กลับมาทำตลาดอีกครั้งกับ HONOR หลังจากเงียบหายไปพักใหญ่ๆ โดยการกลับมาครั้งนี้ได้พาร์ทเนอร์รายใหญ่อย่าง SYNNEX ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่มีชื่อเสียง และมีศูนย์บริการทั่วประเทศ และในครั้งนี้ทางได้นำสมาร์ทโฟน HONOR 70 เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา และมีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตอีกหลายรุ่น ส่วน HONOR 70 รุ่นนี้จะมีความน่าสนใจเพียงใด เรามา รีวิว กันเลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องที่วางจำหน่าย
ในครั้งนี้เราได้เพียงกล่อง อแดปเตอร์ สายชาร์จมาให้เท่านั้น แต่ข้อมูลในเวบไซต์จะมีอุปกรณ์ในกล่องดังนี้
- HONOR 70 5G สี Midnight Black
- อแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 66 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่ USB-C
- คู่มือเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอติดจากโรงงาน
Honor 70 ดีไซน์เรียบหรู คลาสสิคเหนือกาลเวลาด้วยสี Midnight Black
Honor 70 กับสี Midnight Black ที่เราได้มาทดสอบถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์เรียบหรูที่ดูดีอีกรุ่นหนึ่ง ขอบด้านข้างโค้งแบบสมมาตรที่บางเพียง 7.91 มม. มีเส้นตัดกึ่งกลางขอบอย่างพอดี ด้านหลังตัวเครื่องสี Midnight Black ดีไซน์มาแบบเรียบๆ ไม่มีลวดลายใดๆ มีเพียงความเงางามของสีดำที่สามารถสะท้อนเงาได้เป็นอย่างดี มีพื้นผิวเรียบเงาดูหรูหรา แต่ก็อาจจะติดรอยนิ้วมือได้ง่ายๆ แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยเคสใสที่มีมาให้ในกล่อง และยังช่วยป้องกันเลนส์กล้องด้วย
หน้าจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว จอภาพแบบ OLED ที่ให้สีสันสวยงาม สมจริง แสดงผลได้ถึง 1.07 พันล้านสี รองรับการแสดงผลแบบ Always on Display อัตราส่วนของภาพ 20:9 ความละเอียดแบบ FHD+ หรือ 2400 x 1800 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz ขอบจอภาพด้านข้างแบบโค้ง รับกับอุ้งมือพอดี เหนือจอแสดงผลมีกล้องหน้าแบบเจาะรูอยู่ตรงกลาง เหนือกล้องขึ้นไปมีลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่บริเวณนี้
ส่วนล่างของหน้าจอตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ซ่อนอยู่ใต้จอแสดงผล สามารถสแกนนิ้วปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ด้านหลังเครื่องแบบเรียบๆ แต่จะเห็นกล้อง Dual Ring Design เป็นวงแหวน 2 วง โดยที่วงแหวนส่วนบนจะมีกล้อง 2 เลนส์ ส่วนวงแหวนส่วนล่างมีกล้อง 1 เลนส์ และไฟแฟลชแบบ LED ถัดมาจะมีคำว่า AI MATRIX CAMERA 54 MP กำกับอยู่
ดีไซน์ขอบด้านข้างหน้าจอกับฝาหลังเป็นแบบโค้งสมมาตร โค้งรับกับอุ้งมือ ที่ด้านซ้ายดีไซน์มาแบบโล่งๆ ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ที่ด้านบนดีไซน์มาแบบโล่งๆ เช่นกัน มีเพียงช่องไมโครโฟนรูเล็กๆ สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนที่ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด 2 SIM แบบประกบบนล่าง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสาย USB-C และลำโพงสปีกเกอร์โฟน
HONOR Image Engine Tripple Camera 54 MP
กล้องหลังของรุ่นนี้มีมาให้เลือกถ่ายถึง 3 เลนส์ โดยกล้องหลักมีความละเอียดมาให้สูงถึง 54 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์อื่นๆ ก็มีคุณสมบัติในการถ่ายภาพแตกต่างกันออกไป โดยกล้องทั้ง 3 เลนส์ก็มีสเป็คดังต่อไปนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 54 ล้านพิกเซล IMX800 Super Sensing รูรับแสงกว้าง f/1.9
- เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 122 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
กล้องความละเอียด 54 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX800 ขนาดใหญ่ถึง 1/1.49” เมื่อถ่ายในโหมดปกติ กล้องจะทำการปรับความละเอียดลงเหลือ 12.58 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์รับภาพเต็มพื้นที่ด้วยการนำเอา 4 พิกเซลรวมเหลือ 1 พิกเซล เพื่อให้การรับภาพ การรวมแสงทำได้ดีมากยิ่งขึ้น และข้อดีอีกอย่างของการรวมพิกเซลคือการทำให้ไฟล์รูปภาพมีขนาดเล็กลง แต่ยังมีขนาดใหญ่พอสำหรับการนำไปใช้งานอย่างเช่นการอัพภาพลงโซเชียล หรือการอัดภาพขนาดใหญ่ได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด แต่หากต้องการปรับความละเอียดไปที่สูงสุดที่ 54 ล้านพิกเซลก็ทำได้ในโหมด HIGH-RES ได้เช่นกัน
โหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น
- Aerture ที่สามารถเลือกปรับค่า f หรือค่ารูรับแสงเองได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 ยิ่งค่าน้อย ฉากหลังก็จะยิ่งถูกเบลอมากยิ่งขึ้น
- Night โหมดถ่ายภาพตอนกลางคืน
- Portrait โหมดถ่ายภาพบุคคลหน้าชัด หลังเบลอ มาพร้อมโหมด Beauty ปรับความเนียนใสของใบหน้า และ Bokeh ปรับฉากหลังให้เบลอมากยิ่งขึ้น
- Panorama โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง
- Sticker โหมดถ่ายภาพสติ๊กเกอร์
- Time-Lapse โหมดถ่ายภาพไทม์แลปส์
- Super Macro โหมดถ่ายภาพในระยะใกล้
- Pro โหมดถ่ายภาพแบบมืออาชีพ
- HDR โหมดถ่ายภาพเอชดีอาร์
- Document โหมดถ่ายภาพเอกสาร
และสำหรับกล้องหน้าก็มีความละเอียดมาให้ถึง 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 นอกจากจะถ่ายภาพเซลฟี่พร้อมโหมด Beauty ได้แล้ว ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Multi-Video โดยใช้กล้องหน้า และกล้องหลังถ่ายพร้อมกันลงในเฟรมเดียวกัน เหมาะกับการถ่ายรีวิวสถานที่ หรือสินค้าสำหรับ YouTuber หรือ Video Content Creator โดยที่ไม่ต้องนำคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ากล้องหลังมาซ้อนกันอีกครั้งให้เสียเวลา
แรงเต็มประสิทธิภาพด้วยชิป Snapdragon 778G Plus ใช้งาน GMS เต็มรูปแบบ
Honor ยังได้เลือกชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพอย่าง Qualcomm Snapdragon 778G Plus มีหน่วยประมวลผล 8 แกนความเร็ว 2.5 GHz มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB สามารถเพิ่มอัตโนมัติอีก 2 GB ด้วยฟีเจอร์ Honor RAM Turbo โดยดึงพื้นที่ ROM มาใช้งาน ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 256 GB แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้
การทำงานของ Honor 70 ใช้ระบบปฏิบัติการพื้นฐานเป็น Android เวอร์ชั่น 12 พร้อมเสริมการทำงานด้วย MagicUI 6.1 รองรับ Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ทั้งแอพพลิเคชั่น, บริการต่างๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์, ระบบนำทาง, บริการเก็บข้อมูล Google Drive, Google Photo ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และเกมต่างๆ ได้จาก Honor App Market ได้อีกด้วย
