หลังจากที่ OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ไปล่าสุด 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น OPPO Find X2 Pro 5G, Reno4 Pro 5G และ Reno4 Z 5G ทาง OPPO ก็ได้ส่ง Boxset ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสื่อมวลชนเพื่อนำไปรีวิวโดยเฉพาะ โดยจัดทำเป็นกล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น มาแกะกล่องดูกันเลยดีกว่าครับ
แกะกล่องพรีวิว OPPO 5G Boxset
กล่อง OPPO 5G Boxset ที่เราได้รับมาเป็นกล่องสีดำที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านหน้าสกรีน OPPO 5G NOW ที่บ่งบอกถึงความพร้อมในการใช้งานเครือข่าย 5G ในขณะนี้ และเมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับกล่องสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นใหม่อย่าง OPPO Reno4 Z 5G, Find X2 Pro 5G, และ Reno4 Pro 5G วางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ในความรู้สึกแรกที่เห็นไม่รู้ว่าจะหยิบกล่องไหนมาใช้ก่อนดี
ส่วนที่ฝากล่องด้านในก็ยังมีสกรีน Your 5G Experience Starts Here สื่อถึงประสบการณ์การใช้งานเครือข่าย 5G เริ่มต้นจากตรงนี้ และเราขอเริ่มพรีวิวจากกล่องแรกกันก่อนเลย นั่นก็คือ
OPPO Reno4 Z 5G
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นเริ่มต้นของ OPPO รุ่นก็คือ Reno4 Z 5G ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม ในกล่องที่ได้มาทดสอบเป็นสี Dew White ด้านหลังใช้วัสดุแบบด้าน ให้ผิวสัมผัสที่ต่างจากสมาร์ทโฟนแบบเงา อีกทั้งยังช่วยลดรอยนิ้วมือเมื่อสัมผัสด้วย
จอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 6.57 นิ้ว เป็นจอแสดงผลแบบ LTPS LCD แสดงผลได้ถึง 120 Hz ส่วนความละเอียดอยู่ที่ระดับ FHD+ หรือ 1080 x 2400 พิกเซล แสดผลสีสันได้สูงสุดถึง 1.07 พันล้านสี กระจกด้านหน้าใช้ Corning Gorilla Glass 3 ที่ทนต่อแรงกระแทกและทนต่อรอยขีดข่วน สำหรับกล้องหน้าเป็นแบบคู่ 2 เลนส์อยู่ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ
ด้านหลังเป็นสี Dew White ขาวสะอาดตา และยังสะท้อนสีสันให้เห็นในมุมต่างๆ เมื่อแสงตกกระทบ ดีไซน์ออกแนวเรียบหรู เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบสีขาวสะอาดตา ส่วนเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลของรุ่นนี้ดีไซน์มาเป็นแบบสี่เหลี่ยม และมีกากบาทอยู่ด้านใน มีเลนส์รับภาพมาให้ทั้งหมด 4 เลนส์
ช่องใส่ถาดซิมการ์ดอยู่ที่ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง สำหรับตัวถาดซิมการ์ดเป็นแบบ 2 ช่อง สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ใบ ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกมาให้
ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงสนทนา ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
สรุปสเป็ค OPPO Reno4 Z 5G
- ขนาด 163.8 x 75.5 x 8.1 มม. นัำหนัก 184 กรัม
- หน้าจอ LTPS LCD FHD+ ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- แสดงผลสีได้สูงสุด 1.07 พันล้านสี รีเฟรชเรท 120 Hz
- หน่วยประมวลผล MTK MT6873V Octa-core
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G57
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G แบบ Dual Mode
- กล้องหน้า 2 เลนส์
- เลนส์หลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4 ตัว
- เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8
- เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์ภาพขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Vintage Portrait Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 4000 mAh ชาร์จเร็ว 18 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยปุ่มเปิดปิดด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- เชื่อมต่อ Bluetooth, WiFi
- มีให้เลือก 2 สี Dew White, Ink Black
- ราคาเปิดตัว 12,990 บาท
OPPO Reno4 Pro 5G
ถัดมาเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่อัพสเป็คมาจาก Reno4 Pro ที่รองรับเฉพาะเครือข่าย 4G มาถึงรุ่นนี้อัพเกรดมารองรับการใช้งาน 5G เรียบร้อย เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Space Black ต่างจากสี Galactic Blue ตรงที่ด้านหลังของ Space Black เป็นกระจกเงา พร้อมลวดลายโลโก้ OP ที่ด้านหลังที่จะสะท้อนให้เห็นเมื่อกระทบกับแสง ดูแปลกตาและสวยงามมาก นอกจากดีไซน์แล้วจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ความบางเพียง 7.6 มม.เท่านั้น ถือว่าบางมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
จอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ AMOLED ที่แสดงสีสันได้ 16.7 ล้านสี มีความละเอียดอยู่ที่ระดับ FHD+ หรือ 1080 x 2400 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 90 Hz กระจกที่ใช้เป็น Gorilla Glass 5 ที่ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน ที่ส่วนล่างของหน้าจอยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกฝังไว้ สามารถสแกนปลดล็อคได้จากบนหน้าจอทันที
