• Facebook
• X
• Line

หลังจากงานเปิดตัวตระกูล Zenfone จาก ASUS กระสแตอบรับดีมากๆถึงสเปคที่ออกมานั้น หนึ่งในนั้นที่พูดถึงก็คือ Zenfone 5 สมาร์ทโฟนสเปคสูงคุ้มเกินราคารุ่นใหม่จาก ASUS มาพร้อมรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของ ASUS รูปทรงตัวเครื่องทำออกมาได้สวยงามและดูดีเลยทีเดียว และในส่วนของฝากหลังที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์ ASUS และ intel inside แสดงถึงประสิทธิภาพที่ทรงพลัง ซึ่งหลายคนกลัวฝากหลังจะเลอะง่าย เพราะเป็นสีขาว สำหรับหน้าจอตัวนี้มีขนาด 5 นิ้วมาพร้อมกับจอ IPS ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล จอจะใหญ่กว่า Zenfone 4 ขึ้นมาอีกระดับ ให้สีสันที่ชมจริง และมีปุ่มสัมผัสด้านล่างหน้าจอ

Asus Zenfone 5

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ ZEN UI ซึ่งหน้าตาดูดีมากๆเป็น UI ที่ใช้แล้วรู้สึกทันสมัยมาก เพราะ ตัวไอคอนและสีสันแมตซ์กันได้อย่างลงตัว และอีกจุดเด่นของเจ้า Zenfone ก็คือ เรื่องของกล้องที่มาพร้อมกับ 13 โหมดเพื่อช่วยให้การถ่ายรูปออกมาในแบบที่เราต้องการได้อีกด้วย และรองรับการรองรับการสัมผัสแม้จะสวมถุงมือ (Glove Touch Input)

ทางด้านประสิทธิภาพ เท่าที่ได้ลองเล่นได้สัมผัส Intel Atom Z2560 Dual-core 1.6 GHz พร้อมกับ RAM 1 GB และรันบน Android 4.3 (Jelly Bean) ใช้งานได้อย่างลื่นไหลอีกทั้งมาพร้อมกับ ZEN UI ทำให้เพิ่มความเสถียรในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น และกล้องมาพร้อมกับ 13 โหมดเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการถ่ายรูป จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ รองรับการสัมผัสแม้จะสวมถุงมือ (Glove Touch Input) ที่สามารถสัมผัสกับหน้าจอได้ในขณะที่สวมถุงมืออยู่ด้วย

Physical Overview

Asus Zenfone 5 มาพร้อมหน้าจอสัมผัส IPS ขนาด 5 นิ้ว มีความละเอียดระดับ Full HD 1080p ใช้กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 3 มีเซ็นเซอร์ปรับระดับแสง และเซ็นเซอร์วัดระยะห่างติดมาให้ครบ พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และไฟ LED Notification

ถัดลงมาใต้หน้าจอจะพบกับแผงปุ่มเมนูแบบสัมผัส เริ่มจากปุ่ม Back ด้านซ้าย ปุ่ม Home ตรงกลาง และปุ่ม Recent App ที่ด้านขวา ด้านล่างปุ่มเมนูสัมผัสจะมีเอกลักษณ์เด่นของตัวเครื่อง Asus คือ สีเงินเงา

ด้านข้างของตัวเครื่องด้านซ้ายจะมีช่องสำหรับแกะฝาหลังออก และด้านขวามีปุ่ม Power ถัดลงมา คือตำแหน่งของปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 ม.ม. ส่วนจุดเล็กๆ คือ ช่องไมโครโฟนตัวที่ 2

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ท Micro USB 2.0 สำหรับเสียบสายชาร์จและเชื่อมต่อสายดาต้าเพื่อซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ถัดไปจะเป็นช่องไมโครโฟนสนทนา

ด้านหลังของ Zenfone 5 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ LED แฟลช ใต้ LED จะมีสัญลักษณ์ ASUS อยู่ด้านล่าง LED ส่วนด้านล่างจะมีลำโพงบนลำโพงจะมีคำว่า Zenfone และสัญลักษณ์ intel inside

เมื่อแกะฝากหลังออกมาจะพบกับสล็อตใส่ซิมการ์ด 2 ซิมการ์ด และช่องใส่ microSD Card มาพร้อมแบตเตอรี่ Li-ion ความจุ 2,110 มิลลิแอมป์

8 MegaPixel Camera

Zenfone 5 มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และ 13 โหมดที่ช่วยในการถ่ายรูปนั้นสะดวกสบายมากอย่างขึ้น และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล สำหรับใช้งาน VDO Call สำหรับลูกเล่นในโหมดต่างๆ ที่มากับกล้องนั้นช่วยในการเลือกก่อนการถ่ายรูปเมื่อถ่ายเสร็จจะประมวลผลตามรูปเล่นที่ได้เลือกไว้ก่อนถ่ายรูป ส่วนคุณภาพของรูปภาพที่ถ่ายออกมานั้นถือว่าออกมาน่าพอใจ ภาพสีสันคมชัด แต่ในเรื่องของออโต้โฟกัสทำงานช้ามาก แต่ถ้าใช้ทัชโฟกัสไม่มีปัญหาอะไรเลย คาดว่าเมื่อวางจำหน่ายเครื่องจริงๆ ต้องมีการปรับปรุงในส่วนของกล้องแน่นอน การถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p เมื่อถ่ายวิดีโอได้วิดีโอที่มีคุณภาพและสมจริงสำหรับการบันทึกวิดีโอ

Entertainment

Asus Zenfone 5 มีฟีเจอร์ความบันเทิงไว้อย่างจุใจให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานกัน มีเครื่องเล่นเพลงพร้อมใช้งานในตัวตามมาตราฐาน พร้อมสามารถปรับแต่งเสียงต่างๆเช่น Music Mode, Movie Mode, Gaming Mode, Recording Mode ผ่านแอพพลิเคชั่น AudioWizard ให้ได้เสียงตามที่ต้องการโดยการปรับแต่งของผู้ใช้งานเอง ส่วนเครื่องเล่นวิดีโอก็ดูได้อย่างจุใจด้วยหน้าจอ 5 นิ้ว และยังมีวิทยุ FM ในตัวให้อีกด้วย การเล่นเกมส์หายห่วงเลยเล่นได้อย่างสบายไม่มีกระตุก แล้วที่สำคับเอาใจคนรักการอ่านด้วย Amazon Kindle ได้อ่านอย่างเพลิดเพลิน

Connectivity

Zenfone 5 เครื่องนี้ก็จัดเต็มมาครบทุกฟังก์ชั่น รองรับ 2 ซิมการ์ดที่สามารถสแตนด์บายพร้อมใช้งาน 2 ซิมได้ในเวลาเดียวกัน สามารถแยกการใช้งาน 2 เบอร์ได้อย่างสบายๆเลย เรื่องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็สะดวกสบายรองรับ 3G ทุกเครือข่าย หรือจะใช้งานผ่าน Wi-Fi 802.11 b/g/n แล้วก็ยังมี Wi-Fi Direct และ Wi-Fi hotspot โอนถ่ายข้อมูลผ่านพอร์ต USB 2.0 หรือผ่าน Bluetooth 4.0 นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ทาง ASUS มีมาให้พร้อมกับตัวเครื่องเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Splendid ใช้ปรับสีหน้าจอ, SuperNote ใช้จดโน้ตต่างๆและวาดรูป, WebStorage ใช้จัดเก็บข้อมูลใน Zenfone 5 ได้ทันที, Power Saver ใช้ประหยัดพลังงานและยืดเวลาการใช้งาน

Final Opinion & Conclusion

Zenfone 5 เครื่องนี้ทำให้เห็นเลยว่าคุ้มค่าเกินราคาจริงๆ กับลูกเล่นและการใช้งานต่างๆที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นที่มากับตัวเครื่องนั้นช่วยทำให้การใช้งานของผู้ใช้งานสะดวกมากขึ้น ตัวเครื่องทำออกมาได้ดูดีและสวยงามมากๆ ทำให้ซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ส่วนที่ถามว่าซื้อตัวไหนดี Zenfone 4, 5 หรือ 6 นั้นขึ้นอยู่กับท่านผู้อ่านว่าไปลองเล่นแล้วถูกใจตัวไหนมากกว่ากันและถูกใจอยากจะใช้งานมันก็เลือกซื้อตัวนั้นครับ ^^

Strength

– หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 มาพร้อม ZEN UI
– CPU Intel Atom Z2560 Dual-core ความเร็ว 1.6 GHz/ RAM 1 GB
– หน่วยความจำภายใน 8/16 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 64 GB
– รองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่
– กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ 13 โหมดให้เลือกใช้งาน
– ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p, กล้องหน้า 2 ล้าน
– ใช้งานได้ 2 ซิม
– รองรับการสัมผัสแม้จะสวมถุงมือ (Glove Touch Input)
– ประหยัดพลังงานด้วย Power Saver

Weakness

– ฝาหลังเป็นสีขาวง่ายต่อการเป็นรอยและเลอะง่าย

รูปตัวเครื่อง Zenfone 5 

รูปหน้าจอ Zenfone 5 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

• Facebook
• X
• Line