และในการทดสอบเล่นเกม 3D แบบหนักๆ อย่างเช่นเกม PUBG Mobile ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำก็มีชิป Adreno 642L เข้ามาช่วยในการประมวลผลภาพ 3D และยังมี GPU Turbo X ช่วยรักษาอัตราเฟรมเรทของเกม ช่วยให้การเล่นเกมไม่กระตุก ไม่สะดุดขณะที่อยู่ในช่วงสำคัญของเกม สำหรับการตั้งค่าภายในเกม PUBG Mobile สามารถปรับภาพกราฟฟิคไปได้สูงสุดที่ระดับ HDR และสามารถปรับเฟรมเรทได้ที่ระดับสูงสุด Ultra ซึ่งหากปรับได้ในระดับนี้ก็สามารถเล่นเกม 3D อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ
จากการทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu 3D Benchmark เวอร์ชั่น 9.4.4 สามารถทำคะแนนได้ 541,196 คะแนน
มาถึงการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็สามารถทคะแนน Single-core ได้ 708 คะแนน และ Multi-core ได้ 2764 คะแนน ถือว่าทำคะแนนได้ดีทีเดียว อาจจะไม่ได้เร็วแรงเหมือนสมาร์ทโฟน Flagship แต่ก็รองรับการใช้งานทั่วไป และเล่นเกม 3D ที่มีในตอนนี้ได้สบายๆ
ชาร์จเร็วด้วย Honor SuperCharge 66 วัตต์
สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ก็มีความจุถึง 4800 mAh ถือว่ามีขนาดความจุมากเมื่อเทียบกับความบางของตัวเครื่อง การชาร์จเร็วของรุ่นนี้ก็มีอแดปเตอร์ Honor SuperCharge 66 วัตต์มาให้ในกล่อง จากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 2% ใช้เวลา 15 นาทีก็ได้แบตเตอรี่มาถึง 30% และเมื่อชาร์จต่อไป 35 นาทีก็ได้ไฟมาถึง 75% และหากปล่อยให้ชาร์จจนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น หากว่าลืมชาร์จแบตเตอรี่ เพียงแค่เสียบไว้ชั่วครู่ก็ใช้งานได้เกือบทั้งวันแล้ว
บทสรุป รีวิว HONOR 70 จากความเห็นของ What Phone
จากการใช้งานมาสักระยะถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีทุกอย่างค่อนข้างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงาม เรียบหรู บางเฉียบ มีจอแสดงผลที่สวยงาม กล้องถ่ายภาพที่ไว้ใจได้ในเรื่องของการถ่ายภาพบุคคลทั้งในที่แสงธรรมชาติ หรือในที่แสงน้อยก็ทำได้ดีน่าประทับใจ มีลูกเล่นการถ่ายภาพ และถ่ายวิดีโอที่ต้องถูกใจสาย VLOG ตามสโลแกนของรุ่นนี้ การใช้งานทั่วไปถือว่าทำได้ดีมากในเรื่องของความเร็วในการประมวลผล แตะสั่งงานได้ลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้หงุดหงิด โดยรวมเราค่อนข้างถูกใจกับรุ่นนี้พอสมควร ส่วนราคาเปิดตัวก็ไม่ได้แพงมากนักเพียงแค่ 16,990 บาทเท่านั้น ถือเป็นอีกรุ่นที่ทุกอย่างออกแบบมาได้ลงตัวจริงๆ
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ HONOR 70
- ขนาด 161.4 × 73.3 × 7.91 มม., น้ำหนัก 178 กรัม
- หน้าจอ OLED FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
- ปรับรูปแบบการแสดงผลอัตโนมัติด้วย Refresh rate สูงสุด 120 Hzz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G Plus Octa-core 2.5 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Magic UI 6.1 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 12
- หน่วยความจำ RAM 8+2 GB, ROM 256 GB
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 642L
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 54 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ IMX800 Super Sensing
- กล้องเลนส์ Ultra-wide/Macro ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 30 เฟรมต่อวินาที, FullHD 1080p 60 เฟรมต่อวินาที
- แบตเตอรี่ 4800 mAh ชาร์จเร็ว SuperCharger HONOR กำลังไฟ 66 วัตต์
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, MIMO ความถี่ 2.4/5 GHz และ Bluetooth 5.2
- มีให้เลือก 2 สี Crystal Silver,Midnight Black
- ราคาเปิดตัว 16,990 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ง