ถึงเวลาที่สมาร์ทโฟน Vivo V Series จะอัพเกรดรุ่นใหม่ โดยการมาของ Vivo V21 5G คราวนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงดีไซน์ด้านนอกมากนัก แต่ภายในได้อัพเกรดใหม่หมดจรด ทั้งสเป็คที่แรงขึ้น รองรับเครือข่าย 5G อัพเกรดกล้องในระดับ Hardware ใหม่หมด มาดูกันว่า รีวิว สมาร์ทโฟน Vivo V21 5G คราวนี้จะน่าใช้งานแค่ไหน มาแกะกล่องดูกันเลย
แกะกล่อง รีวิว Vivo V21 5G
แรกประทับใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เห็นจะเป็นกล่องที่ดีไซน์สวยงาม ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ไหนดีไซน์หน้ากล่องสวยๆ แบบนี้ โดดเด่นด้วยโลโก้ V21 และลวดลายที่มีมิติ สะท้อนแสงสวยงาม ที่ด้านล่างก็ยังมีโลโก้ 5G บ่งบอกความเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับเครือข่าย 5G และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ครบครันดังนี้
- Vivo V21 5G สี Dusk Blue
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- หูฟังสมอลล์ทอล์คขนาด 3.5 มม.
- สายอแดปเตอร์แปลง USB-C เป็นพอร์ต 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
เช่นเคยกับอุปกรณ์ที่มีมาให้ไม่กั๊ก มีของมาพร้อมใช้งานครบครันตั้งแต่แกะกล่อง ทั้งอแดปเตอร์ชาร์จเร็วอย่าง Vivo FlashCharge 33 วัตต์ หูฟังพร้อมอแดปเตอร์แปงเป็นพอร์ต USB-C ฟิล์มกันรอย หูฟัง เคสใส ยังมีมาให้ใช้งานแทบไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติม ได้อุปกรณ์ปกป้องกันรอยได้ทั้งด้านหน้าด้านหลัง
Ultra Slim Design พร้อมสี Dusk Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามพลบค่ำ
ดีไซน์ของ Vivo V21 5G ที่บางเพียง 7.29 มม. บางกว่า Vivo V20 รุ่นก่อนถึง 19 มม. ถือเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางที่สุดของ Vivo มาพร้อมด้วยขนาดที่กะทัดรัด เบาเพียง 176 กรัม พกพาสะดวก ถือใช้งานถนัด ไม่หนักมือ กระจกหน้าจอดีไซน์โค้ง 2.5D รับกับอุ้งมือ ทำให้ถือใช้งานได้ถนัด ไม่รู้สึกบาดมือ ตัวเครื่องสี Dusk Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามพลบค่ำ ให้สีสันที่แตกต่างกันออกไปเมื่อกระทบกับแสงในมุมต่างๆ เผยให้เห็นทั้งสีน้ำเงินเข้ม และสีน้ำเงินอ่อนในคราวเดียวกัน ดูสวยงาม แปลกตา น่าค้นหา ที่ด้านหลังยังดีไซน์ด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass หรือพื้นผิวแบบด้าน ให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน ทนต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งยังช่วยลดรอยนิ้วมือ ไม่ต้องเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสี Sunset Dazzle และสี Arctic White มาให้เลือกอีกด้วย
จอแสดงผลที่ให้สีสันสวยงาม มองเห็นได้ชัดเจนแม้กลางแจ้งของจอภาพแบบ AMOLED มีขนาด 6.44 นิ้ว มีความละเอียดสูงในระดับ FHD+ หรือที่ความละเอียด 1080 x 2404 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR 10+ แสดงผลที่อัตรา Refresh rate 90 Hz เหนือจอภาพจะมีเลนส์รับภาพกล้องหน้าความละเเอียด 44 ล้านพิกเซล และที่ด้านล่างของหน้าจอมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ใต้หน้าจอ ช่วยให้สแกนนิ้วมือได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ส่วนบนของหน้าจอยังมีไฟ LED 2 ดวง ซึ่งเป็นไฟ Spotlight Selfie สำหรับถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอเซลฟี่ตอนกลางคืน
ด้านหลังของตัวเครื่องสี Dusk Blue พร้อมพื้นผิวแบบด้าน โดยที่บริเวณกรอบของเลนส์กล้องดีไซน์แบบ Dual Tone Step เป็น 2 ชั้น ส่วนสีเงินไฟแฟลชแบบ LED และสีดำเป็นชั้นของเลนส์รับภาพ 3 เลนส์ ส่วนกรอบเลนส์นี้จะนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย แต่ก็สามารถปกป้องได้ด้วยเคสใสที่มีมาให้ในกล่อง ทำให้เราวางบนพื้นโต๊ะได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวเป็นรอย
