เปิดตัวแล้วกับซีรี่ย์ใหม่อย่าง Vivo S1 รุ่นแรก พร้อมกับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ล่าสุด ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งตอนนี้ทีมงาน What Phone ก็ได้เครื่องมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาชมกันว่า รีวิว Vivo S1 จะเจ๋งแค่ไหน
แกะกล่องลองเล่น รีวิว Vivo S1
วีโว่ เอส วัน สมาร์ทโฟนซีรี่ย์ใหม่ล่าสุดจากทาง Vivo เปิดตัวในไทยไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยเปิดตัวพร้อมกับพรีเซนเตอร์คนใหม่ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” นักแสดงสาวสวยมากความสามารถที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย บุคลิคเหมาะกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างแท้จริง สำหรับเครื่องที่เราได้มาทดสอบนั้นเป็นสี Diamond Black ด้านหลังมีลวดลายสะท้อนแสงได้สวยงามมาก มาแกะกล่องลองดูกันครับว่ามีอะไรมาให้บ้าง
- ตัวเครื่อง Vivo S1 พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาจากโรงงาน
- เคสปกป้องตัวเครื่องแบบ TPU ใส ยืดหยุ่นได้
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ พร้อมระบบชาร์จเร็วอย่าง Dual-Enging Fast Charging
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ Micro USB
- ชุดหูฟังสมอลล์ทอล์ค
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
สี Diamond Black ดีไซน์สวยงามสะดุดตา ลึกลับ น่าค้นหา
จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่ทาง Vivo เรียกว่า Halo FullView Display ความละเอียด FullHD+ (1080 x 2340 พิกเซล) ที่แสดงผลได้เต็มขอบ มีขนาด 6.38 นิ้ว สัดส่วนการแสดงผลอยู่ที่ 19.5:9 คิดเป็นสัดส่วนการแสดงผลที่ 89.98% แต่ก็ยังมีกล้องหน้าเป็น Nortch อยู่ที่ส่วนบนของจอแสดงผล ซึ่งส่วนนี้ยังซ่อนลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ อย่างแนบเนียน นอกจากนี้จอแสดงยังมีฟิล์มกันรอยติดมากจากโรงงานมาให้เลย เรียกได้ว่าแกะกล่องออกมา ใส่ซิมใส่เคสก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปหาร้านติดฟิล์มกันรอยให้เสียเงินเสียเวลา
ความสวยงามของรุ่นนี้อยู่ที่ด้านหลัง เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Diamond Black สวยงามมาก ลวดลายดูมีมิติ แปลกตา และน่าค้นหา และยิ่งสะท้อนกับแสงแล้วก็จะยิ่งดูมีเสน่ห์ และน่าค้นหายิ่งขึ้นไปอีก
จุดเปลี่ยนของซีรี่ย์นี้ยังอยู่ที่การจัดวางโลโก้ Vivo ที่เมื่อก่อนจะวางในแนวตั้ง แต่ในรุ่นนี้เป็นแนวนอน ซึ่งเป็นแนวเดียวกันกับการวางกล้องที่มาเป็นแถบวงรี 3 เลนส์ AI Triple Camera ซึ่งเป็นกรอบสีทองตัดกับสีดำดูโดดเด่นสวยงามมาก
ด้านข้างซ้ายมีปุ่ม Smart Bottom สามารถใช้งานเป็นปุ่มลัดเข้าสู่การใช้งานต่างๆ ตามที่ตั้งค่าเอาไว้ อย่างเช่น Jovi Smart ใกล้ๆ กันเป็นช่องถาดใส่ซิมการ์ดและการ์ด microSD ซึ่งสามารถใส่ได้พร้อมกันทั้งหมด ไม่ต้องถอดสลับ SIM2 เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ที่ด้านล่างมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ และช่องลำโพง ให้เสียงที่ค่อนข้างดังเลยทีเดียว
และยังมีอีกสีเป็นสี Skyline blue ตัวเครื่องไล่เฉดสีม่วง ฟ้า ขาว ดูสวยงามเหมาะกับคุณผู้หญิงอย่างมาก และเหมาะกับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ด้วย
เซลฟี่สวยด้วยกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง AI TRIPLE CAMERA
ด้วย AI Tripple Camera ที่ทำให้การถ่ายภาพฉลาดขึ้นจากการเรียนรู้รูปภาพต่างๆ บนฐานข้อมูลขนาดใหญ่ จึงทำให้ถ่ายภาพได้สวยขึ้น ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX499, เลนส์ AI Super Wide Angle 120 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล
ในโหมด AI Beauty ที่เหมาะกับสาวๆ โดยเฉพาะ เพราะสามารถปรับทุกส่วนใบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการปรับริ้วรอยบนใบหน้า, สีผิว, ความขาวของสีผิว, ปรับหน้ารูป V Shape, ปรับคาง, ปรับตาโต, ปรับความห่างของตา, ปรับหน้าผาก, ปรับจมูก, ปรับปีกจมูก, ปรับรูปปาก เยอะมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีโหมดการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับค่า F หรือค่ารูรับแสงได้กว้างถึง F/0.95 ซึ่งจะยิ่งทำให้พื้นหลังละลายมากยิ่งขึ้น สำหรับการถ่ายภาพในโหมดนี้สามารถนำภาพที่ถ่ายแล้วมาปรับความเบลอของพื้นหลังจนกว่าจะพอใจ และยังเลือกจุดโฟกัสความคมชัดได้อีกด้วย
เลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้มุมกว้างถึง 120 องศา เก็บภาพได้หมดโดยไม่ต้องถอยหลังไปไกลๆ เหมาะกับการถ่ายภาพในที่แคบ การถ่ายภาพหมู่ และถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่จะช่วยให้ภาพดูสวยงาม แปลกตากว่ากล้องมือถือทั่วไป
สำหรับกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมาสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ก็สามารถถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังละลายได้ด้วยเลนส์เพียงตัวเดียวด้วยโหมด Portrait Light Effect ที่จะมีเอฟเฟ็คท์แสงในแบบต่างๆ ให้เลือกพร้อมกับปรับฉากหลังให้เบลอได้ด้วยกล้องเพียงตัวเดียว และยังใช้โหมด AI Beauty ที่สามารถปรับทุกส่วนของใบหน้าอย่างที่กล่าวไปแล้วได้หมดเลย
สำหรับการถ่ายภาพในโหมดอื่นๆ ก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบ Pro ที่สามารถเลือกปรับได้ทั้งค่า ISO, ค่ารูรับแสง, White balance และยังมีโหมดถ่ายภาพพาโนรามาให้เลือกอีกด้วย
อีกหนึ่งความสนุกของการถ่ายภาพด้วย Vivo S1 คือโหมดถ่ายภาพ AR Sticker โดยกล้องจะจับใบหน้าของผู้ถ่ายแล้วใส่เอฟเฟ็คท์เป็นหน้ากาก การ์ตูน หูกระต่าง ใส่หมวก ใส่แว่น ฯลฯ ส่วนการถ่ายวิดีโอก็มี Fun Video เป็นการถ่ายคลิปวิดีโอสั้นๆ เพื่อบ่งบอกอารมณ์ และลูกเล่นต่างๆ มีให้เลือกมากถึง 14 แบบเลยทีเดียว เมื่อถ่ายเสร็จแล้วก็สามารถแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ได้เลย ส่วนการถ่ายคลิปวิดีโอปกติก็ทำได้ที่ความละเอียด FullHD 1080p
ชาร์จเร็วด้วย DUAL-ENGINE FAST CHARGING พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
Vivo S1 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,500 mAh ถือว่ามีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง โดยที่แบตยังเหลืออีกใช้งานด้วย นอกจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีระบบชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วที่เรียกว่า Dual-Engine Fast Charging ชาร์จได้รวดเร็ว และปลอดภัย
ปลดล็อคหน้าจอได้สะดวก รวดเร็ว ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
หากจะว่าไปแล้ว Vivo S1 ถือว่าเป็นรุ่นที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่มีราคาถูกที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สามารถใช้งานปลดล็อคหน้าจอ หรือเพื่อใช้งานระบบความปลอดภัยอื่นๆ อย่างเช่นการซื้อแอพฯ เป็นต้น รองรับการจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 นิ้ว และยังเลือก Animation ภาพเคลื่อนไหวเมื่อแตะนิ้วมือได้อีก 7 แบบ ทำให้ดูล้ำสมัยมากขึ้น จากการทดสอบปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือบนหน้าจอทำได้รวดเร็ว น่าประทับใจทีเดียว ปลดล็อคสำเร็จประมาณ 90% นอกจากนี้ยังมีระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าที่สามารถใช้งานควบคู่กันได้อีกด้วย เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
