สัดส่วนภายนอก Apple iPhone 5s
เปิดตัวแล้วเป็นรุ่นที่ 7 สำหรับ iPhone ที่ทุกคนต่างรอคอย กับ iPhone 5s ถึงแม้จะออกมาในรูปทรงเดิม แต่มีสีทองออกมาเอาใจอาเสี่ย ก็ทำให้ขาดตลาดตั้งแต่เริ่มขายทั่วโลก เพราะหลายๆ คนอยากได้สิ่งที่แตกต่างจากเดิมอย่างเป็นรูปธรรม นับว่าแอปเปิ้ลมาถูกทางสำหรับคนที่ไม่ชอบจำเจกับสีดำ สีขาวแบบเดิมๆ
ด้านหน้า : สิ่งที่ดูแล้วรู้เลยว่านี่คือ iPhone 5s คือวงแหวนรอบปุ่มโฮม เปลี่ยนจากที่เคยใช้มากับรุ่นเดิมๆ ทั้ง 6 รุ่น และมีเทคโนโลยีใหม่บนปุ่มโฮมนี้ด้วย เดี๋ยวเรามาดูกัน ส่วนด้านบนก็ยังคงเดิม มีกล้องหน้าสำหรับเฟสไทม์ เซ็นเซอร์วัดแสง และลำโพงสนทนา
ด้านซ้าย : มีปุ่มมีสวิตซ์เปิด/ปิดเสียง เพื่อใช้ระบบสั่น ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านขวา : มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิม โดยใช้เข็มที่แถมมาให้ในกล่องจิ้มถาดออกมาเหมือนรุ่นก่อนๆ
ด้านบน : ปุ่มสำหรับเปิด/เปิดเครื่องโดยกดค้างเอาไว้ แต่หากกดลงไป 1 ครั้งเป็นการเปิด/ปิดหน้าจอเพื่อล็อคเครื่อง
ด้านล่าง : เหมือนกับ iPhone 5 มีช่องเสียบชุดหูฟังสมอลล์ทอล์คที่แถมมาให้ในกล่อง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนสนทนา ตรงกลางเป็นช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เป็นพอร์ตไลท์นิ่ง (Lightning) ส่วนอีกช่องเป็นลำโพงเครื่อง
ด้านหลัง : โลโก้แอปเปิ้ลแหว่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ที่มุมบนซ้ายมีเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอล และแฟลชแบบดูอัลแอลอีดี โดยให้สีแบบทูโทน ดวงนึงเป็นสีขาว อีกดวงเป็นสีนวล สำหรับฝาหลังของเครื่องนี้เป็นสีทอง ตัดกับแถบสีขาวทั้งด้านบน ด้านล่าง
ภาพรวม : เครื่องที่เรานำมาทดสอบเป็นสีแชมเปญโกลด์ หรือสีทองนั่นเอง จากที่เคยนึกภาพไว้ก่อนวางขายคงจะเป็นสีเหลืองทองอร่าม แต่เมื่อเห็นเครื่องจริงแล้วกลับพบกว่าเป็นสีทองจางๆ ไม่ดูลิเกจนเกินไป แต่ถ้ามองไกลๆ อาจจะดูไม่แตกต่างจากสีขาวสักเท่าไหร่ สำหรับสีขาว หรือ Silver นั้นดูไม่ต่างจากเดิม แต่สีเทา หรือ Space Grey นั้นดูต่างมาก จากเดิมเป็นสีดำล้วน แต่สำหรับ iPhone 5s ด้านหลัง ด้านข้างจะเป็นสีเทาเข้ม และมีแถบดำบนล่างที่ด้านหลัง
ชำแหละเครื่องใน
ภายนอกแม้จะดูแทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อน แต่ภายในก็ถือว่าเปลี่ยนแปลงพอสมควร เริ่มจากการอัพเกรดซีพียูโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ 64 บิทเหมือนกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น แต่ในระยะแรกอาจจะไม่เห็นผล ต้องรอให้นักพัฒนาแอพฯ เปลี่ยนซอฟท์แวร์จาก 32 บิท เป็น 64 บิท ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ สำหรับชิพประมวลผลของ iPhone 5s เป็นรุ่น A7 ความเร็ว 1.3 กิกะเฮิร์ตซ์แบบดูอัลคอร์ ชิพประมวลผลภาพสามมิติเป็น PowerVR G6430 และยังมีชิพโมชั่น M7 สำหรับตรวจจับความเคลื่อนไหว โดยใช้ร่วมกับแอพฯ ประเภทออกกำลังกายก็จะได้ข้อมูลการเคลื่อนไหวที่ละเอียดขึ้น
iPhone 5s มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 7 ซึ่งตอนนี้มีอัพเดทไปจนถึง 7.0.3 เรียบร้อยแล้ว โดยแก้บัคต่างๆ ไปพอสมควร หน้าตาเวอร์ชั่นนี้ก็เปลี่ยนจากเดิมไปมาก โดยเน้นสีสันให้ดูสวยงาม จัดจ้านมากขึ้น ซึ่งไอคอนแอพฯ ต่างๆ ก็ปรับตัวเข้าหาเพื่อให้เป็นธีมเดียวกันแล้ว สำหรับการใช้งานก็ไม่ถือว่าแปลกแตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อน สามารถใช้งานได้ เข้าใจง่ายเหมือนเดิม