ขอบด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องดีไซน์โล่งๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ซึ่งเราจะเป็นเป็นเพียงรูเล็กๆ ส่วนที่ด้านล่างจะเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งเป็นแบบประกบด้านบนด้านล่าง โดยส่วนของด้านล่าง หรือ SIM2 ต้องเลือกว่าจะใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD หรือ SIM2 ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา (ต้องระวังไม่ใช้เข็มจิ้มซิมที่ช่องนี้), ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์โฟน
ที่สุดของการเซลฟี่ด้วยไฟ Dual Selfie Spotlight พร้อมระบบกันสั่น OIS บนกล้องหน้ารุ่นแรกของโลก
สานต่อด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงจากรุ่นพี่ Vivo V20 แต่มาคราวนี้ Vivo V21 5G อัพเกรดระบบกันสั่นในระดับ Hardware ช่วยให้การถ่ายภาพ หรือวิดีโอได้ภาพที่นิ่ง และลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ผสานการทำงานด้วยระบบ AI อัจฉริยะ และยังมาพร้อมกับระบบโฟกัสดวงตา หรือระบบ Eye Autofocus ซึ่งเป็นการโฟกัสที่จะช่วยให้ใบหน้าคมชัดตามไปด้วย โดยสเป็คกล้องหน้าของรุ่นนี้ยังคงความละเอียดไว้ที่ 44 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างถึง f/2.0 อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี ISOCELL Plus 2G ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงให้ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ด้วยกล้องหน้า ซึ่งเป็นโหมดที่น่าจะถูกใจสายเซลฟี่ มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกหลักๆ 3 โหมด
- โหมดสไตล์ เป็นเหมือนฟิลเตอร์ปรับโทนสีในแบบต่างๆ มีให้เลือกถึง 9 แบบ
- โหมดความงาม ในโหมดนี้จะมีให้เลือกย่อยอีก 3 โหมด คือ
- ใบหน้าสวย เลือกปรับความเนียนของใบหน้า, ปรับโทนสีผิว, ปรับความเรียวของใบหน้า หรือเลือกปรับส่วนต่างๆ ของใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก แก้ม หน้าผาก ฯลฯ
- แต่งหน้า โดยไม่ว่าจะตื่นนอน หน้าสด ยังไม่ได้เมคอัพก็สวยได้โดยไม่ต้องแต่งหน้า โหมดนี้ระบบ AI สามารถแยกใบหน้าชาย หญิงได้ เพราะฉะนั้นระบบ AI จะแต่งหน้าให้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
- ท่าทาง เหมาะกับคนที่คิดท่าทางการโพสท่าไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะโพสยังไงให้ออกมาดูดีก็สามารถใช้โหมดนี้เป็นตัวแนะนำการถ่ายภาพได้ มีให้เลือกทั้งถ่ายเดี่ยว หรือถ่ายแบบกลุ่ม
- โหมดโบเก้ เป็นการถ่ายภาพให้ภาพบุคคลชัด โดยทำให้ฉากหลังละลาย ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นขึ้น สามารถเลือกได้ว่าจะให้ฉากหลังเบลอ หรือชัดได้โดยการปรับ f1.0 ไปจนถึง f16
จุดเด่นของรุ่นนี้ยังมาพร้อมไฟ Dual Selfie Spotlight ซึ่งเป็นไฟแบบ LED มาให้ 2 ดวง ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนมั่นใจมากยิ่งขึ้น หมดกังวลเรื่องใบหน้ามืดหมองไม่สว่าง
นอกจากนี้ยังมีคงสามารถใช้ Selfie Softlight band ซึ่งจะใช้หน้าจอเปล่งแสงสีขาวนวล ช่วยให้ใบหน้าสว่าง ขาวนวลเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
สำหรับการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงถึงระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS บนกล้องหน้ารุ่นแรกของโลก เหมาะกับสาย VLOG ที่ต้องการความคมชัดในการถ่ายทำ และยังมีโหมด Steadiface ที่จะช่วยลดการสั่นไหวของภาพขณะถ่ายวิดีโอ โดยกล้องจะทำการโฟกัสที่ใบหน้าไม่ให้สั่นไหวจนเกินไป แต่โหมดนี้จะรองรับการถ่ายที่ความละเอียด Full HD 1080p เท่านั้น
