สองปีก่อน Foxconn (ฟ็อกซ์คอนน์) ประกาศจะตั้งโรงงานในสหรัฐที่รัฐ Wisconsin เป็นเงินลงทุนมูลค่ากว่า $10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะสร้างงานให้กับท้องถิ่นกว่า 13,000 ตำแหน่งเลยทีเดียว
แน่นอนว่าการที่บริษัทจีนมาตั้งโรงงานในสหรัฐที่ค่าแรงแพงกว่าลิบลับ Trump ประกาศความสำเร็จในการเอาชนะจีนและเรียกกระแสผลิตในอเมริกากลับมาได้ชั่วขณะหนึ่ง ตัดกลับมาปัจจุบัน Foxconn ระบุว่าสำนักงานในสหรัฐนี้จะมุ่งเน้นไปที่งานดีไซน์ และวิจัยพัฒนา รวมไปถึงอาจจะไม่เปิดไลน์ผลิตหน้าจออย่างที่บอกเอาไว้
สองปีที่ผ่านไปมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย รวมไปถึง Foxconn ที่ตอนหลังบอกว่าจะเปลี่ยนจากผลิตหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ ไปเป็นหน้าจอมือถือขนาดเล็ก ล่าสุดก็บอกว่าจะไม่ผลิตอะไรทั้งสิ้นแล้ว โดยคนสนิทของ CEO ได้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าให้ผลิตในญี่ปุ่นและจีน แล้วส่งไปประกอบที่เม็กซิโกยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าผลิตในสหรัฐเสียอีก
ก่อนหน้านี้ฟ็อกซ์คอนน์ได้รับเงินสนับสนุนราวๆ $4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปของภาษีที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตามแทนที่จะจ้างงานคนท้องถิ่นกว่า 13,000 ตำแหน่ง ปีทีแ่ล้วกลับว่าจ้างพนักงานเพิ่มเพียง 178 คนเท่านั้น ล่าสุดยืนยันจะจ้างคนราวๆ 13,000 คนมาทำงานปีนี้ และจะเพิ่มอีก 5,200 คนในปีหน้า
แต่คนสนิทใกล้ชิดแหล่งข่าวก็เผยว่าจริงๆ แล้วฟ็อกซ์คอนน์ก็น่าจะจ้างคนเพิ่มแค่พันกว่าเท่านั้น ไม่ถึงหลักหมื่นอย่างที่คิด โดยปัจจัยหลักๆ ก็คือค่าแรงสหรัฐที่สูงกว่าจีนมากๆ จนไม่คุ้มต่อการว่าจ้าง ล่าสุด Terry Gou ซีอีโอของฟ็อกซ์คอนน์มีแผนจะพบกับ Tony Evers ปีนี้ โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้วิจารณ์โครงการว่าไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และจะพูดคุยกันถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงการในปัจจุบัน กับที่ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก
ที่มา – Engadget