ด้านหลังสี Space Black ที่มาพร้อมโลโก้ OP เป็นลวดลายแบบ Monogram ที่จะเผยให้เห็นเมื่อสะท้อนกับแสง กรอบเลนส์รับภาพ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
ที่ด้านข้างซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มเปิดปิดเครื่องที่มีสีเขียวเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของทาง OPPO
ส่วนที่ด้านบนมีเพียงช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และที่ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ซิม ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, พอร์ต USB-C ชาร์จแบตเตอรี่ และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
สรุปสเป็ค OPPO Reno4 Pro 5G
- ขนาด 159.6 x 72.5 x 7.6 มม. นัำหนัก 172 กรัม
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- แสดงผลสีได้สูงสุด 16.7 ล้านสี รีเฟรชเรท 90 Hz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G Octa-core
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 620
- หน่วยความจำ RAM 12 GB, ROM 256 GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 ตัว
- เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็เซอร์ Sony IMX586 f/1.7
- เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา f/2.2
- เลนส์ Tele ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 4000 mAh ชาร์จเร็วด้วย SuperVOOC 2.0 กำลังไฟ 65 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- เชื่อมต่อ Bluetooth, WiFi 2.4+5 GHz
- มีให้เลือก 2 สี Galactic Blue, Space Black
- ราคาเปิดตัว 24,990 บาท
OPPO Find X2 Pro 5G
ขั้นสุดของสมาร์ทโฟน 5G จาก ออปโป้ ถือเป็นเรือธงล่าสุดของปีนี้ และเราก็ได้รุ่น Vegan Leather ที่มีฝาหลังเป็นหนังดูเรียบหรูมาก ผิวสัมผัสของหนังก็ให้ความรู้สึกนุ่ม จับแล้วสบายมือ อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องรอยขีดข่วนเมื่อวางบนพื้นโต๊ะ แต่ในกล่องก็ยังคงแถมเคสใสแบบซิลิโคนมาให้ใช้งานด้วย จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง แสดงผลได้ถึง 1 พันล้านสี อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz หน่วยประมวลผลสุดแรง Snapdragon 865+ หน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 512 GB และแน่นอนว่ารองรับเครือข่าย 5G แบบ Dual-mode และชาร์จเร็วสุด 65 วัตต์
จอแสดงผลด้านหน้าเป็นแบบขอบโค้งทั้ง 2 ด้าน จอภาพแบบ OLED ขนาดใหญ่ ความละเอียด QHD+ แสดงผลได้ 1.07 พันล้านสี ความละเอียด QHD+ (1440 x 3168 พิกเซล) อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz และอัตรา Touch Sampling rate 240 Hz กระจกหน้าจอใช้วัสดุ Corning Gorilla Glass 6 ที่ทนแรงกระแทก และรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิม มีกล้องหน้าอยู่ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังอยู่บนหน้าจอส่วนล่าง
ด้านหลังใช้วัสดุแบบหนังไมโครไฟเบอร์ หรือ Vegan Leather สีเขียวอ่อน มีเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลทั้งหมด 3 เลนส์ เพิ่มความหรูหราด้วยแถบป้าย OPPO โลหะเงางามติดอยู่ที่ด้านหลัง พื้นผัวหนังให้ความรู้สึกที่ดีมาก สัมผัสนุ่มสบายมืออย่างที่วัสดุแบบอื่นๆ ให้ไม่ได้
ด้านข้างซ้ายมีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านข้างขวาก็มีเพียงปุ่มเปิดปิดเครื่องเท่านั้น
ที่ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และมีขีดสีดำ 2 สีคือเสาอากาศรับสัญญาณต่างๆ ส่วนที่ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟน, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
สรุปสเป็ค OPPO Find X2 Pro 5G
- ขนาด 165.2 x 74.4 x 9.5 มม. นัำหนัก 200 กรัม
- หน้าจอ OLED QHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3168 พิกเซล, HDR10+
- แสดงผลสีได้สูงสุด 1.07 พันล้านสี รีเฟรชเรท 120 Hz, Touch Sampling Rate 240 Hz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865+ Octa-core
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 650
- หน่วยความจำ RAM 12 GB, ROM 512 GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 ตัว
- เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็เซอร์ Sony IMX689 f/1.7
- เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา f/2.2
- เลนส์ Periscope Telephoto Hybrid Zoom 10X ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 4260 mAh ชาร์จเร็วด้วย SuperVOOC 2.0 กำลังไฟ 65 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- เชื่อมต่อ Bluetooth, WiFi 2.4+5 GHz
- มีให้เลือก 3 สี Black (Ceramic), Orange (Vegan Leather), Green (Vegan Leather)
- ราคาเปิดตัว 40,990 บาท