รีวิว Huawei MatePad 11 แท็บเล็ตสุดพรีเมี่ยมในราคาไม่ถึงสองหมื่นบาท กับหน้าจอขนาดใหญ่ หน่วยประมวลผลแรง แบตเตอรี่ความจุมหาศาล มาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ครบครัน ทั้ง Huawei Smart Magnetic Keyboard และ Huawei M-Pencil Gen2 สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน มาดูกันว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้มีดีอย่างไร
แกะกล่อง รีวิว HUAWEI MATEPAD 11
แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกล่องสีขาวสะอาดตา มีขนาดค่อนข้างใหญ่ตามขนาดของหน้าจอ 10.95 นิ้ว เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- แท็บเล็ต Huawei MatePad 11 สี Matte Grey
- อแดปเตอร์ Huawei SuperCharge 22.5 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- อแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เป็นช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มม.
- เข็มจิ้มถาดใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD
- คู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 22.5 วัตต์ สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C ภายในกล่องยังมีสาย หรืออแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟังที่ใช้แจ็คมาตรฐาน 3.5 มม. เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่ในกล่องไม่ได้แถมชุดหูฟังมาให้ เชื่อว่าผู้ใช้งานน่าจะมีชุดหูฟังเอาประจำตัวเอาไว้ฟังเพลงอยู่แล้ว หรืออาจจะหาซื้อหูฟังแบบบลูทูธก็น่าจะสะดวกกว่า ซึ่งในปัจจุบันก็มีราคาไม่แพงแล้ว
มาดูกันที่ตัวแท็บเล็ตกันบ้าง MatePad 11 รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขนาดใหญ่ 10.95 นิ้ว หรือประมาณ 11 นิ้วตามชื่อรุ่น เป็นหน้าจอแบบแบบ IPS ความละเอียด 2K (2650 x 1600 พิกเซล) แสดงผล 120 Hz สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน หน้าจอยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-pencil ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่จะต้องซื้อเพิ่ม ซึ่งตัวปากกาสามารถนำมาวาดเขียน หรือนำมาจดบันทึกได้สะดวกกว่าเดิม นอกจากนี้หากวางเครื่องในแนวนอนก็จะเห็นกล้องดิจิตอลสำหรับ Video call หรือเซลฟี่อยู่ตรงกลางเหนือหน้าจอแสดงผล
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นสี Matte Grey หรือสีเทาเข้ม พื้นผิวเป็นแบบผิวด้าน มีโลโก้ Huawei โดดเด่นอยู่ตรงกลาง ด้านล่างยังมีโลโก้ Sound by harman kardon ระบบเสียงที่ปรับจูนโดยแบรนด์ระดับโลก ส่วนเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลของรุ่นนี้มี 1 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในกรอบที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อวางเครื่องในแนวนอน ด้านข้างซ้ายมีปุ่มเปิดปิดเครื่องแถบสีแดง พร้อมลำโพงฝั่งซ้ายที่มีมาให้ 2 ตัว เช่นเดียวกับด้านข้างขวา รวมเป็นทั้งหมด 4 ตัว ที่ด้านข้างขวายังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างเช่นตัวแปลงแจ็คหูฟังจขนาด 3.5 มม. ที่มีมาให้ในกล่อง หรือจะใช้ต่อ USB OTG ใช้ก็อปปี้ข้อมูลลงหน่วยความจำภายนอกก็ได้เช่นกัน
ที่ด้านบนนอกจากจะเป็นที่วาง M Pencil เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแม่เหล็กแล้ว ยังมีรูเล็กๆ 3 รูเป็นไมโครโฟนรับเสียง พร้อมทั้งช่วยช่วยตัดเสียงรบกวนได้อีกด้วย ส่วนด้านล่างมีช่องใส่ถาดการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ตัวถาดจะมีเพียงช่องเดียว ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะใช้งานผ่าน WiFi เท่านั้น
อุปกรณ์เสริมที่มีมาให้
Huawei Smart Magnetic Keyboard
อุปกรณ์เสริมที่ทำหน้าที่ปกป้องตัวเครื่องไม่ให้เป็นรอย พร้อมทั้งทำให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานที่สามารถพิมพ์งานได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์ เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ แต่สำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยจะมีตัวอักษรภาษาไทยสกรีนมาให้ทุกปุ่ม วัสดุด้านนอกทำจากหนังเทียม ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกถือกระชับ ดูพรีเมี่ยม ไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ
สำหรับการใช้งานก็เพียงแค่นำ Huawei MatePad 11 มาวางทาบกับฝาพับก็จะมีแม่เหล็กดูดติดกับเคสให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นระบบจะทำการเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติ ใช้งานได้ทันที สามารถปรับวางหน้าจอเอียงได้ 2 ระดับที่ 55 และ 65 องศา จะทำงาน หรือดูหนังก็ทำได้สะดวก เมื่อใช้งานเสร็จก็พับเก็บได้ทันที แต่น่าเสียดายที่ไม่มีช่องใส่ M Pencil มาให้ จะต้องยึดติดกับแม่เหล็กด้านข้างตัวเครื่อง หากถือไปถือมาอาจจะร่วงหล่นหายได้
Huawei M-Pencil Gen 2
ปากกา หรือดินสอของรุ่นนี้ทาง Huawei เรียกว่า M Pencil โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 ที่พัฒนาให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลกว่าเดิม ตัวปากกามีแบตเตอรี่ในตัว ที่ด้านนอกมีร่องสำหรับวางทาบที่ขอบด้านข้างของแท็บเล็ต มีระบบแม่เหล็กดูดให้ยึดติดกัน พร้อมทั้งมีระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย หัวปากกามีสำรองมาให้อีก 2 หัวในกล่อง มีให้เลือก 2 แบบคือแบบสีทึบ และหัวปากกาแบบใส เลือกเปลี่ยนได้ตามใจขอบ จากการทดสอบเขียนด้วยหัวปากกาทั้งสองแบบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
ก่อนหน้านี้ Huawei MatePad ได้ใช้พื้นฐานเป็นระบบปฏิบัติการ Android แต่สำหรับรุ่นนี้ทาง Huawei ได้นำระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มาใช้เป็นเวอร์ชั่น 2.0 ซึ่งการใช้งานก็ไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องปรับตัวเรียนรู้การใช้งานใหม่ทั้งหมด แอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก Huawei AppGallery ซึ่งในปัจจุบันก็มีแอพฯ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย หรือจะเป็นแอพฯ การเงิน การธนาคารก็มาครบถ้วน อย่างเช่นแอพฯ เป๋าตังค์, K Plus, Bualuang mBanking, SCB Easy, TrueMoney Wallet
ส่วนแอพฯ อื่นๆ หากไม่มีใน AppGallery ระบบ Petal Search ก็จะไปค้นหาแอพฯ จากแหล่งอื่นๆ มาให้เราเลือกดาวน์โหด ช่วยอำนวยความสะดวกไม่ต้องไปหาเอง แต่หากไม่มั่นใจก็สามารถใช้งานผ่านเบราเซอร์ได้ อย่างเช่น Google Search, YouTube, Facebook ฯลฯ ส่วนแอพฯ แผนที่ก็มี Petal Maps มาให้ ก็สามารถใช้นำทางได้ดีพอสมควร
จอแสดงผลถนอมสายตา ความละเอียด 2.5K รองรับ Multitasking
จอแสดงผลของรุ่นนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่เต็มตาแล้ว ยังแสดงสีสันได้สวยงามด้วยขอบเขตของสี DCI-P3 ความละเอียดระดับ 2.5K ดูสมจริงมาก มีโหมดถนอมสายตาอย่าง eBook mode ปรับเป็นสีขาวดำ และปรับหน้าจอเป็นโทนสีเหลือง ทำให้ดูเหมือนหน้ากระดาษจริงๆ สามารถอ่านข้อความต่างๆ ได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ทำให้เมื่อยล้าสายตา นอกจากนี้ยังมีโหมด Eye comfort ที่จะช่วยปรับลดแสงสีฟ้าลง แต่ยังคงเห็นสีสันของภาพอยู่ ในโหมดนี้สามารถตั้งเวลาทำงานได้ เหมาะกับการใช้งานตอนกลางคืน หรือก่อนนอน และยังได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ในเรื่องการถนอมสายตาอีกด้วย
สำหรับการจดบันทึกก็มี M-Pencil ที่สามารถขีดเขียนบนหน้าจอ รองรับแรงกดถึง 4,096 ระดับ ความหน่วงต่ำเพียง 2 ms จึงไม่เกิดการดีเลย์ในการแสดงผลเมื่อขีดเขียนลงบนหน้าจอ มีระบบตรวจจับปากกาเมื่ออยู่ใกล้หน้าจอ จึงสามารถวางมือบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องกังวลว่ามือจะแตะหน้าจอสั่งงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะจดบันทึก หรือสเก็ตซ์ภาพ ระบายสีก็ทำได้เสมือนจริง
และด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง จึงสามารถเปิดได้หลายแอพฯ พร้อมกันสูงสุดถึง 4 แอพฯ ไม่ว่าจะดูคลิปวิดีโอ พิมพ์แชท เช็คอีเมล จดโน้ตไปด้วย ก็สามารถทำได้อย่างสะดวก และง่ายดาย ไม่ต้องกดสลับแอพฯ ไปมาให้เสียเวลา หรือจะเปิดแอพฯ ขึ้นมาเป็นป๊อปอัพ สามารถลากปรับเปลี่ยนตำแหน่งบนหน้าจอได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop ที่ช่วยผสานการทำงานระหว่าง Notebook และแท็บเล็ตด้วยการขยายหน้าจอแท็บเล็ตไปยัง Notebook หรือแสดงผลแบบเดียวกับหน้าจอ Notebook ได้ด้วย Mirror Mode ได้อีกด้วย
หน่วยประมวลผล Snapdragon 865 เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย WiFi 6
โดยปกติแล้ว Smart device จาก Huawei มักจะใช้ชิพประมวลผลจาก Huawei เอง แต่สำหรับรุ่นนี้น่าจะถูกใจสาวก Qualcomm เพราะทาง Huawei ได้หยิบเอาชิพ Snapdragon 865 มาใช้กับรุ่นนี้ ส่งผลให้การประมวลผลทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่มีหน่วง ทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม โดยชิพรุ่นนี้เป็นแบบ Octa-core ความเร็ว 2.8 GHz, ชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 650 หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB, ROM 128 GB สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 1 TB ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ถึงแม้ว่าจะใส่ซิมการ์ดไม่ได้ แต่ก็มี WiFi 6 ที่รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้
จากการทดสอบประสิทธิภาพความเร็วของหน่วยประมวลผลด้วยแอพฯ Antutu Benchmark 3D สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 545,266 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็ทำคะแนน Single-core ได้ 916 คะแนน ส่วน Multi-core ทำคะแนนได้ 3322 คะแนน ถือว่าทำคะแนนได้น่าประทับใจ
ถ่ายภาพคมชัดด้วยกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ในด้านการถ่ายภาพ กล้องหลังของรุ่นนี้ก็มีมาให้ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/f1.8 เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพเพื่อนำไปใช้งาน มีโหมดต่างๆ ให้เลือกถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Beauty, Panorama, Time-lapse หรือ Document สำหรับการถ่ายเอกสารเก็บไว้ ซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า ส่วนการถ่ายวิดีโอก็สามารถเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็มีโหมด Beauty ให้ถ่ายภาพด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังนำไปใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ หรือประชุมออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ SuperCharge 22.5 วัตต์
แบตเตอรี่ของ Huawei MatePad 11 รุ่นนี้มีความจุใหญ่ถึง 7,250 mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน มีระบบ SuperCharge ด้วยกำลังไฟ 22.5 วัตต์ โดยจากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 5% ไปจนเต็ม 100% ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหน แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และระบบชาร์จเร็วก็เอาอยู่ นอกจากนี้ยังมีระบบ Smart Charge ที่จะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานจากชีวิตประจำวัน โดยจะชาร์จถึง 80% และเมื่อใกล้ถึงเวลาใช้งานตามปกติก็จะชาร์จให้เต็มถึง 100% เพื่อถนอมสุขภาพของแบตเตอรี่
บทสรุป รีวิว HUAWEI MATEPAD 11 จากความเห็นของ WHAT PHONE
Huawei MatePad 11 ถือเป็นแท็บเล็ตที่ค่อนข้างครบครัน ทั้งการใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ อุปกรณ์เสริมที่ตอบรับการทำงานนอกสถานที่ด้วย M-Pencil และ Smart Magnetic Keyboard ในราคาที่ไม่ถึงสองหมื่นบาทก็ได้อุปกรณ์ตอบโจทย์การทำงาน และความบันเทิง ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ด้วยลำโพง 4 ทิศทาง พร้อมระบบเสียง harman kardon หรือจะใช้ในการประชุมก็มีไมโครโฟนถึง 4 ตัวในการตัดเสียงรบกวน ทำให้เสียงคมชัด ปราศจากเสียงรบกวนรอบข้าง หน่วยประมวลผลที่ค่อนข้างแรง และเร็ว ตอบโจทย์การเล่นเกมอีกด้วย ส่วนใครที่กังวลว่าไม่มีบริการของ Google แต่ก็ยังพอใช้ Petal Search ในการหาแอพพลิเคชั่น หรือเลี่ยงไปใช้งานผ่านเบราเซอร์ก็ยังพอใช้งานได้เช่นกัน ซึ่งทาง Huawei ก็ทำระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และ AppGallery ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ หากมองหาแท็บเล็ตสำหรับทำงานดีๆ สักเครื่อง Huawei MatePad 11 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ครบเครื่อง น่าสนใจมากๆ ในเวลานี้
สรุปสเป็ค HUAWEI MATEPAD 11
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi 6, 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2 x 2 MIMO, 2.4 GHz และ 5 GHz
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล แสดงผล 120 Hz
- รองรับ M-pencil Gen 2
- กล้องหน้า 8 MP f/2.0 Selfie Camera
- กล้องหลัง 13 MP f/1.8
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K, 30 fps
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon Octa-core 2.8 GHz, GPU Adreno 650
- หน่วยความจำ 6 GB RAM + 128 GB ROM
- รองรับ microCard สูงสุด 1 TB
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
- ไมโครโฟน 4 ตัว และลำโพง 4 ตัวรอบเครื่อง
- แบตเตอรี่ 7250 mAh รองรับ SuperCharge 22.5 วัตต์
- สี Matte Grey
- ราคา 19,990 บาท
