รีวิว realme 8 Series สมาร์ทโฟนซีรี่ย์ใหม่จาก realme ที่พึ่งเปิดตัวในวันที่ 21 เมษายนนี้ โดยมาพร้อมกัน 2 รุ่น นั่นก็คือ realme 8 และ realme 8 5G สมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่มาพร้อมดีไซน์สวย กับการใช้งานที่ครบครัน ทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันอย่างไร เรามาชมรีวิวแบบเต็มๆ กันครับ
แกะกล่อง รีวิว realme 8
realme 8 มาพร้อมกล่องสีเหลืองสดใส ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ realme มีหมายเลข 8 ดูโดดเด่นที่หน้ากล่อง และที่ด้านหลังก็มีจุดเด่นของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED กล้องหลังระบบ AI 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ดีไซน์บางเฉียบ เบาบาง หน่วยประมวลผล Helio G95 สำหรับคอเกมมิ่งโดยเฉพาะ ชาร์จเร็วด้วย Dart charge 30 วัตต์ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh มาแกะกล่องดูกันเลยครับ
- realme 8 สี Cyber Black
- อแดปเตอร์ Dart Charge 30 วัตต์
- สายชาร์จแบบ USB-C
- เคสใสแบบซิลิโคน
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมาจากโรงงาน)
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
จอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้วแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม สดใส ซึ่งจอแสดผลของรุ่นนี้นอกจากจะให้สีสันสวยงามแล้ว ยังรองรับการแสดงผลแบบ Always On Display ที่สามารถเปิดหน้าจอแสดงผลนาฬิกา และการแจ้งเตือนต่างๆ ขนาดเล็ก มองเห็นได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกดเปิดเครื่อง ที่มุมบนด้านขวามีกล้องหน้าแบบเจาะรู ไม่บดบังสายตาขณะใช้งาน และที่ส่วนล่างของหน้าจอยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังไว้ใต้หน้าจอมาสำหรับปลดล็อคการใช้งานด้วย
ด้านหลังสี Cyber Black ถูกออกแบบมาโดยใช้โทนสีเทาเข้ม อีกทั้งยังดีไซน์โดยใช้คำว่า DARE TO LEAP ที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร และยังสะท้อนแสงแตกต่างกันในมุมมองต่างๆ สำหรับกล้องของรุ่นนี้มีมาให้ถึง 4 เลนส์ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra-wide, เลนส์ Macro และเลนส์ B&W
ด้านข้างซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ 3 ช่อง สามารถใส่ซิมการ์ด 2 ใบ และการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้พร้อมกัน ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ที่ด้านบนของ realme 8 ดีไซน์โล่งๆ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนเป็นรูเล็กๆ ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสาย USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์
แกะกล่อง รีวิว realme 8 5G
ดีไซน์ของกล่อง realme 8 5G รุ่นนี้เหมือนกับ realme 8 แต่ต่างกันตรงที่มี 5G กำกับอยู่ ที่ด้านหลังกล่องยังมีจุดเด่นหลักๆ ของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นชิพประมวลผล Dimensity 700 5G, จอแสดงผล 90 Hz, ระบบประหยัดพลังงาน 5G และกล้อง Nightscape 48 ล้านพิกเซล มาแกะกล่องดูข้างในกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- realme 8 5G สี Supersonic Black
- อแดปเตอร์ 18 วัตต์
- สายชาร์จแบบ USB-C
- เคสใสแบบซิลิโคน
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมาจากโรงงาน)
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ต้องรุ่นนี้เลย realme 8 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัด เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพความเร็วในการเชื่อมต่อ หรือดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ และยังมาพร้อมดีไซน์เรียบหรู บางเฉียบเพียง 8.5 มม. ใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว แสดงผลเนียนตาด้วยอัตรา Refresh rate สูงถึง 90 Hz ถ่ายภาพได้คมชัดด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
จอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ แสดงผลได้ถึง 90 Hz ที่มุมบนซ้ายมีกล้องหน้าแบบเจาะรู ไม่บดบังสายตาขณะใช้งาน
ด้านหลังดีไซน์แบบเรียบๆ โดยสีของเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Supersonic Black ฝาหลังของรุ่นนี้ยังดีไซน์ออกมาให้ดูมีมิติเมื่อสะท้อนแสงในมุมต่างๆ ดูลึกลับน่าค้นหา ส่วนกล้องของรุ่นนี้มีมาให้ 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เลนส์ B&W Portrait และเลนส์ Macro
ด้านข้างซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 3 ช่อง ส่วนที่ด้านข้างขวามีเพียงปุ่มเปิดปิดเครื่อง พร้อมกับทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว
ที่ด้านบนดีไซน์แบบโล่งๆ ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ อยู่ที่ด้านนี้ ส่วนด้านล่างก็มีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสาย USB-C และลำโพงสปีกเกอร์
สัมผัสประสบการณ์ 5G เลือก realme 8 5G
realme 8 Series มีมาให้เลือกพร้อมกัน 2 รุ่น นั่นก็คือรุ่น 4G และรุ่น 5G โดยในรุ่น 5G นั้นสามารถใช้งานบนเครือข่าย 5G ในไทยได้ทันทีเมื่ออยู่ในพื้นที่ให้บริการ ซึ่งบางค่ายก็สามารถใช้งาน 5G ในตัวเมืองได้แล้วทุกจังหวัด บางค่ายก็ยังคงมีให้บริการเฉพาะในกรุงเทพ แต่หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่ให้บริการเครือข่าย 5G ก็สามารถเลือกรุ่น realme 8 ธรรมดาที่รองรับเครือข่าย 4G ก็ได้เช่นกันในราคาที่ประหยัดกว่า อีกทั้งยังมีพื้นที่การใช้งานครอบคลุมกว่า 5G ด้วย
สำหรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ของ realme 8 5G รองรับการทำงานแบบทั้ง SA และ NSA สามารถใช้งาน 5G ได้ทั้ง SIM1 และ SIM2 มาพร้อมระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ Smart 5G เมื่อใช้งานบนเครือข่าย 5G จึงไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็ว โดยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมของสัญญาณโดยรอบได้อย่างชาญฉลาดและจะสลับการใช้งานระหว่าง 4G และ 5G อย่างอัตโนมัติ ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าสมาร์ทโฟนที่ไม่มีคุณสมบัติ Smart 5G ถึง 30%
จากการทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อ 5G ด้วย realme 8 5G สามารถทำความเร็วได้ถึง 197 Mbps และสำหรับ realme 8 ที่เชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G ทำความเร็วได้ 60 Mbps ถือว่าความเร็วต่างกันพอสมควร อย่างไรก็ดี ความเร็วก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง รวมไปถึงจำนวนผู้ใช้งานในพื้นที่นั้นๆ ด้วย
realme 8 Series หน่วยประมวลผลแรงพอๆ กัน
อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่าหากต้องการสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เราก็แนะนำให้เลือก realme 8 5G ไปเลย แต่ราคาก็จะแพงกว่านิดหน่อย แต่สำหรับหน่วยประมวลผลแล้ว ทั้งสองรุ่นมีประสิทธิภาพความแรงที่พอๆ กัน สำหรับรุ่น realme 8 5G ใช้ชิพเซ็ต MediaTek Dimensity 700 5G Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G57 หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB และ ROM ความจุ 128 GB และยังเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีก จากการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu สามารถทำคะแนนได้ 303,133 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 สามารถทำคะแนน Single core ได้ 570 คะแนน และ Multi core ได้ 1774 คะแนน
สำหรับ realme 8 ใช้ชิพเซ็ต MediaTek Helio G95 Octa-core ความเร็ว 2.05 GHz หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G76 พร้อมหน่วยความจำ RAM 8 GB และ ROM 128 GB จากการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu ทำคะแนนได้ 304,518 คะแนน และแอพฯ Geekbench ทำคะแนน Single core ได้ 534 คะแนน และ Multi core ได้ 1677 คะแนน
จะเห็นว่าทั้งสองรุ่นทำคะแนนได้ต่างกันเล็กน้อย แต่ในเรื่องของการประมวลผลภาพ 3D ของรุ่น realme 8 จะทำคะแนนได้ดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งหากต้องการเล่นเกม realme 8 ดูจะเหมาะกว่ารุ่น 5G
ในการทดสอบเล่นเกม 3D อย่าง PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบหนักหน่วง ทั้งสองรุ่นก็สามารถปรับไปได้ที่ความละเอียดภาพสูงสุด แต่ทั้งสองรุ่นก็ยังมีความแตกต่างในด้านการแสดงผลด้วย โดย realme 8 5G สามารถแสดงผลได้ลื่นไหลกว่าที่อัตรา Refresh rate 90 Hz ส่วน realme 8 แสดงผลสีสันได้สวยงามกว่าด้วยจอภาพแบบ Super AMOLED แต่แสดงผลที่อัตรา Refresh rate 90 Hz
realme 8 Series กล้องหลังมีให้เลือกทั้ง 3 เลนส์ และ 4 เลนส์
ถ้าเน้นการถ่ายภาพ realme 8 จะมีกล้องถ่ายภาพความละเอียดมากกว่า มีเลนส์ให้เลือกถ่ายภาพมากกว่าถึง 4 เลนส์ โดยจะมีเลนส์ Ultra wide เพิ่มเข้ามา ต่างจาก realme 8 5G ที่มีเพียง 3 เลนส์ ทำให้ realme 8 เก็บภาพมุมกว้างได้มากกว่า ถ่ายภาพได้ทุกระยะมากกว่า มาดูกันว่าสเป็คกล้องของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร
realme 8
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.25
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
realme 8 5G
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.1
