ่นใหม่ในอนาคตภายภาคหน้า ซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น LinkBuds S ยังเป็นหูฟังที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเรียบหรู มีสไตล์ โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ในหูฟังขณะที่เปิดโหมดการตัดเสียงรบกวนจะสามารถใช้งานได้ถึง 6 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพิ่มเติมได้อีก 14 ชั่วโมงผ่านเคสที่เล็กกะทัดรัด พร้อมรองรับระบบ Quick Charge ที่ชาร์จไฟเพียง 5 นาที สามารถใช้ฟังเพลงแบบต่อเนื่องได้นานถึง 60 นาทีเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันโซนี่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของพลาสติกเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังใช้วัสดุรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์มาเป็นส่วนประกอบพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับโซนี่โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
กำหนดการสั่งจอง และวางจำหน่าย
โซนี่ไทยพร้อมเปิดให้ผู้สนใจสั่งจองหูฟังทั้ง 2 รุ่นใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ถึง 7 มิถุนายน ศกนี้ โดยหูฟัง WH-1000XM5 จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำ และสีเงิน ราคา 14,990 บาท โดยผู้สั่งจองได้รับส่วนลด 1,000 บาท ในการซื้อสินค้าครั้งถัดไปที่โซนี่สโตร์ออนไลน์
สำหรับ LinkBuds S รุ่น WF-LS900N มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ สีขาว และสีครีม ราคา 7,490 บาท พร้อมรับ ส่วนลด 1,000 บาทสำหรับซื้อสินค้าครั้งถัดไปที่โซนี่สโตร์ออนไลน์ ผู้สนใจสามารถสั่งจองผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่นล่วงหน้า ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา หรือผ่านช่องทางโซนี่ สโตร์ออนไลน์ https://bit.ly/3N19GH1 สำหรับรุ่น WH-1000X5 และ https://bit.ly/3POoDOn สำหรับ LinkBuds S รุ่น WF-LS900N รวมทั้ง ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านตัวแทนจำหน่ายของโซนี่ที่เลือกสรร
ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่น พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ศกนี้ เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th และทดลองประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา