dtac TriNet Phone Cheetah
เพิ่งเปิดตัวกันไปได้ไม่นาน กับ dtac TriNet Phone ซึ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิด “Internet For All” ของ dtac ให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้เข้าถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนโครงข่าย TriNet ซึ่งมีแบนด์วิธกว้างที่สุด ด้วยสมาร์ทโฟนราคาเบาๆ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง dtac และ บริษัท Huawei ที่หลายคนคงจะพอคุ้นเคยกับแบรนด์ Huawei กันอยู่แล้ว โดย dtac TriNet Phone Cheetah นั้นจะมีชื่อที่รู้จักในตลาดโลกว่า Huawei Ascend G510 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ที่ให้ความคมชัดในมุมมองที่กว้างกว่าจอ LCD ทั่วไป ทางด้านดีไซน์จะออกมาในรูปแบบที่เรียบง่าย ตามสไตล์มือถือหน้าจอสัมผัส ไม่ได้ใส่ลูกเล่นในการออกแบบให้ได้สะดุดตาสักเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของวัสดุและงานประกอบนั้นจัดว่ามีความแน่นหนาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เลยทีเดียว
สำหรับสเปคภายใน แม้ว่า dtac TriNet Phone Cheetah จะเปิดตัวด้วยราคาไม่ถึง 5 พันบาท แต่ก็มาพร้อมชิป Qualcomm MSM8225 Snapdragon S4 Play ที่มี CPU แบบ Dual-core ความเร็ว 1.2 GHz ใช้การ์ดจอ Adreno 203 พร้อม RAM 512 MB และหน่วยความจำภายใน 4 GB รันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.2 (Jelly Bean) ซึ่งสเปคระดับนี้ก็จัดได้ว่าเพียงพอต่อความต้องการของมือใหม่แอนดรอยด์ สามารถรองรับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการใช้งานด้านอื่นๆ ทั้งความบันเทิง และการทำงานเบื้องต้น ด้วยประสิทธิภาพซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับราคา ทางด้าน UI หรือส่วนติดต่อผู้ใช้งาน ของ dtac TriNet Phone Cheetah จะเรียกว่า Emotion UI ซึ่งมีหน้าตาที่เรียบง่ายสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมธีมพิเศษจาก dtac ซึ่งโดดเด่นด้วยสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำค่าย พร้อมฟ้อนท์ที่เราคุ้นตา นอกจากนี้เวลาที่เปิด หรือ ปิดเครื่องยังมีภาพกังหันสีฟ้า พร้อมเสียงผิวปากเป็นเพลงของ dtac ฟังดูน่ารักไปอีกแบบ อีกทั้งยังมี Exclusive Application จาก dtac ติดตั้งมาให้ได้เลือกใช้งานกันอย่างหลากหลายทั้ง Deezer, Watchever, Sport dtac และ อื่นๆ อีกมากมาย
Physical Overview
dtac TriNet Phone Cheetah มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว มีความละเอียด 480 x 854 พิกเซล แสดงผลได้ 16 ล้านสี ให้ความคมชัดผ่านมุมมองที่กว้างขึ้นด้วยจอแบบ IPS นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA ติดมาให้ใช้งานกัน
ถัดลงมาที่ด้านล่างของหน้าจอจะพบกับแผงปุ่มเมนูแบบสัมผัส เริ่มจากปุ่ม Back, Home และ Option
มาดูกันที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะพบกับปุ่ม Power, Sleep/ Awake ถัดลงมาคือปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม/ลดเสียง และด้านล่างสุดคือพอร์ท micro USB สำหรับเสียบสายชาร์จ และสายดาต้า
ส่วนบนของตัวเครื่องค่อนข้างโล่ง มีเพียงช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร จัดวางอยู่เพียงอย่างเดียว
ย้ายมาดูกันที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะพบกับช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา และร่องเล็กๆ ที่มุมด้านขวาสำหรับงัดเพื่อเปิดฝาหลัง
ด้านหลังของ dtac TriNet Phone Cheetah มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช ครบครัน
