Huawei ยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่องกับแท็บเล็ตราคาประหยัดในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายๆ และอย่าง Huawei MatePad รุ่นนี้ กับราคาเกือบหนึ่งหมื่นบาท แต่ได้หน้าจอความละเอียดสูงที่แสดงผลได้สวยงาม หน้าจอขนาดใหญ่ แบตเตอรี่ความจุมหาศาล สามารถใช้งานได้ทั้งวัน มาดูกันว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้มีดีอย่างไร
แกะกล่องลองเล่น Huawei MatePad
แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกล่องสีขาวสะอาดตา มีขนาดค่อนข้างใหญ่ตามขนาดของหน้าจอ 10.4 นิ้ว เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- แท็บเล็ต Huawei MatePad สี Midnight Grey
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- อแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เป็นช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 มม.
- เข็มจิ้มถาดใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD
- คู่มือการใช้งาน
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของรุ่นนี้มีอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟเพียง 10 วัตต์ การชาร์จแบตเตอรี่อาจจะทำให้แบตเต็มช้าไปหน่อยแต่ก็ต้องทำใจ แต่ก็แก้ปัญหาได้โดยการชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน ตื่นเช้าขึ้นมาแบตเตอรี่ก็เต็มพอดี ภายในกล่องยังมีสาย หรืออแดปเตอร์แปลงพอร์ต USB-C เป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟังที่ใช้แจ็คมาตรฐาน 3.5 มม. เอาไว้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่ในกล่องไม่ได้แถมชุดหูฟังมาให้ด้วย เชื่อว่าผู้ใช้งานน่าจะมีชุดหูฟังเอาประจำตัวเอาไว้ฟังเพลงอยู่แล้ว หรืออาจจะหาซื้อหูฟังแบบบลูทูธก็น่าจะสะดวกกว่า ซึ่งในปัจจุบันก็มีราคาไม่แพงแล้ว
MatePad รุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบแบบ IPS ความละเอียด 2K (2000 x 1200 พิกเซล) สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน หน้าจอยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา M-pencil ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่จะต้องซื้อเพิ่ม ซึ่งตัวปากกาสามารถนำมาวาดเขียน หรือนำมาจดบันทึกได้สะดวกกว่าเดิม นอกจากนี้หากวางเครื่องในแนวนอนก็จะเห็นกล้องดิจิตอลสำหรับ Video call หรือเซลฟี่อยู่ตรงกลางเหนือหน้าจอแสดงผล
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นออกแบบมาอย่างเรียบๆ เป็นสี Midnight Grey มีโลโก้ Huawei โดดเด่นอยู่ตรงกลาง ด้านล่างยังมีโลโก้ harman kardon บ่งบอกถึงระบบเสียงที่ปรับจูนโดยเจ้านี้ ส่วนเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลของรุ่นนี้มีมาให้ 2 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในกรอบที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย
ด้านข้างซ้ายมีปุ่มเปิดปิดเครื่องพร้อมลำโพงฝั่งซ้ายที่มีมาให้ 2 ตัว เช่นเดียวกับด้านข้างขวา รวมเป็นทั้งหมด 4 ตัว ที่ด้านข้างขวายังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างเช่นตัวแปลงแจ็คหูฟังจขนาด 3.5 มม. ที่มีมาให้ในกล่อง
ที่ด้านบนมีรูเล็กๆ 4 รูเป็นไมโครโฟนรับเสียงสำหรับใช้งานต่างๆ ซึ่งจะช่วยตัดเสียงรบกวนได้อีกด้วย ส่วนด้านล่างมีเพียงช่องใส่ถาดการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ตัวถาดจะมีเพียงช่องเดียว ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดได้
Huawei MatePad ครบเครื่อง เรื่องแท็บเล็ต
