มาถึงรุ่นที่ 10 ของกล้อง Action CAM อย่าง GoPro Hero 10 Black ถึงแม้ว่ารูปทรงภายนอกจะมาในรูปแบบเดิม เปลี่ยนสีตรงโลโก้ GoPro นิดหน่อย แต่ภายในอัพเกรดให้ถ่ายวิดีโอได้ถึงความละเอียดสูงสุดถึง 5.3K พร้อมชิพประมวลผล GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับการประมวลผลวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูง ส่วนรายละเอียดภายในจะเป็นอย่างไร มาแกะกล่องดูกันเลยครับ
แกะกล่อง GoPro Hero 10 Black
สำหรับกล่องที่เราได้มาทดสอบเป็นแพ็คสำหรับสื่อรีวิว อุปกรณ์ภายในกล่องที่วางจำหน่ายจริงจะไม่ได้มีอุปกรณ์ครบครันแบบนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบจากแพ็คเก็จที่วางจำหน่ายจริงจะมีอุปกรณ์ดังนี้
- กล้อง GoPro Hero 10 Black
- แบตเตอรี่ 1 ก้อน
- สายชาร์จแบบ USB Type-C
- ที่ยึดกล้องแบบเรียบ และแบบโค้ง
- คู่มือ และใบรับประกัน
- สติ๊กเกอร์ GoPro 2 แผ่น
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นกล่องพลาสติกที่เมื่อแกะกล่องออกมาก็แทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ มาถึงรุ่นนี้ได้เปลี่ยนเป็นกล่องผ้าที่สามารถเก็บกล้อง และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ในกล่องเดียว นอกจากจะนำไปใช้งานได้จริงแล้ว ยังช่วยลดขยะพลาสติกที่กำลังจะล้นโลกได้อีกทางหนึ่ง
จากเดิม GoPro Hero 9 Black ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อนๆ มาพร้อมจอสีด้านหน้า มาถึง GoPro Hero10 Black ก็มีขนาดไม่ต่างจาก Hero 9 ดีไซน์ก็แทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง ต่างกันตรงที่โลโก้ GoPro และชื่อรุ่น 10 Black เปลี่ยนเป็นสีฟ้าสดใส แต่ภายในได้ปรับเปลี่ยนชิพประมวลผลเป็นรุ่นใหม่ที่เร็วกว่าเดิม รองรับการถ่ายภาพ และวิดีโอที่ความละเอียดสูงกว่ารุ่นก่อน
ด้านหน้าของกล้องจะเห็นโลโก้ GoPro สีฟ้าสดใสดูโดดเด่นกว่ารุ่นก่อนๆ เหนือโลโก้มีจอแสดงผลแบบสีขนาดเล็กสำหรับพรีวิวการถ่ายภาพเซลฟี่ หรือวิดีโอเซลฟี่เพื่อไม่ให้หลุดเฟรม หรือจะใช้เป็นหน้าจอบอกสถานะโหมดการถ่าย แบตเตอรี่ ระยะเวลาที่เหลือสำหรับการถ่ายวิดีโอได้ เหนือจอแสดงผลมีไฟบอกสถานะการทำงานต่างๆ เป็นไฟ LED สีแดง นอกจากนี้ยังมีเลนส์รับภาพขนาดใหญ่ และมีช่องไมโครโฟนรับเสียงอยู่ใต้เลนส์
ด้านหลังมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ สั่งงานด้วยระบบสัมผัส นอกจากจะใช้เป็นหน้าจอสำหรับพรีวิวภาพแล้ว ยังใช้เป็นหน้าจอสั่งงานการตั้งค่าต่างๆ ด้วย ส่วนที่มุมบนซ้ายมีไฟ LED สีแดง บอกสถานะการทำงานของเครื่อง
ที่ด้านบนตัวเครื่องมีเพียงปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายวิดีโอ หากปิดเครื่องอยู่สามารถกดปุ่มนี้เพื่อเริ่มต้นการถ่ายวิดีโอได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอเปิดเครื่อง
ส่วนที่ด้านล่างก็มีขายึดกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน และใต้ขายึดนี้ยังมีช่องลำโพงของตัวเครื่องด้วย
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเราจะเห็นชื่อรุ่น 10 Black เป็นสีฟ้าที่ดูโดดเด่นไม่แพ้โลโก้ด้านหน้า ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และเป็นปุ่มเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพในตัว ถัดลงมาอีกเป็นช่องระบายน้ำของไมโครโฟน ไม่ได้เป็นฝาปิดพอร์ตแต่อย่างใด และไม่สามารถเปิดช่องนี้ได้ด้วย
ส่วนที่ด้านข้างขวาเป็นฝาปิดช่องรวมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่, การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และพอร์ต USB-C ทุกครั้งที่เปิดช่องนี้ควรตรวจสอบว่าปิดแน่นสนิทดีก่อนนำไปใช้งาน เพราะหากปิดไม่สนิท น้ำอาจจะซึมเข้าช่องนี้ได้
และหากต้องการใช้ถ่ายวิดีโอ หรือถ่าย Timelapse ที่ต้องเปิดเครื่องเป็นเวลานานก็สามารถดึงฝาปิดนี้ออกไปได้ เพื่อสะดวกในการเสียบสายชาร์จแบตค้างไว้
ชิพ ประมวลผล GP2 รุ่นใหม่ ถ่ายวิดีโอความละเอียด 5.3K HyperSmooth 4.0 ถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกล้องวิดิโอทั่วไป แต่ด้วยขนาดเล็กนี้สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดได้สูงสุดถึง 5.3K ที่เฟรมเรท 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า 4K เกือบเท่าตัว เป็นผลมาจากการใช้หน่วยประมวลผล GP2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถประมวลผลภาพความละเอียดสูงได้ในระดับนี้ โดยมีอัลกอริธึมสำหรับโหมดวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอีกด้วย เช่น Local Tone Mapping (LTM) และ 3D Noise reduction (3DNR) ที่จะช่วยให้ภาพที่ออกมาคมชัด และสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมแม้อยู่ในที่แสงน้อย (ชมคลิปวิดีโอตัวอย่างด้านล่าง)
ระบบกันสั่นในการถ่ายวิดีโอก็มี HyperSmooth 4.0 ที่พัฒนาให้ระบบกันสั่นนิ่งขึ้นไปอีก โดยมีระบบ Horizon Levelling ที่ช่วยปรับระดับเส้นขอบฟ้าได้มากขึ้นกว่าเดิมจาก 27 องศาเป็น 45 องศาเพื่อให้การรักษาระดับของภาพทำได้ดีกว่าเดิม สำหรับความละเอียดที่สามารถถ่ายได้มีให้เลือกดังนี้
- ความละเอียด 5.3K เฟรมเรทสูงสุด 60 FPS
- ความละเอียด 4K เฟรมเรทสูงสุด 120 FPS
- ความละเอียด 2.7K เฟรมเรทสูงสุด 240 FPS
ในการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุดที่ 23 ล้านพิกเซล สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง หรือจะถ่ายครั้งละ 1 ภาพตามต้องการ เลือกความกว้างของเลนส์ได้ 3 ระดับ ไม่ว่าจะเป็น Wide, Linear หรือ Narrow ส่วนการถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ทำได้ดีขึ้น สามารถชมภาพตัวอย่างได้จากด้านล่าง นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้สะดวกขึ้นด้วยจอแสดงผลที่อยู่ด้านหน้า
เชื่อมต่อดาวน์โหลด และตัดต่อคลิปวิดีโอง่ายๆ ด้วย GoProQuick
GoPro Hero10 Black สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้ง iOS และ Android ผ่านทาง Wi-Fi ตัวแอพพลิเคชั่นมีชื่อว่า GoPro Quick เมื่อดาวน์โหลดแล้วก็ทำการเชื่อมต่อได้ทันที สามารถใช้สมาร์ทโฟนแสดงผลหน้าจอขณะถ่าย ตั้งค่าถ่ายภาพได้ง่ายและสะดวกกว่าบนหน้าจอ GoPro และยังใช้เป็นรีโมทสำหรับถ่ายภาพแบบไร้สายได้อีกด้วย แอพฯ GoPro ยังให้เราดาวน์โหลดภาพ หรือคลิปวิดีโอจากกล้องมายังสมาร์ทโฟน และยังมีแอพฯ Quik ที่สามารถตัดต่อคลิปวิดีโอแบบง่าย พร้อมทั้งใส่เสียงดนตรี ให้โดยอัตโนมัติเพียงแค่ไม่กี่คลิก จากนั้นก็แชร์ลง Social Network ได้เลยทันที สะดวกรวดเร็วมากๆ นอกจากนี้ยังสามารถอัพเดท Firmware ของกล้องให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ได้โดยแอพฯ นี้
ข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทย
บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ GoPro เริ่มวางจำหน่าย HERO10 Black แล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย โดยจะวางจำหน่ายในราคา 16,500 บาท
ตัวอย่างคลิปวิดีโอจากกล้อง GoPro Hero10 Black
ตัวอย่างคลิปวิดีโอตอนกลางวัน
ตัวอย่างคลิปวิดีโอตอนกลางคืน
ตัวอย่างคลิปวิดีโอ TimeWarp ตอนกลางคืน
ภาพตัวอย่างจาก GoPro Hero10 Black
