ซุปเปอร์คาเมร่าโฟนรุ่นล่าสุดจากหัวเว่ย Huawei P30 Pro ที่คราวนี้กลับมาพร้อมกับพลังกล้องภาพนิ่งและวิดีโอสูงสุดจาก DxOMark ถึง 112 คะแนนในตอนนี้ ด้วยกล้องหลัง LEICA Quad Camera สามารถซูมได้ถึง 10x Hybrid Zoom ไม่สูญเสียรายละเอิียดของภาพ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต่างๆ ของรุ่นนี้ให้ดีและสมบูรณ์ขึ้นจากรุ่นก่อนไปอีก และ P30 Pro รุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ
ดีไซน์สวย กระจกโค้งหน้าหลัง
สำหรับ P30 Pro รุ่นนี้มีดีไซน์กระจกขอบจอโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีหน้าจอ Curved OLED Display ขนาด 6.47 นิ้ว ติ่งแบบหยดน้ำ (Notch Less) ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล FHD+ อัตราส่วน 19.5:9 รองรับมาตรฐานการแสดงผลแบบ HDR10 แถบ Navigation Bar สามารถเลือกใช้งานได้ 3 รูปแบบ โดยเป็นแถบบาร์ 2 แบบ และแบบ Gestures ตัวเครื่องยังกันน้ำ กันฝุ่นมาตรฐาน IP68 หมดกังวลเรื่องทำน้ำหกใส่
แบบ Gestures นี้เลือกใช้งานเพื่อแสดงผลหน้าจอได้เต็มที่มากขึ้น การใช้งานก็สุดสะดวก เพียงแค่ปัดขึ้นเพื่อกลับหน้าโฮม, ปัดจากด้านข้างเพื่อย้อนกลับ ใช้งานมือเดียวได้สะดวกมากๆ รวมถึงผู้ใช้งานที่ย้ายมาจาก iPhone รุ่นใหม่ ก็ไม่ต้องปรับตัวมากเช่นกัน
ระบบสแกนนิ้วมือจะฝังอยู่ในหน้าจอ เมื่อยกมือถือขึ้นมาจะมีรูปรอยนิ้วมือแสดงผลขึ้นมาทำให้เราเห็นและใช้นิ้วแตะเพื่อทำการสแกนนิ้วปลดล็อคการใช้งานเครื่องได้ทันที ส่วนการสแกนและปลดล็อคทำได้รวดเร็ว
ยังคงพอร์ต USB-C, อินฟาเรด และไม่มีช่องหูฟัง 3.5 ม.ม.
ยังคงใช้พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูลต่างๆ เป็นหลัก และยังไม่มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ขณะที่แบรนด์อื่นๆ เริ่มนำกลับมาใช้แล้ว อย่างไรก็ตามภายในกล่องมีแถมหูฟังพอร์ต USB-C มาให้ใช้งานด้วย แต่ถ้าใครอยากใช้หูฟังเดิมๆ ก็ต้องหาตัวแปลงมาใช้งานเพิ่มเติมเอา รอบๆ พอร์ต จะมีถาดซิมการ์ดจะมีช่องใส่หน่วยความจำแบบ Nano Memory Card รองรับสูงสุดที่ 512 GB, รูไมโครโฟนสนทนา และลำโพงสปีกเกอร์
ด้านบนมีอินฟาเรดสำหรับใช้งานกับแอพ Smart Remote เพื่อเพิ่มรีโมทควบคุมทีวี, แอร์, กล้อง, โปรเจคเตอร์ ฯลฯ ที่เราสามารถเพิ่มแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้เพื่อใช้งานเองได้ และถัดมามีรูไมโครโฟนสำหรับบันทึกวิดีโอและตัดเสียงรบกวนต่างๆ
ปุ่มใช้งานต่างๆ จะอยู่ทางขวามือ โดยมีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา และปุ่ม Power วางอยู่
กล้องหน้าเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล ไร้ลำโพงสนทนา
ด้วยการปรับดีไซน์มาใช้แบบ Notch Less ใส่กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมลูกเล่นสำหรับการเซลฟี่ต่างๆ มาให้ ไม่ว่าจะเป็นบิวตี้โหมด, โหมดถ่ายภาพบุคคล ฯลฯ และมีเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่ภายใน สามารถใช้งานปลดล็อคด้วยได้หน้าได้ และมีการตัดลำโพงสนทนาออกเพื่อที่จะให้มีพื้นที่แสดงผลหน้าจอมากขึ้น ทาง Huawei จึงใช้เทคโนโลยีใหม่ HUAWEI Acoustic Display ทำให้เสียงลอดผ่านหน้าจอออกมาเวลาใช้สายสนทนา ซึ่งก็ให้เสียงสนทนาได้ชัดเจนดีเหมือนกับเอาหูแนบลำโพงสนทนาทั่วไป
ภาพตัวอย่างกล้องหน้า
กล้องหลัง LEICA Quad Camera
กล้องหลัง LEICA Quad Camera ประกอบไปด้วย
- เลนส์หลัก ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล มุมกว้าง f/1.6 ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- เลนส์ Ultra wide 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Tele 8 ล้านพิกเซล ซูม Optical 5 เท่า รูรับแสง f/3.4 ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- เลนส์ ToF ช่วยให้การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ เนียนขึ้น และมีความแม่นยำในการแยกวัตถุเก่งขึ้น