สำหรับลูกเล่นในการถ่ายภาพ ทั้งสองรุ่นก็มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพแบบพื้นฐานมาให้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ Night mode, Portrait, Slo-mo, Time-lapse, Ultra macro, Text scanner แต่ realme 8 มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมาให้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Starry mode ที่สามารถถ่ายภาพดวงดาวบนท้องฟ้าได้โดยการเปิดชัตเตอร์ไว้ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อให้กล้องเก็บแสงให้ได้มากที่สุด, Dual-View Video เป็นการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน และนอกจากนี้ realme 8 ยังถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึง 4K แต่ใน realme 8 5G กลับถ่ายได้ที่ความละเอียดเพียง 1080p เท่านั้น นี่คือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
แบตเตอรี่เท่ากัน แต่ realme 8 รองรับ Dart Charge 30 วัตต์
ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาด 5000 mAh เท่ากัน แต่ระบบการชาร์จของทั้งสองรุ่นกลับต่างกัน โดย realme 8 จะรองรับระบบ Dart Charge กำลังไฟถึง 30 วัตต์ ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่า โดยการทดสอบชาร์จจาก 10% ไปจนถึง 50% ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น และหากชาร์จจนเต็มก็จะใช้เวลาเพียง 1 ชม 10 นาที แบตเตอรี่ก็เต็ม 100% พร้อมใช้งาน
ส่วน realme 8 5G ก็มีขนาดเท่ากันคือ 5,000 mAh แต่ในกล่องจะแถมอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 18 วัตต์ โดยการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่ 10% ไปจนถึง 30% ใช้เวลา 20 นาที และหากชาร์จจนเต็มก็จะใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว อาจจะดูนานไปหน่อย แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ก็ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน แนะนำให้ชาร์จก่อนนอน ตื่นขึ้นมาแบตเตอรี่เต็มพร้อมใช้ทั้งวันอย่างแน่นอน
บทสรุป รีวิว realme 8 Series จากความเห็นของ What Phone
สรุปเลยว่าทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดหลายจุด โดยขอสรุปเป็นรุ่น realme 8 ก่อน จุดเด่นของรุ่นนี้คือจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม คมชัด อัตราส่วนการแสดงผลสีดำสีขาวดีกว่ารุ่น 5G มีฟีเจอร์ Always on Display มีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ หน่วยประมวลผลมีประสิทธิภาพ และทำคะแนนได้ดีกว่าเล็กน้อย กล้องถ่ายภาพมีความละเอียดกว่า มีเลนส์ Ultra wide มีลูกเล่นการถ่ายภาพมากกว่า ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K เพียงแต่ว่ารุ่นนี้ไม่รองการใช้งานเครือข่าย 5G แต่ก็มีราคาถูกกว่า 1,000 บาท ส่วน realme 8 5G จุดเด่นของรุ่นนี้คือรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ที่เร็วกว่า จอแสดงผลทำได้เนียนตากว่าด้วย Refresh rate 90 Hz มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง สรุปโดยรวมแล้วหากใช้งานทั่วไป realme 8 ตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า แต่หากต้องการประสบการ์การเชื่อมต่อใหม่ๆ อย่างเครือข่าย 5G realme 8 5G ให้คุณได้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ในราคาเบาๆ เพียง 9,999 บาทเท่านั้น
ตัวอย่างภาพจากกล้อง realme 8
ตัวอย่างภาพจากกล้อง realme 8 5G
สรุปสเป็ค realme 8
- ขนาด 160.6 x 73.9 x 7.99 มม. นัำหนัก 177 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, แสดงผล 60 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G95 Octa-core ความเร็ว 2.05, Mali G76 GPU
- ระบบปฏิบัติการ Android 11, realme UI 2.0
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าาจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.25
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ Dart Charge 30 วัตต์
- มีให้เลือก 2 สี Cyber Black, Cyber Silver
- เปิดตัวในราคา 8,999 บาท
สรุปสเป็ค realme 8 5G
- ขนาด 162.5 x 74.8 x 8.5 มม. นัำหนัก 185 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G
- หน้าจอ FHD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, แสดงผล 90 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 Octa-core ความเร็ว 2.2, Mali G57 GPU
- ระบบปฏิบัติการ Android 11, realme UI 2.0
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.1
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ 18 วัตต์
- มีให้เลือก 2 สี Supersonic Black, Supersonic Blue
- เปิดตัวในราคา 9,999 บาท
