ถ้าพูดถึงกล้องแอ็คชั่นแคมหลายคนคงจะนึกถึงแบรนด์ GoPro เป็นอันดับแรกๆ เพราะชื่อเสียงทางด้านกล้องติดหมวกที่มีขนาดเล็กที่พร้อมเก็บภาพแอ็คชั่นไปกับคุณตลอดเวลา ไม่พลาดทุกช็อต จนถึงวันนี้กล้องแอ็คชั่นแคมก็ได้พัฒนามาถึงขีดสุดด้วยกล้องที่สามารถเก็บภาพได้ 360 องศา ไม่ต้องกังวลเรื่องมุมกล้องที่จะขาดหายไป เพราะสามารถย้อนกลับมาดูได้ทิศทาง ที่พูดถึงรุ่นนี้ก็คือ GoPro Max รุ่นใหม่ล่าสุดนั่นเอง
ทำความรู้จักกับกล้อง GoPro Max แอคชั่นแคม 360 องศา
ก่อนหน้านี้ GoPro ได้วางจำหน่าย GoPro Fusion มาแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนัก อาจจะเป็นเพราะยังใหม่อยู่ แต่สำหรับ GoPro Max แล้วมีซอฟท์แวร์ที่ช่วยตัดต่อวิดีโอ 360 องศาให้ใช้งานง่ายกว่าเดิม ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว เรามาทำความรู้จักแอคชั่นแคมรุ่นนี้กันเลยดีกว่าว่ามีอะไรแตกต่างจากกล้องแอคชั่นแคมปกติบ้าง
เซ็ตที่เราได้มาทดสอบเป็น VIP Kit ที่มาพร้อมกระเป๋าและอุปกรณ์ต่างๆ แต่สิ่งที่ไม่มีในแพ็คเก็จขายคือ ขาตั้ง Shorty และกระเป๋าที่ไม่มีมาให้ในกล่อง ต้องซื้อเพิ่ม
เริ่มจากด้านหน้าก็มีเลนส์ Wide เก็บภาพได้กว้าง 180 องศา ตัวเลนส์ค่อนข้างนูนออกมาพอสมควร อาจจะต้องระวังเวลาบางบนพื้นโต๊ะซึ่งจะทำให้เลนส์เป็นรอยได้ ดังนั้นควรจะหาที่ครอบเลนส์มาปิดไว้เมื่อไม่ใช้งาน ข้างๆ กันเป็นไมโครโฟนที่ออกแบบมาให้กันเสียงลมที่ปะทะเข้ากับไมโครโฟน ส่วนโลโก้ GoPro เป็นแบบปั๊มนูนขึ้นมาเหมือนกับ GoPro Hero 8 Black ต่างจาก Hero 7 Black ที่เพียงแค่สกรีนโลโก้เท่านั้น
ด้านหลังมีเลนส์เหมือนกับด้านหน้าที่เก็บภาพได้กว้าง 180 องศาเช่นกัน เมื่อรวมกับเลนส์ด้านหน้าก็จะเก็บภาพได้ 360 องศาพอดี หรือจะใช้เป็นกล้องเซลฟี่ตัวเองที่สามารถมองเห็นด้วยจอแสดงผลแบบสัมผัส ซึ่งเป็นจอแบบกว้างเป็นพิเศษสำหรับดูภาพจากกล้อง 180 องศา ข้างๆ ก็เป็นไมโครโฟนแบบตัดเสียงลมเช่นเดียวกัน
มาดูกันที่ด้านข้างกันบ้างที่ด้านข้างซ้ายจะพบกับโลโก้ MAX ที่สกรีนอยู่ ถัดลงมาเป็นช่องไมโครโฟน ถัดลงมาอีกเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และยังทำหน้าที่เป็นปุ่มเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพด้วย
ที่ด้านข้างขวาเป็นฝาปิดสำหรับใส่แบตเตอรี่, การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD และช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และที่ฝาปิดนี้ก็มีสลักสำหรับล็อคไม่ให้น้ำเข้าโดยสังเกตได้จากแถบสีแดง ซึ่งจะต้องเลื่อนสลักปิดให้แถบสีแดงหายไป ซึ่งจะช่วยให้เราสังเกตได้ว่าฝาปิดล็อคแน่นดีหรือยัง
ด้านบนมีปุ่มบันทึกภาพ หรือวิดีโอ ซึ่งสามารถถ่ายได้ขณะที่เครื่องปิดอยู่เพียงแค่กดลงไป 1 ครั้ง กล้องก็จะเริ่มบันทึกภาพทันที โดยขั้นตอนการเริ่มบันทึกจะใช้เวลาเพียง 1 วินาทีเท่านั้น
อีกจุดหนึ่งที่ช่วยให้เราติดตั้งกล้องให้ได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นคือด้านล่างจะมีตัวยึดกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ในตัว เพียงแค่กางออกมาก็สามารถยึดเข้ากับ Mount ต่างๆ ได้ทันที ซึ่งหากแตกหักก็สามารถเปลี่ยนได้เองโดยใช้ไขควงถอดออกมาแล้วใส่ตัวใหม่ยึดเข้าไปเท่านั้นเอง
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยแอพฯ GoPro
คนที่เคยใช้กล้อง GoPro น่าจะคุ้นเคยกับแอพฯ บนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างดี หรือหากใครยังไม่มีก็ดาวน์โหลดได้ที่ Play store ของ Android หรือ App Store ของ iOS การเชื่อมต่อก็ไม่ยาก เพียงแค่เปิดแอพฯ และเปิดกล้อง เข้าไปที่เมนูการตั้งค่าการเชื่อมต่อ แล้วเลือก GoPro App ก็สามารถเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟนได้ทันที หากมีอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่แอพฯ ก็จะแจ้งเตือนให้อัพเดท ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ไขจุดบกพร่องของกล้องให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