สำหรับการใช้งาน MatePad รุ่นนี้ถือว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้อย่างครบครัน โดยอาศัยการทำงานผ่าน EMUI 10.1 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 10 รูปแบบการใช้งานก็สามารถใช้ได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนเพียงแค่เอียงเครื่องในแนวที่ต้องการ ในด้านการใช้งานพื้นฐานหลักๆ ก็สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้จาก Huawei AppGallery โดยในปัจจุบันก็มีแอพฯ ต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย โดยเฉพาะแอพฯ แชทอย่าง Line ก็มีให้ดาวน์โหลดแล้ว หรือจะเป็นแอพฯ การเงิน การธนาคารก็มาครบถ้วน สามารถเลือกดาวน์โหลดได้เลย หรือจะเป็นแอพฯ แผนที่ก็มี Here maps ที่สามารถใช้แทน Google maps ได้ จะดูหนัง ดูทีวีก็มีแอพฯ Line TV มาให้ได้ชมกันแล้ว เรียกได้ว่าตอนนี้แทบจะไม่ต้องพึ่ง GMS หรือ Google Play Store เลยก็ว่าได้ แต่หากต้องการใช้งาน Google จริงๆ ก็มีวิธีการติดตั้งซึ่งสามารถ Search ดูจากอินเตอร์เน็ตได้เลย
จอแสดงผลของรุ่นนี้ได้รับการรองรับจาก TÜV Rheinland ในเรื่องของระบบตัดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาเมื่อต้องใช้งานนานๆ หรือหากต้องการอ่านข้อความ หรือหนังสือ eBook ก็สามารถเลือกปรับเป็น eBook mode หน้าจอจะปรับเป็นสีขาวดำ และปรับหน้าจอเป็นโทนสีเหลือง ทำให้ดูเหมือนหน้ากระดาษจริงๆ สามารถอ่านข้อความต่างๆ ได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ทำให้เมื่อยล้าสายตา นอกจากนี้ยังมีโหมด Eye comfort ที่จะช่วยปรับลดแสงสีฟ้าลง แต่ยังคงเห็นสีสันของภาพอยู่ ในโหมดนี้สามารถตั้งเวลาทำงานได้ เหมาะกับการใช้งานตอนกลางคืน หรือก่อนนอน
เปรียบเทียบจอแสดงผลแบบปกติกับ eBook mode
หากต้องการนำไปใช้วาดภาพ จดบันทึก หรือใช้ในการเรียนก็สามารถซื้อ M-pencil เพิ่มเติมได้ โดยตัวปากการองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ ทำให้วาดภาพเส้นหนา เส้นบางได้เหมือนกับปากกาจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้รับ M-pencil มาทดสอบด้วย
การใช้งานสำหรับเด็กๆ ก็มีแอพฯ Kids Corner ที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลา กำหนดระยะเวลาเล่นในแต่ละวัน กำหนดได้ สามารถปรับลดแสงสีฟ้าของหน้าจอได้ผ่านฟีเจอร์ Blue light filter, เลือกแอพฯ ที่จะให้เด็กๆ เล่นได้ ฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองแล้ว ยังช่วยกำหนดระยะเวลไม่ให้เด็กๆ เล่นนานเกินไปด้วย
ผสานการทำงานสมาร์ทโฟน บนหน้าจอแท็บเล็ตเป็นหนึ่งเดียวด้วย Huawei Share
ด้วยฟีเจอร์ Multi-Screen Collaboration ที่สามารถใช้งานสมาร์ทโฟน Huawei บนหน้าจอ MatePad ได้บนหน้าจอเดียว จึงไม่ต้องหยิบโทรสมาร์ทโฟนสลับไปสลับมาให้วุ่นวาย แต่การใช้งานก็มีเงื่อนไขอย่างเช่นต้องเป็นสมาร์ทโฟน Huawei บางรุ่นที่ใช้ EMUI เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไป อย่างเช่น Huawei P Series หรือ Mate Series จากการทดสอบใช้กับ Huawei Mate 30 Pro ก็เพียงแค่เปิดฟีเจอร์นี้บน MatePad หน้าจอ Mate 30 Pro ก็จะมี Pop up แจ้งเตือนให้เชื่อมต่อกัน เพียงแค่นี้หน้าจอ Mate 30 Pro ก็จะอยู่บน MatePad ให้ใช้งาน สามารถเปิดข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์ได้ อย่างเช่นเปิดดูข้อความ แชท ดูรูป ไฟล์วิดีโอต่างๆ ได้เลย สะดวกสบายมากๆ
เชื่อมต่อ WiFi ประสิทธิภาพการใช้งานเต็มเปี่ยม
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของรุ่นนี้จำเป็นจะต้องเชื่อมต่อผ่าน WiFi เท่านั้น เพราะตัวเครื่องไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย เหมาะกับการใช้งานที่บ้าน ที่ทำงาน แต่หากนำไปใช้งานนอกสถานที่ก็อาจจะใช้สมาร์ทโฟนปล่อย WiFi Hot spot ก็ใช้งานได้เช่นกัน สำหรับหน่วยประมวลผลของรุ่นนี้ใช้ชิพเซ็ต Kirin 810 Octa-core ความเร็ว 2.27 GHz หน่วยความจำ RAM 4 GB และ ROM 64 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 512 GB
สำหรับการเล่นเกมก็มีชิพประมวลผลภาพ 3D Mali-G52 พร้อมรองรับ GPU Turbo ที่ช่วยเร่งความเร็วในการประมวลผลภาพ 3D จากการทดสอบเล่นเกม Free Fire และเกม Asphalt 9 : Legends ภาพกราฟฟิคถือว่าลื่นไหล ภาพสีสันสวยงาม เล่นได้ไม่มีอาการกระตุกให้เสียอารมณ์
