True 5G เครือข่ายอัจฉริยะ เร็ว แรง ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย นำโดยนายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ (กลาง) หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ Nokia ผู้นำด้านเทคโนโลยีโครงข่าย โดย มร. อาเจย์ ชาร์ม (ซ้าย) ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา และ Qualcomm ผู้นำด้านการพัฒนาชิปเซ็ต โดย มร.เอส ที เลียว (ขวา) รองประธาน ควอลคอมม์ ซีดีเอ็มเอ เทคโนโลยี เอเชีย-แปซิฟิก จำกัด และประธาน Qualcomm เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย แสดงศักยภาพคลื่นความถี่ย่าน 26GHz. หรือ คลื่น mmWave (Millimeter Wave) อีกครั้ง ด้วยการทดสอบเทคโนโลยีการส่งสัญญาณคลื่น mmWave แบบระยะทางไกล ผ่านอุปกรณ์ส่งสัญญาณ Nokia AirScale ที่ใช้โซลูชั่น 5G mmWave Extended-Range และอุปกรณ์ตัวรับสัญญาณที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM SDX65 5G Modem-RF System บนเครือข่ายจริงที่นครราชสีมา ทำให้คลื่น 26GHz. หรือ mmWave สามารถส่งข้อมูลที่ความเร็วระดับ Gigabit ไปได้ไกลสุดถึง 11.1 กิโลเมตร สำเร็จเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคลื่น mmWave ว่าสามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านทรู 5G ในพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น และลดข้อจำกัดจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายสัญญาณ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโน โลยีการสื่อสารที่มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคและเพิ่มศักยภาพความพร้อมให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย
นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรูในฐานะผู้นำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเป็นรายแรกรายเดียวที่มีคลื่นครบสุดทุกย่านความถี่ ทั้งย่าน Low Band , Mid Band และย่าน High Band เรามุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายทรู 5G ที่ดีที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทั้งลูกค้าองค์กร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ล่าสุดได้ร่วมมือกับโนเกีย และควอลคอมม์ ทดสอบเทคโนโลยีการส่งสัญญาณคลื่น mmWave แบบระยะทางไกล ผ่านอุปกรณ์ส่งสัญญาณ Nokia AirScale และอุปกรณ์ตัวรับสัญญาณที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SnapdragonTM SDX65 5G Modem-RF System ทำให้คลื่น 26GHz. หรือ mmWave สามารถส่งข้อมูลที่ความเร็วระดับ Gigabit ไปได้ไกลสุดที่ 11.1 กิโลเมตร สำเร็จเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก จากผลการทดสอบครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเราได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของ mmWave ที่ปกติจะส่งสัญญาณได้ในระยะไม่ถึง 1 กิโลเมตร และด้วยคุณสมบัติที่มีแบนด์วิธสูง ทรูสามารถนำเทคโนโลยี mmWave ไปใช้กับการให้บริการที่ต้องการสปีดเร็วและส่งได้ไกล สำหรับภาค อุตสาหกรรม และผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านทรู 5G ในพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น รวมทั้งลดข้อจำกัดจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสายสัญญาณ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค และเพิ่มศักยภาพความพร้อมให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย”
มร. อาเจย์ ชาร์มา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา ได้กล่าวว่า “นับเป็นความสำเร็จในการร่วมมือกันของ ทรู คอร์ปอเรชั่น, โนเกีย และ ควอลคอมม์ ในการร่วมกันทดลองการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 26GHz. หรือ คลื่น mmWave เพื่อให้บริการ 5G ในระยะทางไกล คลื่น mmWave เป็นความถี่ที่มีศักยภาพในการให้บริการการสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์สถานีฐานและเทคโนโลยีของโนเกีย เราสามารถเอาชนะข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการนำคลื่น mmWave เพื่อให้บริการอินเตอร์เนทไร้สายความเร็วสูง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจอีกก้าวหนึ่งสำหรับทรู คอร์ปอเรชั่น อีกทั้งเพื่อประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมในการให้บริการ 5G สำหรับลูกค้ารายบุคคล รวมถึงเป็นโซลูชั่นที่ดีให้แก่ลูกค้าองค์กร และภาคอุตสาหกรรม”
มร.เอส ที เลียว รองประธาน ควอลคอมม์ ซีดีเอ็มเอ เทคโนโลยี เอเชีย-แปซิฟิก จำกัด และ ประธาน ควอลคอมม์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ออสเตรเลีย กล่าวว่า “ความสำเร็จนี้ต่อยอดจากความเป็นผู้นำของเราในด้าน 5G และความมุ่งมั่นของเราในการตระหนักถึงศักยภาพของสเปกตรัม mmWave เราสนับสนุนให้มีความร่วมมือกันระหว่างผู้สร้างนวัตกรรม เช่น ทรู และโนเกีย เพื่อให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงในประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงสำหรับภาคธุรกิจและผู้บริโภค”