จากที่เกริ่นไว้เรื่องปุ่มโฮมที่เปลี่ยนเป็นวงแหวน โดยขอบของปุ่มจะเป็นสีตามสีเครื่อง อย่างเครื่องนี้เป็นขอบทอง ดูหรูหราไฮโซไม่เบา เจ้าปุ่มโฮมนี้ยังอัดแน่นไปด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถใช้ปลายนิ้วแตะเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ หรือที่ทางแอปเปิ้ลเรียกว่าทัชไอดี (Touch ID) คนอื่นจะนำเครื่องไปเล่นก็ไม่ได้เสียแล้ว ถ้าไม่ใช่เจ้าของเครื่อง นอกจากนี้ยังใช้ซื้อแอพฯ ในแอพฯ สโตร์โดยใช้นิ้วมือยืนยันการซื้อแอพฯ ได้ด้วย ไม่ต้องใส่พาสเวิร์ดให้ยุ่งยากเลย ดูไฮเทคไหมล่ะ วิธีการใช้งานก็ไม่ยาก เข้าเมนูเพื่อตั้งค่าการสแกนนิ้ว ซึ่งต้องแตะหลายครั้งหน่อยเพื่อให้ได้ข้อมูลลายนิ้วมือที่แม่นยำมากขึ้นโดยหน้าจอจะบอกขั้นตอนอย่างละเอียด และสามารถเก็บข้อมูลได้หลายนิ้วด้วย คราวนี้จะใช้นิ้วไหนแตะเพื่อปลดล็อคหน้าจอก็ได้
มาดูเรื่องกล้องดีกว่า เจ้ากล้องดิจิตอล หรือที่ทางแอปเปิ้ลเรียกว่า ไอไซท์ คาเมล่า (iSight Camera) ก็ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของรูรับแสงให้กว้างขึ้น จากรุ่นก่อนค่า f มีขนาด 2.4 ปรับมาเป็น 2.2 จึงรับแสงได้มากขึ้น มีแฟลชแบบทูโทน ดวงนึงสีขาว อีกดวงนึงสีนวล ซึ่งจะทำให้ถ่ายภาพบุคคลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ดูขาวเวอร์จนเกินไป มีโหมดถ่ายภาพสโลว์โมชั่น ซึ่งจะถ่ายภาพช้าได้ถึง 120 เฟรมต่อวินาที แล้วยังกลับมาเลือกได้ว่าจะให้ภาพสโลว์ในช่วงไหนก็ได้ด้วย ส่วนการถ่ายภาพ และวิดีโอก็ทำได้เหมือนกับรุ่นก่อน
ในเรื่องแอพฯ ทางแอปเปิ้ลก็ใจดี แจกแอพฯ สำหรับการทำงานให้ฟรีสำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Pages, Numbers, Keynote และ iMovie ให้ฟรีๆ ซึ่งก็เปรียบเสมือนมี Word, Excel, Power Point ให้เราไปดาวน์โหลดฟรีได้เลย ไม่ต้องเสียตังค์ซื้ออีกแล้ว
การเชื่อมต่อก็แทบจะไม่ต่างจาก iPhone 5 เลย เพราะรองรับทั้ง 3จี ทุกเครือข่าย พร้อมรองรับ 4จี แอลทีอีของทรูมูฟเอชด้วย สามารถนำไปใช้งานได้ทั่วโลก รองรับไว-ไฟ 802.11 ทั้งมาตรฐาน a/b/g/n ครบ ส่วนบลูทูธก็เวอร์ชั่น 4.0 และภาครับสัญญาณจีพีเอสซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน
กูรูฟันธง
อันดับแรกที่ผู้ใช้ iPhone 5 รุ่นก่อนมักจะถามว่าควรเปลี่ยนไหม เราแนะนำว่าไม่ควรเปลี่ยน เพราะมีการอัพเกรดต่างๆ น้อยมาก ไม่คุ้มหากจะต้องขายเครื่องเก่า เพื่อซื้อเครื่องใหม่ แต่หากเบื่อสีเดิม อยากเปลี่ยนเป็นสีทอง อันนี้ต้องอาศัยอารมณ์ในการตัดสินใจล้วนๆ หรือถ้าอยากลองเล่นเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างระบบสแกนลายนิ้วมือ ซีพียูแบบใหม่ 64 บิท ก็น่าสนใจอยู่ ช่วงนี้สีทองกำลังขาดตลาด แต่หากเป็นสีอื่นก็พร้อมเป็นเจ้าของได้เลย
ข้อดี
• จอภาพเรติน่า ให้ภาพคมกริบ ขนาดใหญ่ 4 นิ้ว
• มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรักษาความปลอดภัยในเครื่อง
• ระบบปฏิบัติการ iOS 7 เวอร์ชั่นล่าสุด
• ซีพียูแบบ 64 บิท ความเร็ว 1.3 กิกะเฮิร์ตซ์แบบดูอัลคอร์
• มีความจุให้เลือกสูงสุด 64 กิกะไบต์
• กล้อง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2 แฟลชแอลอีดีแบบทูโทน
• ถ่ายวิดีโอความละเอียดฟูลเอชดี ถ่ายสโลว์โมชั่นได้
ข้อเสีย
• จอแสดงผลมีขนาดค่อนข้างเล็กถ้าเทียบสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
• ราคาค่อนข้างสูง
• ไม่รองรับเอ็นเอฟซี
• แบตเตอรี่ความจุน้อยไปหน่อย
รูปหน้าจอ Apple iPhone 5s