และสุดท้ายกับการทดสอบความแรงของหน่วยประมวลผลด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดีที่ 280876 คะแนน ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ด้วยคะแนนระดับนี้รองรับการใช้งานได้ทุกแบบ ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป
ถ่ายภาพคมชัดด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
การถ่ายภาพของกล้องหลังก็มีมาให้ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งความละเอียดเท่านี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพเพื่อนำไปใช้งานต่างๆ สำหรับการถ่ายภาพก็มีโหมดต่างๆ ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบ Panorama, Time-lapse, Light painting, Beauty หรือแบบ Pro ที่สามารถค่า White Balance, สปีดชัตเตอร์, ค่า ISO ฯลฯ ซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุด 6 เท่า นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ที่จะรู้ว่ากำลังถ่ายอะไรอยู่ อย่างเช่นอาหาร สัตว์เลี้ยง ท้องฟ้า อาคาร ซึ่งระบบ AI นี้จะช่วยปรับสีสัน ปรับแสงสว่างให้กับภาพโดยอัตโนมัติ สามารถถ่ายวิดีได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลก็มีโหมด Beauty ให้ถ่ายภาพด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังนำไปใช้งานอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ หรือประชุมออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ยาวนาน
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,250 mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน แต่การชาร์จแบตเตอรี่ของรุ่นนี้อาจจะต้องรอนานสักหน่อย เพราะในกล่องจะให้อแดปเตอร์กำลังไฟ 10 วัตต์เท่านั้น แต่จากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอแดปเตอร์ Super Charge ของ Huawei Mate 30 Pro ก็รองรับการชาร์จเร็วได้ด้วยกำลังไฟ 18 วัตต์ ซึ่งหากใช้งานหนักๆ อย่างเช่นเล่นเกมบ่อยๆ หรือเรียนออนไลน์ทั้งวันก็อาจจะต้องชาร์จไปด้วยใช้งานไปด้วย แต่จากการใช้งานทั่วไป ดูหนัง เล่นเกมบ้างก็อยู่ได้ทั้งวันอยู่แล้ว
บทสรุป Huawei MatePad จากความเห็นของ What Phone
จากการใช้งานจริงเมื่อไม่มี Google mobile service ก็อาจจะมีติดขัดบ้าง อย่างเช่นการเล่น Facebook, YouTube ก็อาศัยการเล่นผ่าน Browser ได้ โดยแอพฯ หลักๆ ที่คนไทยใช้กันบ่อยๆ ก็มีมาให้ค่อนข้างครบครัน สำหรับการใช้งานอื่นๆ รุ่นนี้ก็ได้น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ความรวดเร็วในการใช้งาน หน้าจอความละเอียดสูงสีสันสวยงาม ระบบเสียง 4 ลำโพง 4 ไมโครโฟนก็ทำได้ดี ให้เสียงมีมิติแยกซ้ายขวาชัดเจน ส่วนอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อย่าง M-pencil หรืออแดปเตอร์ชาร์จเร็วก็อาจจะต้องซื้อเพิ่มเพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก เหมาะสำหรับใช้งานที่บ้าน ที่ทำงาน แท็บเล็ต MatePad รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วนเลยล่ะ
สรุปสเป็ค Huawei MatePad
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi มาตรฐาน IEEE 802.11a/b/g/n/ac, 2.4 GHz and 5 GHz
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล
- รองรับ M-pencil (อุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อเพิ่ม)
- กล้องหน้า 8 MP Selfie Camera
- กล้องหลัง 8 MP
- หน่วยประมวลผล Kirin 810 Octa-core (2 x Cortex-A76 2.27 GHz + 6 x Cortex-A55 1.88 GHz), GPU Mali-G52
- หน่วยความจำ 4 GB RAM + 64 GB ROM
- รองรับ microCard สูงสุด 512 GB
- EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10
- ไมโครโฟน 4 ตัว และลำโพง 4 ตัวรอบเครื่อง
- แบตเตอรี่ 7250 mAh รองรับการชาร์จ 18 วัตต์ (อแดปเตอร์ในกล่อง 10 วัตต์)
- สี Midnight Grey
- ราคา 9,990 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
เตรียมพบกับงาน THAILAND MOBILE EXPO 2020 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
2-5 กรกฎาคม 2563 ไบเทคบางนา เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา
