สัดส่วนภายนอก iPhone 5c
ท่าทางว่าการออก iPhone ปีละรุ่นดูจะเป็นกลยุทธ์ที่เริ่มไม่เข้าท่าเสียแล้ว เพราะทางฝั่งแอนดรอยด์ปูพรมถล่มกันไม่เว้นแต่ละยี่ห้อเลย Apple เลยอยากออกไอโฟนสักตัวที่มาคานอำนาจ ไม่ให้รุ่นเรือธงของแต่ละค่ายมาฉะกับตัวท็อปอย่าง 5s โดยตรง ฉะนั้น 5c ก็เลยมีภารกิจเป็นกันชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลจะเป็นยังไง เดี๋ยวก็รู้กันครับ
ด้านหน้า : รุ่นนี้หน้าดำเป็นเปาบุ้นจิ้นหมด ไม่มีหน้าขาว เพราะขนาดเครื่องที่หลังสีขาว หน้ายังดำเลย ส่วนประกอบทั้งหมดเหมือน iPhone 5 ตั้งแต่ปุ่มโฮมที่คนไม่ค่อยอยากจะกด เนื่องจากกลัวมันพัง มีจอขนาด 4 นิ้ว และลำโพงสนทนา คู่กับเซ็นเซอร์สุดแสนจะไฮเทคนานาชนิด ทั้งหมดทำงานร่วมกับจอแสดงผลเหมือนเดิม ไม่ว่าจะปิดจอหรือปรับแสงสว่าง
ด้านหลัง : บอกแล้วว่าเป็นพลาสติกทั้งชิ้น พลาสติกแบบเดียวกับที่ Samsung เอามาใช้ทำฝาหลัง แล้วเรียกกันทั้งวงการว่าโพลีคาร์บอเนตนั่นแหละ แน่นอนว่าเป็นรอยง่ายมาก หากวางทิ้งกับโต๊ะแล้วมีการเคลื่อนย้ายไปมา ฉะนั้น เราจึงแนะนำว่าได้เครื่องมาให้รีบหาเคสใส่เถอะ ก่อนที่มันจะสายเกินแก้
ด้านซ้าย : ฝั่งนี้ก็มีปุ่มคลาสสิกสไตล์เดียวกับปุ่มโฮม เพราะอยู่มาตั้งแต่ iPhone 2 จี ตัวแรก อันได้แก่ ปุ่มปรับเสียง และปุ่มปิดเสียง ดูแล้วก็สะดวกดี เพราะไม่ต้องเปิดหน้าจอก็ปิดเสียงได้แล้ว
ด้านขวา : ตั้งแต่ iPhone 4 เป็นต้นมา ฝั่งนี้ก็เป็นพื้นที่สำหรับช่องใส่ซิมการ์ด โดยที่เจ้านี้เป็นต้นแบบของการใช้ถาดซิมการ์ดเลย แถมต้องมีเข็มมาจิ้มให้วุ่นวาย แต่ถึงกระนั้นก็มีคนเอาไปทำตามเยอะแยะ เลยคิดไม่ออกเหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องดีหรืออย่างไรกันแน่
ด้านบน : ปุ่มพาวเวอร์ด้านบนขวานี่เราว่าจะสะดวกกว่านะ ถ้าใช้มือซ้ายถือแล้วกดด้วยนิ้วชี้ ถ้าเอามือขวาแล้วกดด้วยนิ้วชี้ ธรรมชาติของนิ้วเรามันจะต้องแหกออกไปในทิศทางที่ผิดปรกติ ไม่เชื่อลองหาเครื่องเดโมหน้าร้านดูกันเองได้ครับ
ด้านล่าง : ฝั่งนึงเป็นลำโพง อีกฝั่งนึงเป็นไมโครโฟน หวังว่าจะไม่มีใครมากล่าวหาว่า iPhone 5c ทำไมลำโพงเจ๊งข้างนึงอีกแล้วนะครับ หากไม่ชัดเจน กรุณาย้อนไปอ่านที่ต้นหัวข้อใหม่อีกครั้ง อ้อ เมื่อมองตรงนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กันมาก็คือแจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลฯ ขาดเธอเหมือนขาดใจเลยนะ
ภาพรวม : ยอมรับมาเถอะนะครับ Apple ว่าตามกระแสแห่งสีสันคัลเลอร์ฟุลของ Lumia เขามา แต่อะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง มักจะล้มเหลวอยู่ร่ำไป ฝาหลังที่เป็นพลาสติกตัวเองก็เลิกใช้มานานแล้ว เพราะตั้งแต่ 4 4s มาถึง 5 ก็ล้วนแล้วแต่ใช้กระจกกับอลูมิเนียมทั้งนั้น แฟน Apple ที่ชอบความหรูหราของวัสดุอยู่แล้วก็ถูกใจดิ แต่พอเจอแผ่นหลังพลาสติกเข้าไป ขอบอกเลยว่าคนยอมกลั้นใจเพิ่มเงินอีกนิด ซื้อ iPhone 5s เกือบ 100%
ชำแหละเครื่องใน
ไปไม่เป็นเหมือนกัน เมื่อรู้ว่า iPhone 5 และ 5c มีความแตกต่างกันเพียงน้อยนิด เรียกว่าถ้าคุณใช้ 5 อยู่ แล้วหนีมาซื้อ 5c ก็ต้องบอกว่าทำเพราะใจรักเท่านั้น ฟังก์ชั่นโดยรวมกว่า 95% นั้นเหมือนชนิดถอดแบบแม่พิมพ์เดียวกันมา แต่กระนั้น เราก็ต้องพยายามชี้ให้เห็นว่ามันต่างกันอย่างไร
ลำดับที่หนึ่ง เอาเรื่องที่เห็นชัดบนหน้ากระดาษก่อนเลย นั่นคือ iPhone 5c มีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่า 5 ตัวดั้งเดิมครับ แต่ก็เป็นแค่หลักสิบมิลลิแอมป์ (ไม่ถึง 100) ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันใช้ได้นานกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย แต่ขอบอกว่าแยกความแตกต่างได้ยากเย็นเหลือเกิน
ลำดับถัดไป iPhone 5c มีความจุสูงสุดเพียง 32 กิกะไบต์ เทียบกับ 64 กิกะไบต์ของ iPhone 5 ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ใครชื่นชอบอาวุธหนัก กะซื้อมาทีเดียวเก็บซีรี่ยส์เกาหลีทั้งหมดของท่านได้ในเครื่องเดียว ขอให้พิจารณาไปซื้อ 5s หรือ iPad แทน
ลำดับถัดๆ ไปล่ะ มีอะไรอีกบ้างไหม จุดที่เห็นคือการรองรับ 4 จี แอลทีอี บนความถี่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไปต่างประเทศบ่อยๆ และต้องการใช้ 4 จี ณ จุดนั้น ถามว่ามีคนกลุ่มนี้มากแค่ไหน เราเองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันใช้ 4 จี ของทรูมูฟเอชในไทยได้ทั้งสองรุ่น หรือจะเป็นเรื่องกล้องหน้าที่เขาว่ากันว่ารุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม พวกนั้นก็เทียบกันได้ยากอีกนั่นแล
แล้วถ้าเทียบกับ 5s ล่ะ อันนี้น่าจะเห็นความแตกต่างเยอะพอดู ทั้งที่ราคาห่างกันไม่มากนัก ทั้งปุ่มโฮมแบบไฮโซ สแกนลายนิ้วมือได้ (ทัชไอดี) การถ่ายวิดีโอในโหมดสโลว์โมชั่น กล้องที่ถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยได้ดีขึ้น เนื่องจากรูรับแสงกว้างขึ้น และการมีแฟลชคู่สองโทนสีที่ช่วยปรับภาพให้เป็นธรรมชาติ โพรเซสเซอร์ที่เร็วและประหยัดกว่า แค่นี้ก็เพียงพอให้ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกรุ่นไหน จะยอมจ่ายเงินเพิ่ม 4 พันบาทเพื่อสัมผัสความสุดยอดของ iPhone ไหม น่าจะพอมีแนวทางละ
หลังจากเปรียบเทียบกันมามากพอ เรากลับมาดูฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ ไอโอเอส 7 กันบ้างดีกว่า สิ่งที่เราชอบมีหลายอย่าง อาทิ ดีไซน์ที่ยกเครื่องเก่าทิ้ง ใส่เครื่องใหม่เข้ามาเต็มสูบ แม้จะโดนข้อหาว่าลอกเลียนแบบทั้งหน้าตาและลูกเล่นของระบบปฏิบัติการอื่นมาก็ตามที แต่มันก็เป็นการล้างภาพเมนูแบบเดิมๆ ที่ใช้มาตลอด ขอบอกว่าน่าเบื่อชะมัดเลยฮะพี่น้อง
มีอะไรอีกล่ะ แอร์ดร็อป (AirDrop) ที่ส่งไฟล์กันระหว่างอุปกรณ์ที่เป็นไอโอเอสด้วยกันได้สะดวกและเร็วขึ้น เพราะเดิมทีบลูทูธยังใช้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คอนโทรลเซ็นเตอร์ (Control Center) ก็ช่วยให้เปิดปิดฟังก์ชั่นอะไรหลายอย่างได้เร็วกว่าการเข้าเมนูการตั้งค่าไปแบบทื่อๆ และที่โหดสุดสำหรับหัวขโมยคือ ถ้าเจ้าของเครื่องเปิดฟังก์ชั่น ฟายด์ มาย ไอโฟน เอาไว้ ถึงจะเอาเครื่องไปก็ใช้ไม่ได้ เพราะมันล็อคตั้งแต่ก่อนลบข้อมูลทิ้ง ยันลบทิ้งแล้วจะกลับมาแอคทิเวตให้เครื่องใช้งานได้ เรียกว่าโคตรแห่งความปลอดภัยเลยล่ะ ถึงเอาเครื่องไปได้ก็คงต้องเอาไปทับกระดาษหรือรองขาโต๊ะสถานเดียว
กูรูฟันธง
คงไม่ต้องฟันอะไรให้ยากเย็นแล้วมั้ง เพราะกระแสข่าวต่างๆ รวมถึงยอดขายของ iPhone 5c เป็นผลลัพธ์ที่บอกได้อย่างชัดเจนที่สุด เราคงไม่ต้านกระแส และคงไม่เขียนให้ iPhone 5c ดูเลิศหรูขึ้นมา แต่ก็คงไม่ได้วิจารณ์ให้ย่อยยับเพื่อความบันเทิงเท่านั้น iPhone ก็ยังเป็น iPhone อยู่วันยันค่ำ จุดเด่นของมันชัดเจนมากอยู่แล้ว อย่างเช่น แอพพลิเคชั่นดีๆ มากมายท่ีสุมรวมตัวกันอยู่ในไอโอเอส กล้องที่มีความคมชัดสูงและปรับไวท์บาลานซ์ได้ดีมาก การจัดการคอนเท้นท์จำพวกมัลติมีเดียทั้งหมดผ่านไอทูนส์ และอื่นๆ อีกหลายประการ เกินกว่าที่จะกล่าวให้หมดในหน้าเดียว อ่านมาขนาดนี้แล้ว หวังว่าเราคงช่วยคุณตัดสินใจได้นะว่า iPhone 5s หรือ 5c คือตัวเลือกในใจและพร้อมจะควักเงินให้แต่โดยดี
ข้อดี
1. สีสันที่เพิ่มมาสำหรับวัยรุ่นที่ชอบแนวนี้โดยเฉพาะ
2. จอแสดงผลที่ยังคมชัดติดอันดับต้นๆ ของยุทธจักร
3. มาพร้อมกับไอโอเอส 7 แต่กำเนิด
4. รองรับความถี่ 3 จี และ 4 จี ได้ครบถึงใจจริงๆ
5. กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องวิดีโอก็ยังคุณภาพดีอยู่นะ
6. อีโคซิสเต็มของ iPhone ยังเข้มแข็งมาก และน่าจะอยู่ไปอีกนาน
ข้อเสีย
1. ความจุ 64 กิกะไบต์ที่หายไป
2. บอดี้พลาสติก หมดความขลังไปเยอะเหมือนกัน
3. แอร์ดร็อปใช้งานได้แต่กับอุปกรณ์ไอโอเอสเท่านั้น แมคหมดสิทธิ์
4. ปัญหาเดิมๆ ก็พวกการเพิ่มหน่วยความจำไม่ได้ และแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว
5. จอ 4 นิ้ว เล็กเกินไปสำหรับการบริโภคคอนเท้นท์สมัยนี้แล้ว
รูปหน้าจอ iPhone 5c
