Review

รีวิว HONOR 400 Series สมาร์ทโฟนแฟลคชิปในราคาเริ่มต้น จัดเต็ม Advance AI กว่า 40 ฟีเจอร์ และกล้อง 200 MP

HONOR 400 Series ที่เรานำมารีวิวก็มีย่อยออกมาเป็น 3 รุ่น แต่เราจะขอหยิบเอา 2 รุ่นคือ HONOR 400 Pro และ HONOR 400 มารีวิวให้ได้ชมกันครับ

หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อกลางเดือน มิย.ที่ผ่านมา HONOR 400 Series ก็ประสบความสำเร็จยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 2.6 เท่าจากรุ่นก่อน เรียกได้ว่าแบรนด์ HONOR รุกตลาดไทยอย่างจริงจังด้วยสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่สานต่อจากรุ่นก่อน สำหรับคราวนี้ HONOR 400 Series ที่เรานำมารีวิวก็มีย่อยออกมาเป็น 3 รุ่น แต่เราจะขอหยิบเอา 2 รุ่นคือ HONOR 400 Pro และ HONOR 400 มารีวิวให้ได้ชมกัน จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอะไรบ้างนั้น เรามาแกะกล่องดูกันเลย

HONOR 400 Pro

แกะกล่องลองเล่น HONOR 400 Pro

  • HONOR 400 Pro สี Midnight Black
  • สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
  • เคสซิลิโคนใส
  • ฟิล์มกันรอย (ติดจากโรงงาน)
  • อแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 100 วัตต์
  • คู่มือการใช้งาน
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

HONOR 400 Pro

HONOR 400 Pro

แกะกล่องลองเล่น HONOR 400

  • HONOR 400 Pro สี Desert Gold
  • สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
  • เคสซิลิโคนใส
  • ฟิล์มกันรอย (ติดจากโรงงาน)
  • อแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 100 วัตต์ (ตัวเครื่องรองรับ 80 วัตต์)
  • คู่มือการใช้งาน
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

อุปกรณ์ในกล่องของทั้ง 2 รุ่นจะเห็นว่ามีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเคสใส สายชาร์จ อแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 100 วัตต์ก็มีมาให้ครบ ไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมแล้ว 

HONOR 400 Series – ดีไซน์โดดเด่น เรียบหรู  และคลาสสิค

HONOR 400 Series ที่เราได้มาทดสอบถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นชวนมองในดีไซน์เรียบหรู พร้อมให้เลือกใน 3 เฉดสีสุดคลาสสิกที่สะท้อนบุคลิกหลากหลาย ได้แก่ Midnight Black และ Desert Gold โดยในรุ่น HONOR 400 Pro โครงสร้างแบบ Multi-Angle หน้าจอดีไซน์แบบขอบโค้งเข้ากับขอบของตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์ขอบ HONOR 400 เป็นแบบเหลี่ยมแบน ทำให้จับถนัดมือมากยิ่งขึ้น 

HONOR 400 Pro

หน้าจอถนอมสายตา HONOR Eye Comfort Display

จอแสดงผลในรุ่น Pro มีขนาดใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว ส่วนในรุ่น 400 มีหน้าจอที่เล็กกว่าที่ 6.55 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่นใช้จอแสดงผลแบบ AMOLED และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือซ่อนอยู่ใต้จอแสดงผล สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอถนอมสายตา HONOR Eye Comfort Display เทคโนโลยี Dimming 3840Hz ลดการกะพริบของหน้าจอเพื่อลดอาการตาล้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าระดับฮาร์ดแวร์ (Hardware-level Low Blue Light) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้อย่างดี  และยังมีเทคโนโลยี Super Rainproof Touch สามารถใช้งานหน้าจอได้แม้ในสภาพเปียกชื้นอย่างเช่นฝนตก หรือมือเปียกจากการล้างมือ นอกจากนี้ HONOR ยังเพิ่มฟีเจอร์ Motion Sickness Relief เพื่อลดอาการเมารถ คลื่นไส้ และไม่สบายตาขณะใช้งานขณะนั่งรถอีกด้วย

HONOR 400 Pro

HONOR 400 Pro

รอบตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่นถูกจัดวางปุ่มกดและอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งเดียวกัน โดยที่ด้านบนมีพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ผ่านแอปฯ พร้อมลำโพงแบบสเตอริโอทั้งด้านบน และด้านล่าง มีปุ่มเปิดปิดเครื่อง ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ด้านข้างขวา ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบประกบบนล่าง, มีพอร์ต USB-C ชาร์จแบตเตอรี่ และช่องลำโพงสเตอริโอ

HONOR 400 Pro

เลนส์กล้องของ 2 รุ่นนี้มีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยในรุ่น 400 Pro มีกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์ ส่วนรุ่น 400 มีมาให้เพียง 2 เลนส์

HONOR 400 Pro

กล้องหลัก 200 MP พร้อมระบบ Ultra-clear Advance AI Camera

ในด้านการถ่ายภาพของ HONOR 400 Pro มาพร้อมระบบกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล Ultra-clear Advance AI Camera System ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI ในด้านการถ่ายภาพ ขนาดเซ็นเซอร์ถ่ายภาพขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้ว รูรับแสง f/1.9 และระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่ OIS + EIS ถ่ายภาพได้คมชัดในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ยังมีกล้อง Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX856 ซูมออปติคอล 3x และมี OIS ป้องกันภาพสั่นไหวในการถ่ายภาพระยะไกล และกล้อง Ultra-Wide & Macro ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับภาพมุมกว้าง 112 องศา ส่วน และกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 

HONOR 400 Pro

HONOR 400 Pro

กล้องหลักของ HONOR 400 ก็มีความละเอียดสูงไม่แพ้กันที่ 200 ล้านพิกเซล Ultra-clear Advance AI Camera ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.4 นิ้ว f/1.9 พร้อมระบบกันสั่น OIS + EIS และกล้อง Ultra-Wide & Macro ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า Portrait Selfie 50MP 

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดต่างๆ ของ HONOR 400 Series

Harcourt Portrait Mode – เป็นโหมดการถ่ายภาพที่ส่งต่อจากรุ่นก่อนอย่าง HONOR 200 Series เป็นการถ่ายภาพบุคคลในแบบคุณภาพสตูดิโอ Harcourt ด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ที่นุ่มนวล และการจัดแสง-เงาระดับมืออาชีพ โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ถึง 3 แบบ

  • Harcourt Vibrant สำหรับภาพที่มีรายละเอียดสมจริงและมีชีวิตชีวา

  • Harcourt Color โทนสีที่โดดเด่นอย่างมีศิลป์

  • Harcourt Classic ภาพขาวดำสุดคลาสสิกเหนือกาลเวลา

Creative Advance AI Editing ที่ให้มามากกว่า 40 AI 

Advance AI Eraser

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างง่ายดาย เช่น คนอื่นๆ ที่ติดมาในภาพ สิ่งของ หรือฉากหลังที่รก โดยระบบจะเติมพื้นที่ที่ถูกลบออกไปให้กลมกลืนกับฉากรอบข้างได้อย่างแนบเนียน เพื่อให้ได้ภาพที่สะอาดและดูเป็นธรรมชาติ

Advance AI Erase Passers-by

ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับภาพที่มีผู้คนอยู่ในฉากหลัง โดยระบบจะจดจำตัวแบบหลักและผู้คนที่เดินผ่านรอบข้าง จากนั้นผู้ใช้สามารถลบคนที่ไม่ต้องการออกได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

Advance AI Remove Reflection

ฟีเจอร์นี้ช่วยลบแสงสะท้อนหรือเงาจากพื้นผิวต่าง ๆ เช่น กระจกหรือแฟลช ทำให้ภาพดูคมชัดและสวยงามยิ่งขึ้น

Advance AI Image to Video

ฟีเจอร์ Advance AI Image to Video โดยใช้โมเดล Veo AI ที่พัฒนาร่วมกับ Google เป็นการสร้างวิดีโอที่สมจริง ด้วยการตีความคำสั่งของผู้ใช้ และถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านวิดีโอได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟีเจอร์นี้จะทำออกมาเป็นไฟล์วิดีโอในรูปแบบ MP4 ในอัตราส่วน 16:9 หรือ 9:16 โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 1 นาทีต่อวิดีโอ 5 วินาที โดยในช่วงแรกจะจำกัดให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอได้วันละ 10 ครั้ง

Advance AI Face Tune

แก้ไขภาพถ่ายดวงตาที่ปิดอยู่โดยอัตโนมัติ ทั้งในภาพบุคคลเดี่ยวหรือภาพกลุ่ม ฟีเจอร์นี้รองรับทั้งภาพนิ่งและ Live Photo โดยใช้ข้อมูลจากคลังภาพของผู้ใช้ เช่น ภาพถ่ายต่อเนื่อง (Burst Shot) หรือภาพในกลุ่มเดียวกัน หากตรวจพบว่าดวงตาหลับ Advance AI จะใช้เทคโนโลยี AIGC สร้างภาพที่เหมือนเปิดตาอย่างสมจริง โดยอ้างอิงจากภาพที่ใกล้เคียงที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม

Advance AI Upscale
ฟีเจอร์นี้ช่วยปรังปรุงภาพเก่าหรือภาพความละเอียดต่ำให้กลับมาคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้นได้ในคลิกเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงภาพถ่ายวินเทจ ภาพที่ถูกครอป หรือซูมเข้ามากเกินไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยคืนชีวิตให้กับภาพความทรงจำที่มีคุณค่าให้กลับมามีความคมชัด และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

Advance AI Cutout & Advance AI Cutout 2.0

หากต้องการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของภาพก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยได้ โดยผู้ใช้สามารถเลือกและย้ายวัตถุในภาพได้อย่างอิสระ โดยระบบจะเติมพื้นที่ที่ถูกย้ายออกให้อัตโนมัติ เพื่อให้ดูสมจริงราวกับว่าวัตถุนั้นไม่เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน เหมาะสำหรับการจัดวางองค์ประกอบภาพใหม่หรือปรับปรุงภาพให้ลงตัวมากขึ้น

Advance AI Outpainting

ฟีเจอร์นี้ช่วยขยายขอบของภาพถ่ายออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการต่อเติมทิวทัศน์ ฉากหลัง หรือภาพที่ถูกครอปมาก่อน โดยยังคงความสมจริงและกลมกลืนกับภาพต้นฉบับอย่างแนบเนียน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มลูกเล่นให้ภาพวิว โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย หรือใช้ในการจัดองค์ประกอบภาพเชิงสร้างสรรค์ AI จะเติมรายละเอียดใหม่ให้สอดคล้องกับภาพเดิมเพื่อให้ได้ผลงานที่สวยงามและสมจริงยิ่งขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายอื่นๆ

 

HONOR 400 Pro

แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุสูง 6000mAh ชาร์จเร็วด้วย HONOR SuperCharge 100W

แบตเตอรี่แบบซิลิคอนคาร์บอนความจุสูงถึง 6000mAh สามารถใช้งานได้ยาวๆ ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 100 วัตต์ที่มีมาให้ในกล่อง โดยในรุ่น 400 Pro จะรองรับ 100 วัตต์เต็มๆ พร้อมรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 50 วัตต์ด้วยแท่นชาร์จ HONOR Wireless SuperCharge ส่วนในรุ่น 400 จะรองรับ 80 วัตต์

จากการทดสอบชาร์จเร็ว 100 วัตต์ด้วย HONOR 400 Pro จากแบตเตอรี่ 2% เพียง 10 นาทีก็ไปถึง 30% หรือเพียง 15 นาทีก็ไปถึง 50% แล้ว และสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง หากตื่นมาลืมชาร์จแบตเตอรี่ เสียบชาร์จแล้วไปอาบน้ำ แต่งตัวก็มีพลังงานใช้เพียงพอทั้งวันแล้ว

HONOR 400 Pro

แรงระดับแฟลกชิปด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 กับคะแนน Antutu 1.8 ล้าน

หน่วยประมวลผลของ HONOR 400 Series ทั้ง 2 รุ่นจะใช้หน่วยประมวลผลต่างกันเล็กน้อย โดยในรุ่น 400 Pro ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.0 GHz พ่วงด้วยชิปประมวลผลภาพ 3D Adreno 750 หน่วยความจำ RAM 12+12 GB และ ROM ขนาดใหญ่ 512GB ส่วนรุ่น 400 ใช้ชิปประมวลผลที่รองลงมาอย่าง Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.6 GHz พ่วงด้วยชิปประมวลผลภาพ 3D Adreno 722 หน่วยความจำ RAM 12+12 GB และ ROM ขนาดใหญ่ 256GB ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 15 

HONOR 400 Pro

การทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลเราได้ทำการทดสอบด้วยแอปฯ Antutu เวอร์ชั่น 10.5.1 ซึ่งเป็นแอปฯ ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำ ผลการทดสอบของทั้ง 2 รุ่นต่างกันพอสมควรจากหน่วยประมวลผลที่ใช้ชิพเซ็ตคนละรุ่นกัน โดยในรุ่น 400 Pro ที่ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 สามารถทำคะแนนได้ที่ 1,861,973 คะแนน เทียบชั้นสมาร์ทโฟนแฟลกชิปได้เลย

HONOR 400 Pro

และในรุ่น 400 ที่ใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 7 Gen 3 ทำได้ 856,632 คะแนน ถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ทำคะแนนได้ดีทีเดียว

Advance AI Translation

HONOR 400 Series ขับเคลื่อนด้วยพลัง Advance AI ช่วยให้ผู้ใช้ก้าวข้ามขีดจำกัดของภาษาด้วย Advance AI Translation ที่รองรับหลายภาษาและแปลได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Advance AI Translation Interpreter (โหมดแปลพร้อมกัน), Advance AI Translation Face to face (โหมดแปลแบบเผชิญหน้า), และ Advance AI Subtitles (ใส่ซับไตเติลแอดวานซ์)

HONOR 400 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ Advance AI Live Translation ที่ขับเคลื่อนด้วย HONOR On-device Call Translation Large Model ประมวลผลทุกอย่างภายในตัวเครื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและรักษาความลับในการสนทนาอย่างสูงสุด สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทรศัพท์กับผู้ที่ใช้ภาษาต่างกัน โดยต้องมีเพียงฝั่งเดียวเท่านั้นที่ใช้สมาร์ทโฟน HONOR ด้วยประสิทธิภาพสูงและเวลาแปลแบบ end-to-end เพียงประมาณ 1.7 วินาที มอบประสบการณ์การสื่อสารที่ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และไร้ข้อจำกัดเรื่องภาษาทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน AI ของ Google ด้วยแอปฯ Gemini ได้อีกด้วp

บทสรุป HONOR 400 Series ในความเห็นของ What Phone

HONOR 400 Series ทั้ง 2 รุ่นเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเริ่มต้น Design Premium ที่มาเปิดประสบการณ์การถ่ายภาพแบบแอดวานซ์ด้วยกล้อง 200MP Ultra-clear และ Creative Advance AI Editing มากกว่า 40 ฟีเจอร์ และฟีเจอร์ AI ที่ต้องลองคือ AI Image to VDO เปลี่ยนภาพนิ่งให้เป็นวิดีโอ ช่วยทั้งเรื่องการถ่ายภาพและปรับแต่งภาพถ่าย การสร้างคอนเทนท์ ไปจนถึงการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอให้สนุกมากขึ้น และยังไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เพราะใช้แบตเตอรี่แบบซิลิคอนคาร์บอน ความจุถึง 6000mAh เทคโนโลยีชาร์จเร็ว HONOR SuperCharge 100W และ 80W ชาร์จเร็วมากๆ ใช้งานได้ทั้งวันเล่นเกม ถ่ายรูป ใช้งาน AI ก็ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการมือถือแรงๆ ได้อย่างดี พร้อมสเปกจัดเต็มคุ้มค่าโดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินแพงจนเกินไป ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเลยทีเดียว

HONOR 400 Pro

สรุปสเป็ค HONOR 400 Pro

HONOR 400 Pro

  • ขนาด 160.8 x 76.1 x 8.1 มม. น้ำหนัก 205 กรัม
  • รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบ
  • หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 2800 พิกเซล แสดงผล 1 พันล้านสี, DCI-P3 Wide Color Gamut
  • ความสว่าง 5000 nits, Refresh rate 120 Hz, PWM Dimming 3840 Hz
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 Octa-core ความเร็ว 3.0 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 750
  • ระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 บนพื้นฐาน Android 15
  • หน่วยความจำ RAM 12+12 GB, ROM 512 GB
  • ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • กล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • เลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 ระบบกันสั่น OIS+EIS
    • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 3x ออฟติคอลซูม รูรับแสงกว้าง f/2.4
    • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 60 เฟรมต่อวินาที
  • แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุ 6000 mAh
  • ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 100 วัตต์ 
  • รองรับการชาร์จไร้สายด้วยแท่นชาร์จ HONOR SuperCharge Wireless 50 วัตต์
  • ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
  • การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax/be, 2×2 MIMO ความถี่ 2.4GHz, 5GHz, 6GHz Bluetooth 5.4
  • มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Lunar Grey และสี Tidal Blue (อาจจะเข้าไทย)
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 และ IP69
  • ราคาเปิดตัว 19,990 บาท

สรุปสเป็ค HONOR 400

  • ขนาด 156.5 x 74.6 x 7.3 มม. น้ำหนัก 184 กรัม
  • รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบ
  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด 1264 x 2736 พิกเซล แสดงผล 1 พันล้านสี, DCI-P3 Wide Color Gamut
  • ความสว่าง 5000 nits, Refresh rate 120 Hz, PWM Dimming 3840 Hz
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 Octa-core ความเร็ว 3.0 GHz
  • หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 722
  • ระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 บนพื้นฐาน Android 15
  • หน่วยความจำ RAM 12+12 GB, ROM 256, 512 GB
  • ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • กล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • เลนส์ Wide ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 ระบบกันสั่น OIS+EIS
    • เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30 เฟรมต่อวินาที
  • แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุ 6000 mAh
  • ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ HONOR SuperCharge 80 วัตต์ 
  • ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
  • การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax/be, 2×2 MIMO ความถี่ 2.4GHz, 5GHz, Bluetooth 5.4
  • มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Desert Gold และสี Tidal Blue (อาจจะเข้าไทย)
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP66
  • ราคาเปิดตัว
    • หน่วยความจำ 256GB ราคา 12,990 บาท
    • หน่วยความจำ 512GB ราคา 14,990 บาท

 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save