ตัวอย่างคลิปวิดีโอทดสอบการถ่าย Video Selfie ด้วยกล้องหน้าระบบกันสั่น OIS
Vivo V21 5G ยังมีโหมด Dual View ที่จะใช้กล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน โดยซ้อนภาพกันไว้ในหน้าจอเดียว สะดวกในการถ่ายทำโดยไม่ต้องสลับกล้องหน้ากล้องหลังไปมา ช่วยให้เห็นสินค้า หรือภาพบรรยากาศไปพร้อมๆ กับ Reaction ของคนรีวิวด้วย
ตัวอย่างคลิปวิดีโอทดสอบการถ่ายวิดีโอแบบ Dual View
ถ่ายภาพคมชัดแม้ยามค่ำคืนด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ 64 ล้านพิกเซล
ในส่วนของกล้องหลังก็มีมาให้ 3 เลนส์ โดยกล้องเลนส์หลักมีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ เก็บภาพได้สว่างด้วยรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.79 จะถ่ายภาพในตอนกลางวัน หรือตอนกลางคืนก็สว่างสดใส เลนส์ที่ 2 เป็นเลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา และเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้ใกล้สุดถึง 4 ซม. เรียกได้ว่ากล้องหลังมีเลนส์มาให้ถ่ายภาพได้ครบทุกระยะเลยทีเดียว
ในการถ่ายภาพตอนกลางคืน Vivo V21 5G ก็มีลูกเล่นมาให้เลือกหลากหลาย โดยการถ่ายภาพกลางคืนแบบปกติก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดแล้วถือกล้องค้างไว้สักพักเพื่อให้กล้องเก็บแสงให้ได้มากที่สุด ภาพก็จะออกมาสว่าง คมชัดเหมือนกับการใช้ขาตั้งกล้อง หรือหากต้องการภาพตอนกลางคืนที่ดูแตกต่างออกไปก็สามารถเลือกปรับสไตล์ หรือฟิลเตอร์ของสีได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Black & Gold, Blue Ice, Green orange และ Cyberpunk ภาพที่ออกมาก็จะดูแปลกตา ไม่เหมือนใคร
ในการถ่ายภาพคน หรือถ่าย Portrait นอกจากจะปรับความเบลอของฉากหลังในโหมดโบเก้เพื่อให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นแล้ว ในตอนกลางคืนยังเลือกปรับเปลี่ยนไฟที่ฉากหลังให้เบลอเป็นรูปวงกลม รูปดาว รูปสามเหลี่ยม หรือรูปหัวใจก็ได้เช่นกัน และนอกจากนี้ยังสามารถปรับรูปแบบใบหน้าดูเล็ก ปรับตาโต ปรับจมูก ปรับรูปแบบของริมฝีปาก และปรับคางได้เหมือนเดิม
สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีทั้ง Panorama, Live Photo, Slow-mo, Time-lapse, AR Sticker นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Portrait Framing ที่จะช่วยจัดองค์ประกอบการถ่ายภาพบุคคลโดยระบบจะแนะนำให้ขยับกล้องไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ได้องค์ประกอบที่ดีที่สุด จากนั้นกล้องจะถ่ายภาพโดยอัตโนมัติทันที สุดท้ายกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Double Exposer ที่เป็นการซ้อนภาพธรรมชาติที่มีมาให้ 3 แบบ เพิ่มความอาร์ทให้กับภาพถ่ายให้ดูแปลกตาขึ้นไปอีก
ตัวอย่างภาพถ่าย
รองรับเครือข่าย 5G พร้อมชิพเซ็ตใหม่ DIMENSITY 800U
หัวใจของสมาร์ทโฟน Vivo V21 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง MediaTek Dimensity 800U สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการทำงานประมวลผลความเร็วสูง และการประหยัดพลังงาน มี 8 แกนประมวลผล ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 2.4 GHz มีประสิทธิภาพแรงตอบโจทย์การใช้งานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ดูคลิปวิดีโอ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมก็ปรับความละเอียดได้สูง และยังรองรับเครือข่าย 5G ด้วยเทคโนโลยี SA และ NSA แบบ Dual Mode รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิมการ์ด ไม่ต้องสลับซิมการ์ดไปมาให้วุ่นวาย ใช้งานได้ทุกเครือข่ายในไทย