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ความจุ 1,700 mAh และช่องใส่ซิม พร้อมช่องใส่ microSD ที่ด้านข้าง ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างสะดวก
5 MP Digital Camera
dtac TriNet Phone Cheetah มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัส และไฟแฟลช LED ครบครัน มีโหมดการถ่ายภาพมุมกว้างหรือแบบพาโนรามา พร้อมเลือกปรับเอฟเฟ็คท์สี เพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายแนวๆ ได้อีก 6 แบบ และยังสามารถเลือกซีนในการถ่ายภาพได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่าพื้นฐานต่างๆ ได้อย่างครบครัน ทั้งการปรับไวท์บาลานซ์, เลือกปรับ ISO (ความไวแสง), เลือกขนาดภาพ, เลือกความละเอียดของภาพถ่าย และสามารถตั้งเวลาถ่ายภาพได้นานสูงสุด 10 วินาที สำหรับการบันทึกวิดีโอ dtac TriNet Phone Cheetah สามารถทำได้ที่ความละเอียดระดับ VGA (640 x 480 พิกเซล) พร้อมกล้องหน้าความละเอียด VGA สำหรับการใช้งานวิดีโอคอลล์
Music Player & FM Radio
ซอฟแวร์เครื่องเล่นเพลงของ dtac TriNet Phone Cheetah เป็นแบบมาตรฐานที่ติดมากับ Stock ROM ของ Android ซึ่งได้มีการอัพเดทปรับเปลี่ยนโฉม โดยเน้นธีมสีส้มเป็นหลัก ยังคงสามารถแสดงภาพปกอัลบั้มขณะเล่นเพลง เลือกรูปแบบการเล่นได้ทั้ง เล่นซ้ำ, เล่นแบบสุ่ม และเราสามารถเลือกปรับโทนเสียงผ่านอีควอไลเซอร์แบบ 5 แถว พร้อมโทนเสียงสำเร็จรูปให้เลือกปรับอีก 10 แบบ อีกทั้งยังมีเอฟเฟ็คท์เพิ่มเสียงเบส และเสียง 3 มิติ ที่จะแสดงผลเมื่อใช้งานผ่านหูฟัง อีกทั้งยังมีวิทยุ FM มาให้ฟังข่าว หรือรายการเพลงแก้เหงาเหมือนเคย นอกจากนี้ dtac ยังติดตั้งแอพลิเคชั่นสำหรับฟังเพลงอย่าง Deezer ที่รวมเพลงฮิตทั้งเก่า และใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทยหรือสากล ก็มีให้เลือกรับฟังตามใจชอบ ซึ่ง dtac ก็ใจดีเปิดให้ใช้งานฟรีเป็นเวลา 15 วันด้วยกัน
Connectivity
เป็นที่แน่นอนว่า dtac TriNet Phone Cheetah นั้นต้องรองรับการเชื่อมต่อ 3G บนโครงข่าย TriNet ของทาง dtac เองอยู่แล้ว แต่ด้วยสเปคของตัวเครื่องที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านคลื่นความถี่ 2100 MHz ซึ่งเป็นความถี่มาตรฐาน หากวันดีคืนดี อยากจะย้ายค่ายก็ไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าลืมว่าทาง dtac เค้ามีแพ็คเกจยั่วใจอย่าง แพ็คเกจฟรีค่าเครื่องสำหรับลูกค้ารายเดือน นอกจากนี้ในส่วนของลูกค้าเติมเงินก็จะมีโปรโมชั่น ฟรีโบนัสค่าโทร 200 บาท + เน็ต 100 MB นาน 16 เดือน ซึ่งรายละเอียดก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ dtac และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ
Final Opinion & Conclusion
dtac TriNet Phone Cheetah เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค, เพื่อความบันเทิง รวมไปถึงใช้เป็นผู้ช่วยในการทำงาน ด้วยหน่วยประมวลผลเป็นแบบ Dual-core ความเร็ว 1.2 GHz พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว และกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 5 พันบาท กับประสิทธิภาพระดับนี้ก็ต้องถือได้ว่าคุ้มค่าไม่เบาเลยล่ะ
Strengh
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (Jelly Bean)
– CPU Dual-core ความเร็ว 1.2 GHz (Snapdragon S4 Play)
– จอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว
– เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G/ Wi-Fi
– กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช
– กล้องหน้า VGA
– เครื่องเล่น MP3/ วิทยุ FM
– Exclusive Apps จาก dtac
Weakness
– หน่วยความจำ RAM มีแค่ 512 MB
– ถ่ายวิดีโอได้แค่ระดับ VGA
รูปตัวเครื่อง dtac TriNet Phone Cheetah
รูปหน้าจอ dtac TriNet Phone Cheetah