Always on Display เปิดหน้าจอแสดงผลได้ตลอดเวลา
คุณสมบัติเด่นของจอภาพแบบ Super AMOLED อีกอย่างหนึ่งคือสามารถเปิดใช้งานจอแสดงผลได้เฉพาะจุด ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งหากเป็นจอภาพแบบอื่นๆ จะต้องเปิดหน้าจอทั้งหมดเพื่อแสดงผลเพียงจุดเดียว ไม่คุ้มกับแบตเตอรี่ที่เสียไป สำหรับรุ่นนี้ก็มีฟังก์ชั่น Always on Display ที่สามารถเปิดแสดงผลนาฬิกา การแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอได้ตลอดเวลาโดยใช้แบตเตอรี่เพื่อการแสดงผลน้อยมาก ตัวเครื่องมีให้เลือกใช้งานถึง 24 แบบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถดาวน์โหลด หรือใช้ภาพของตัวเองไปแสดงผลได้ คาดว่าน่าจะต้องรออัพเดทอีกครั้ง ส่วนการใช้งานสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้เริ่มแสดงผลตั้งแต่กี่โมง ปิดกี่โมง ซึ่งหากเลือกเปิดเฉพาะกลางวัน และปิดตอนกลางคืนก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปได้อีก
ประสิทธิภาพ และการใช้งาน
ด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 9 ใหม่ล่าสุด และทำงานด้วย Funtouch OS ที่ออกแบบอินเตอร์เฟสมาให้ดูสวยงาม ใช้งานง่าย พร้อมทำงานด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio P65 Octa-core หรือ 8 แกนประมวลผล สถาปัตยกรรม 12 นาโนเมตรที่จะช่วยเรื่องการใช้พลังงาน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมที่มีกราฟฟิคไม่หนักมากนัก มีหน่วยความจำ RAM 6 GB, ROM 128 GB และสามารถเพิ่ม microSD ได้อีกโดยไม่ต้องถอดซิมการ์ดใบที่ 2 ออก เพราะถาดใส่ซิมการ์ดมีมาให้ 3 ช่อง และสามารถใช้งาน 4G LTE ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ดด้วย จึงไม่ต้องถอดสลับไปมาเหมือนรุ่นที่เป็น Hybrid Slot
สำหรับการเล่นเกมก็มีฟีเจอร์ Game Cube และ Game Assistant ที่จะช่วยป้องกันการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนจาก Social network ต่างๆ, การโทรศัพท์ที่จะทำงานเบื้องหลังเกม หรือจะเลือกปฏิเสธทุกสายที่โทรเข้ามาเลยก็ได้เช่นกัน และนอกจากนี้ตัวเครื่องยังดึงทรัพยากรทั้งหมดมาเพื่อประมวลผลเกมโดยเฉพาะ จึงทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ไม่สะดุดทั้งภาพ หมดปัญหาเรื่องการแจ้งเตือนที่จะมาบดบัง และรบกวนสมาธิในการเล่นเกมด้วย
บทสรุป รีวิว VIVO S1 จากความคิดเห็นทีมงาน WHATPHONE.NET
สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือดีไซน์ที่สวยงามตั้งแต่แรกเห็น ทำออกมาได้โดดเด่น และดูแปลกตา ไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าจะใส่เคสใสแล้วก็ยังดูสวยงามเช่นเดิม ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ที่ได้ใจทีมงานไปนั่นก็คือกล้องถ่ายภาพที่น่าจะถูกใจสาวๆ เป็นอย่างมาก ทั้งระบบ AI ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้ดูเนียนใส ไร้ริ้วรอย และยังปรับโครงหน้าต่างๆ ให้ดูกระชับ ไม่ต้องพึ่งแอพฯ แต่งภาพใดๆ ให้เสียเวลา ถ่ายแล้วโพสขึ้น Facebook, Instagram ได้ทันที หรือหากเป็นสายถ่ายภาพแนว Street, Outdoor ก็มีเลนส์ Super Wide-Angle ช่วยเก็บภาพในมุมต่างๆ ได้หมด และยังทำให้ภาพดูแปลกตากว่ากล้องมือถือทั่วไปด้วย ส่วนราคาเปิดตัวก็เพียงแค่ 8,990 บาทและยังได้ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอที่ล้ำกว่าใคร เทคโนโลยีอัดแน่นมาให้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ กันไปเลย