ประสิทธิภาพของการใช้งาน 5G ของรุ่นนี้นอกจากจะช่วยดาวน์โหลดแอพฯ หรือไฟล์ข้อมูลต่างๆ ได้เร็วกว่าเครือข่าย 4G แล้ว ยังมีความหน่วงต่ำ ทำให้การใช้งานรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ต้องอาศัยความเร็วในการรับส่งข้อมูล ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้เปรียบคู่ต่อสู้มากขึ้น เพียงแค่เสี้ยววินาทีก็มีโอกาสชนะมากยิ่งขึ้นด้วย
หน่วยความจำของรุ่นนี้มีมาให้เลือก 2 รุ่นคือ 128 GB และรุ่น 256 GB พร้อมด้วยเทคโนโลยี UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการเขียนเพิ่มขึ้น 110% และความเร็วในการอ่านข้อมูลเพิ่มขึ้น 95% แต่ทั้งสองรุ่นมีหน่วยความจำ RAM มาให้ขนาด 8 GB ที่พิเศษไปกว่านั้นคือสามารถดึงหน่วยความจำมาเพิ่มได้อีก 3 GB เป็น 11 GB ด้วยเทคโนโลยี Extended RAM โดยนำเอาหน่วยความจำ ROM เข้ามาเพิ่มอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานหลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน หมดปัญหาเรื่องหน่วยความจำไม่พอ ซึ่งจะทำให้เครื่องหน่วง และช้าลงกว่าเดิม ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ชาญฉลาด ซึ่งมีเฉพาะในสมาร์ทโฟน Vivo เท่านั้น
ชิพประมวลผลภาพ 3D ของรุ่นนี้ก็เลือกใช้ Mali-G57 ที่มีความแรงในการประมวลผลภาพได้เป็นอย่างดี รองรับการเล่น 3D หนักๆ เกมอย่าง PUBG Mobile ได้อย่างลื่นไหล สามารถปรับภาพไปที่ความละเอียดสูงได้โดยที่ไม่ทำให้ภาพกระตุก หรือจะเป็นเกม Call of Duty Mobile ก็ยังสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลเช่นกัน ดังนั้นเกมอื่นๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา
ตัวช่วยในการเล่นเกมของ Vivo V21 ก็มีโหมด Ultra Game Mode ที่จะช่วยจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หน่วยความจำ RAM, จัดลำดับความสำคัญของ CPU ให้ประมวลผลเกมเป็นอันดับแรก และช่วยปิดการแจ้งเตือนต่างๆ โดยเฉพาะใน Esports Mode ที่จะปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงสายโทรเข้าต่างๆ ไม่ให้รบกวน
ในการทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลทั้งชิพ MediaTek Dimensity 800U และชิพ Mali-G57 ด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำก็ทำคะแนนได้สูงถึง 320800 ถือว่าทำคะแนนได้ค่อนข้างดี หรือจะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด
ส่วนการทดสอบความแรงด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็สามารถทำคะแนน Single core ได้ 574 คะแนน, Multi core ทำได้ 1658 คะแนน การทดสอบ และการใช้งานโดยรวมแล้วถือว่าทำคะแนนได้น่าประทับใจ อาจจะไม่ได้แรงมาก แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแบบเหลือๆ
Funtouch OS 11.1 บนระบบปฏิบัติการ Android 11 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
สำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟน Vivo V21 จะขาดไปไม่ได้เลยคือระบบ Funtouch OS ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ทาง Vivo พัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานของ Android เวอร์ชั่น 11 มาถึงวันนี้ Funtouch OS มาถึงเวอร์ชั่น 11.1 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ มีรูปแบบเมนูที่สวยขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Jovi Home ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะมาช่วยอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ แจ้งเตือนนัดหมายต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการออกกำลังกาย, การทำงาน, การดื่มน้ำ และแจ้งเตือนการจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟน เพื่อไม่ใช้งานมากเกินไป ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อสายตาในระยะยาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเสียง White noise หรือเสียงจากธรรมชาติที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย คลายความกังวลให้เลือกอีก 7 เสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงท้องทุ่ง, เสียงชายหาด, เสียงฝนตก เป็นต้น
แบตเตอรี่ 4000 mAh ชาร์จเร็วด้วย Vivo Flashcharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดบางเฉียบ แต่ด้วยการออกแบบ และเทคโนโลยีการผลิตจึงทำให้แบตเตอรี่ของ Vivo V21 ก็มีความจุสูงถึง 4000 mAh หากเทียบกับความบางของตัวเครื่องถือว่ามีความจุค่อนข้างสูง และยังมีระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ภายในกล่องยังมีอแดปเตอร์ชาร์จเร็วอย่าง Vivo FlashCharge 2.0 ที่สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟ 33 วัตต์ ไม่ต้องรอนาน เสียบชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่ถึง 65% และสามารถชาร์จเร็วได้ถึง 100% ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ชาร์จเร็วที่สุดอีกรุ่นของ Vivo
บทสรุป รีวิว Vivo V21 5G จากความเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งานถึงแม้ว่าดีไซน์ภายนอกจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานก็ยังคงทำให้เราประทับใจเหมือนเช่นเคย ทั้งในด้านการถ่ายภาพได้รับการปรับปรุงให้มีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น ถ่ายภาพได้สวยขึ้น สนุกขึ้นทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ส่วนในด้านการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ลื่นไหล ด้วยหน้าจอที่แสดงผลได้ 90 Hz ที่ดูลื่นสมูทเนียนตามากยิ่งขึ้น บวกกับประสิทธิภาพการประมวลผลที่ดีขึ้น ไม่รู้สึกกระตุกหรือสะดุดระหว่างใช้งาน ส่วนการใช้งานบนเครือข่าย 5G ทำให้รู้สึกว่าดาวน์โหลดเร็วขึ้น ตอบสนองเร็วขึ้นไม่รู้สึกหน่วง สำหรับคราวนี้ Vivo V21 5G มีมาให้เลือก 2 ความจุ ตั้งแต่ 128 GB ราคา 12,999 บาท และ 256 GB 14,999 บาท แต่หากซื้อ หรือจองกับผู้ให้บริการราคาเริ่มต้นจะเหลือเพียง 4,989 บาท เท่านั้น ราคานี้คุ้มค่าน่าสนใจมากๆ
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ Vivo V21 5G
- ขนาด 159.68 × 73.90 × 7.29 มม. นัำหนัก 176 กรัม
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2404 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 800U Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz
- ชิพประมวลภาพ 3D Mali-G57
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128/256 GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G รองรับ 2 โหมด NSA/SA
- กล้องหน้า 44 ล้านพิกเซล f/2.0 ระบบ Eye Autofocus พร้อมไฟ Dual Spotlight Selfie และระบบกันสั่น OIS รุ่นแรกของโลก
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องเลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.79
- กล้องเลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องเลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม. รูรับแสงกว้าง f/2.4
- ปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และใบหน้า
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh ชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- รองรับ WiFi ความถี่ 2.4 และ 5 GHz
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.1
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมด้วย FunTouch OS เวอร์ชั่น 11
- มีให้เลือก 3 สี Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White
- ราคารุ่นหน่วยความจำ 8+128 GB 12,999 บาท
- ราคารุ่นหน่วยความจำ 8+256 GB 14,999 บาท