ภายในแอพฯ ยังสามารถใช้เป็นช่องมองภาพ และมีปุ่มชัตเตอร์เป็นรีโมทถ่ายภาพระยะไกลได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าต่างๆ หรือดาวน์โหลดภาพ คลิปวิดีโอจากหน่วยความจำกล้องมาตัดต่อบนสมาร์ทโฟน พร้อมแชร์ Social network ได้ทันที
เปิดโลกเต็มแม็กซ์ 360 องศา กับมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
สำหรับการถ่ายภาพนิ่งถือว่าทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่เลือกโหมดถ่ายภาพ แล้วเลือกถ่ายแบบ 360 องศา เสร็จแล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายได้เลย ใช้เวลาประมวลผลภาพเพียงแค่ 1-2 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังเลือกถ่ายโดยใช้กล้องหน้า หรือกล้องหลัง 180 องศาก็ได้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าต้องการถ่าย Selfie แนะนำให้เลือกกล้องหลัง เพราะเราสามารถมองเห็นตัวเองขณะถ่ายได้โดยไม่ต้องกลัวหลุดเฟรม เมื่อได้ภาพ 360 องศาแล้วเราสามารถดาวน์โหลดลงสมาร์ทโฟนเพื่อเลือกมุมที่ต้องการได้เลย สะดวก และง่ายมากๆ
จากการทดสอบถ่ายภาพนิ่งแบบ 360 องศาก็สามารถเก็บภาพได้หมดจริงๆ ภาพที่ได้มีความคมชัด สีสันสวยงาม เก็บแสงได้หมดถึงแม้ว่าจะถ่ายย้อนแสงก็ตาม ถ่ายเสร็จแล้วยังนำภาพที่ถ่ายได้มาเลือกมุมมองที่ต้องการ เสร็จแล้วจะเซฟเก็บลงเครื่องหรือแชร์ก็ได้ทันที
ส่วนการถ่ายคลิปวิดีโอยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ในโหมด 360 องศา เพราะสามารถวางกล้องตำแหน่งไหน มุมไหนก็ได้ เสร็จแล้วกดถ่ายคลิปวิดีโอได้ทันที กล้องจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวแบบ 360 องศา แต่เราแนะนำให้หันเลนส์กล้องไปยังทิศที่ต้องการถ่ายภาพจริงๆ จะกล้องหน้า หรือกล้องหลังก็ได้ เพราะหากหันข้างเรายังจะคงเห็นรอยต่อของภาพจากเลนส์ทั้งสอง ซึ่งอาจจะทำให้ภาพดูไม่ต่อเนื่องกัน
การถ่ายวิดีโอ 360 องศาจะทำให้ขนาดไฟล์ค่อนข้างใหญ่ เพราะมีความละเอียดถึง 5.6k แนะนำให้ใช้หน่วยความจำขนาด 32 GB ขึ้นไป และควรจะใช้การ์ดที่มีความเร็วสูงที่เขียนแนะนำว่าใช้งานได้กับกล้องความละเอียด 4K เพื่อป้องกันข้อมูลที่จะเขียนบนการ์ดไม่ทัน อาจจะทำให้พลาดช็อตสำคัญได้
ส่วนการตัดต่อก็ทำได้ไม่ยาก เราสามารถกำหนดจุดให้แสดงภาพในมุมที่ต้องการได้ หรือจะหมุนภาพไปยังมุมไหนก็ได้โดยการกำหนดจุด เสร็จเรียบร้อยอาจจะใช้เวลา Render ภาพสักระยะหนึ่ง เมื่อได้คลิปวิดีโอออกมาแล้วจะเห็นความนิ่งของภาพ การหมุนมุมกล้องที่ทำได้สมูท คลิปวิดีโอเรียบเนียนไม่มีที่ติ เสมือนมีคนมาถ่ายภาพให้เราในมุมต่างๆ และยังได้ภาพที่แปลกตาไม่เหมือนใครด้วย
ตัวอย่างคลิปวิดีโอทดสอบกล้อง GoPro Max
บทสรุปกล้อง GoPro Max จากความคิดเห็นของ What Phone
บอกตามตรงว่าเมื่อได้รับกล้อง GoProMax มาแล้วจะรีวิวยังไง จะนำเสนอภาพ หรือคลิปวิดีโอแบบ 360 ยังไง เพราะเกรงว่าการใช้งาน และตัดต่อจะยุ่งยาก แต่เมื่อได้สัมผัสและลองใช้งานจริงพบว่าใช้งานง่ายกว่าที่คิด แถมยังตัดต่อ เลือกมุมกล้องเองได้ง่ายมากๆ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานผู้พัฒนาทั้ง Hardware และ Software จริงๆ ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากๆ แถมยังได้มุมกล้องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บอกได้เลยว่าไม่เหมือน ส่วนใครที่เล็งกล้อง GoPro รุ่นใหม่แล้วงบถึงแนะนำ GoProMax เลย เพราะรุ่นนี้สามารถเลือกถ่ายวิดีโอได้เหมือนกับ GoPro Hero 8 Black ด้วยกล้องหน้า หรือกล้องหลังเพียงตัวเดียว หรือหากจะถ่ายภาพ 360 องศาก็ปรับใช้งานได้ทันทีไม่ยุ่งยาก ส่วนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 17,000 บาท ใครที่อยากได้คลิปวิดีโอแอ็คชั่นมุมมองเท่ๆ บอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน