Lady Gaga เพิ่งออกมิวสิควิดีโอสำหรับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดที่ชื่อ “Stupid Love” ซึ่งถ่ายทำทั้งหมดด้วย iPhone 11 Pro วิดีโอซึ่งกำกับโดย Daniel Askill ถ่ายทอดภาพการต่อสู้ในโลกอนาคตที่มีสีสันสวยงามและโดดเด่นในทะเลทราย และ Askill ยังได้กล่าวชมระบบสามกล้องใน iPhone 11 Pro ว่า “ช่วยสร้างความเป็นไปได้และอิสระใหม่ๆ มากมายให้เราได้ทดลองถ่าย”
ผู้กำกับ DANIEL ASKILL
เป็นอย่างไรบ้างกับการถ่ายทำด้วย iPhone…
“เห็นได้ชัดว่าการถ่ายด้วย iPhone คือสิ่งใหม่ ละในฐานะนักสร้างภาพยนตร์ก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนทำ เพราะเรามีวิธีที่เป็นมาตรฐานในการถ่ายทำมิวสิควิดีโอ โฆษณาทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์บนกล้องที่มีราคาแพงกว่ามาก และเราสนุกกับการถ่ายทำด้วย iPhone 11 Pro มาก มันช่วยสร้างความเป็นไปได้และอิสระใหม่ๆ มากมายให้เราได้ทดลองถ่าย”
“เราสามารถใช้ iPhone ที่มีขนาดเล็กในการถ่ายทำบางฉากได้จริงๆ เราใช้สเตดิแคมเคลื่อนไป แล้วก็ให้ DP เข้ามาถือ iPhone และเราถ่าย 2-3 กล้องพร้อมกัน เราสามารถบันทึกภาพได้อย่างเป็นอิสระและสนุกสนาน ซึ่งตามปกติอาจทำไม่ได้”
“ทุกคนทึ่งมากกับฟุตเทจที่ได้และสามารถใช้งานตามกระบวนการต่างๆ ได้จริง เรามีพื้นที่สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์แบบใหม่ด้วย iPhone อย่างแน่นอน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้สำหรับงานระดับมืออาชีพที่จะถ่ายทำด้วยเทคโนโลยีประเภทนี้จริงๆ”
วิธีการถ่ายวิดีโอด้วย iPhone…
“เราวางโทรศัพท์บนสเตดิแคมสำหรับมืออาชีพและโดรนระดับมืออาชีพ นับเป็นการมาบรรจบกันที่น่าสนใจระหว่างการใช้โทรศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปในแง่ของเทคโนโลยีการบันทึกภาพ มาเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้กับการถ่ายทำในระดับที่ใหญ่กว่ามาก เราใช้กล้องหลังทั้งสามตัว แต่สลับระหว่างเลนส์ไวด์กับเทเลโฟโต้เป็นหลัก และถ่ายด้วยอัตราความเร็วสองแฟรมต่อวินาทีพร้อมกัน เราถ่ายทุกอย่างที่ระดับ 4K สำหรับเกือบทุกเทค และมีกล้องหนึ่งที่ใช้ความเร็ว 24fps โดยมีกล้องตัวที่สองอยู่ด้านล่างกล้องหลักที่ใช้ความเร็ว 48fps เพื่อให้ได้ภาพที่เป็นสโลว์โมชั่นเล็กน้อย เราคงทำเชนนี้ไม่ได้ถ้าถ่ายทำด้วยกล้องเดียวที่ใช้ Alexa”
เคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วย iPhone 11 Pro
ถ่ายวิดีโอที่เป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นถัดไปของคุณด้วย iPhone 11 และ iPhone 11 Pro วิดีโอคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟนยังมีคุณภาพดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น พร้อม ระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวในคุณภาพระดับภาพยนตร์และช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นในความละเอียด 4K ที่ 60fps แค่นี้ยังไม่พอ เพราะคุณยังจะสร้างสรรค์ผลงานได้ดังใจยิ่งขึ้นด้วยการเก็บภาพได้กว้างขึ้นถึง 4 เท่า และมีเครื่องมือปรับแต่งใหม่ๆ อันทรงพลังให้ตัดต่อภาพยนตร์ชิ้นเอกของคุณ
วิดีโอ 4K ของ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro เป็นวิดีโอที่มีคุณภาพสูงสุดในสมาร์ทโฟนด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างกว่าเดิมเพื่อแสดงรายละเอียดไฮไลท์ได้มากขึ้น ตลอดจนระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวในคุณภาพระดับภาพยนตร์ หากต้องการบันทึกวิดีโอ 4K ให้ไปที่การตั้งค่า -> กล้อง -> บันทึกวิดีโอ -> เลือก 4K ที่ 30 fps หรือ 4K ที่ 60 fps อัตราเฟรมที่สูงกว่าเหมาะสำหรับการถ่ายการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วหรือฉากแอ็คชั่น เมื่อคุณเลือก 4K ที่ 30 fps หรือ 4K ที่ 60 fps คุณจะสังเกตเห็นป้ายในแอพกล้องขณะที่คุณบันทึกวิดีโอ
ถ่ายวิดีโอเซลฟี่สโลว์โม ด้วยกล้อง TrueDepth ความละเอียด 12MP ใหม่ที่ให้คุณถ่ายภาพเซลฟี่สโลว์โมที่ 120 fps เพียงเปิดแอพกล้อง ปัดไปที่สโลว์โมชั่น แล้วแตะเพื่อเปลี่ยนเป็นกล้องหน้า
QuickTake คุณสามารถถ่ายวิดีโอสั้นๆ ในโหมดรูปภาพด้วย QuickTake เพียงกดชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเริ่มบันทึก แล้วถ้าอยากถ่ายวิดีโอต่อไปเรื่อยๆ ก็แค่ปัดไปทางขวา หากต้องการถ่ายภาพต่อเนื่องก็แค่ปัดไปทางซ้าย
ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ที่ 30fps และ 60fps ด้วยกล้อง TrueDepth โดยสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ได้สูงสุดถึง 60 fps และสูงสุด 30 fps ด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยเปิดโลกใหม่ของการถ่ายเซลฟี่แบบสนุกๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
การถ่ายในโหมดอัลตร้าไวด์ กล้องอัลตร้าไวด์เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอแอ็คชั่น ต่อไปนี้คือคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการใช้กล้องอัลตร้าไวด์ถ่ายวิดีโอชิ้นต่อไปของคุณ
- ลองถ่ายในมุมอื่นๆ หรือใช้เอฟเฟ็กต์งานศิลป์ที่จะยืดวัตถุหรือทำให้สิ่งต่างๆ ดูเหมือนอยู่ใกล้กล้องจนเกินจริง
- โฟกัสที่ทิวทัศน์ที่สวยงามที่คุณไม่สามารถถ่ายทั้งเฟรมได้ด้วยกล้องมุมกว้างมาตรฐานทั่วไป
- ลองถ่ายวัตถุในที่แคบที่คุณถอยหลังไม่ได้
การแก้ไขวิดีโอ เครื่องมือแก้ไขที่แต่ก่อนมีให้เฉพาะสำหรับรูปภาพ มีให้คุณได้แก้ไขวิดีโอได้อย่างมืออาชีพแล้ว iOS 13 ให้คุณปรับแต่งวิดีโอได้เหมือนกับรูปภาพ
ครอบตัด: เลือกวิดีโอ > แก้ไข > ครอบตัด
หมุน: เลือกวิดีโอ > แก้ไข > ครอบตัด > หมุน
ปรับความอิ่มสีอัตโนมัติ: เลือกวิดีโอ > แก้ไข > ปรับ >อัตโนมัติ
เพิ่มฟิลเตอร์: เลือกวิดีโอ > แก้ไข > ฟิลเตอร์ (เลือก 1 ฟิลเตอร์จาก 9 ฟิลเตอร์ที่ Apple ออกแบบมา เช่น แจ่มใส ขาวดำ และดราม่าโทนเย็น)
การปรับค่าแสงอัตโนมัติและโฟกัสอัตโนมัติ ล็อคการปรับค่าแสงอัตโนมัติและโฟกัสอัตโนมัติด้วยการกดค้างไว้ที่ใดก็ได้ที่ต้องการบนหน้าจอ