มีการเปลี่ยนใช้เซ็นเซอร์จากเดิม RGGB มาเป็น RYYB (แดงเหลืองเหลืองน้ำเงิน) เป็นเจ้าแรกของโลก ทำให้รับแสงได้มากขึ้นถึง 40% และมีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่สุดในตลาดตอนนี้ที่ 1.17 นิ้ว เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเจ้าอื่น กล้องหลังสามารถดัน iSO ของกล้องไปได้สูงสุดที่ 409,600 (Auto) ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือที่มืดทำได้ดีขึ้น และมีโหมดให้เลือกถ่ายรูปภาพด้วยเลนส์ความละเอียด 40 ล้านพิกเซลด้วย แต่ต้องแลกกับการซูมที่ไม่สามารถทำได้
ถ่ายภาพอาหาร AI จะช่วยปรับสีและความเบลอตามขอบของรูปภาพให้อัตโนมัติ
ถ่ายภาพมุมกว้าง
ถ่ายด้วยเลนส์หลัก
ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง
ถ่ายซูม 5x, 10x และ 50x
1x
5x
10x
50x
ถ่ายในที่มืด ที่แสงน้อย
ถ่ายในที่แสงน้อย ถือว่าทำออกมาได้ดี รายละเอียดคมชัด
ถ่ายในที่มี การดัน ISO ขึ้นสูง ก็ช่วยแสดงรายละเอียดได้ดีขึ้น
ถ่ายภาพบุคคล
เลนส์ ToF ช่วยทำให้ระยะชัดตื้นและการเบลอฉากหลังเนียนตาขึ้น
โหมด Portrait ที่เนียนตาขึ้น
ภาพขาวดำที่ดูเนียนมีมิติ
จากที่ได้ทดลองถ่ายภาพในหลายๆ สถานการณ์ (ตามรูปตัวอย่างด้านบน) รุ่นนี้ได้มีการพัฒนาให้ใช้งานถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น รวมถึงระบบ AI ที่ช่วยปรับซีนภาพต่างๆ ตรงนี้ก็สะดวกมากขึ้น รวมถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย การถ่ายภาพบุคคลก็ทำได้เนียนตามากขึ้นกว่าเดิม การถ่ายภาพมุมกว้าง จะทำให้ภาพมือลงจากเดิมอีกนิด เพราะเลนส์มุมกว้างนั้นมีรูรับแสงน้อยกว่าเลนส์หลักนั่นเอง แต่ก็ยังถือว่าทำได้ดีอยู่
สำหรับการซูมตั้งแต่ 5x ขึ้นไป มือจำเป็นต้องนิ่งมาก ถ้าหากมีขาตั้งกล้องหรือวางกล้องให้นิ่งได้จะดีที่สุด และซูม 50x จะต้องอยู่ในกลางแจ้งหรือแดดจัดๆ ภาพที่ซูมถึงจะมีความคมขึ้นอีกนิด แต่ถ้าอยู่ในที่แสงน้อย ภาพจะแตกลายเบลอไปเลยเพราะจะทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นมีความคมชัดมากขึ้นตามไปด้วยส่วนใครที่สงสัยว่าจะได้ใช้การซูม 5x, 10x หรือแม้แต่ 50x หรือไม่ ในบางสถานการณ์นั้นการซูมเข้าไปก็จำเป็นอย่างยิ่ง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเบียดเสียดเข้าไป หรือลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปถ่ายรูปเลย กดซูมทีเดียวจบ
การบันทึกวิดีโอด้วยระบบกันสั่น OIS + AIS และ AI HDR+ ก็มีส่วนช่วยให้วิดีโอมีความสมูทขึ้น ถึงจะไม่เท่ากับอุปกรณ์เสริมอย่างไม้ Gimball กันสั่นต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วสำหรับการถือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวไปถ่ายรูป เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอด้วยมุมมองต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการซูม และมุมกว้าง
ประสิทธิภาพตัวเครื่อง
P30 Pro มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับเรือธง Kirin 980 Octa-core, RAM 8GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB มี GPU Turbo 3.0 มาให้สำหรับเล่นเกมส์ ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie พร้อม EMUI 9.1 มี Gestures ต่างๆ ที่ใช้งานง่ายและสะดวก ส่วนหน้าตา UI ก็ดูสะอาดตา เรียบง่ายมากขึ้น หรือหากไม่ชอบใจก็สามารถเปลี่ยนเป็น Dark Mode หรือจะใช้งานธีมอื่นๆ เลยก็ได้
ได้ทดสอบ Antutuใน 2 โหมด คือ โหมดปกติ และ Performance Mode จะได้คะแนน 220,000 และ 310,000 ตามลำดับ ซึ่งการเปิดใช้งาน Performance Mode นั้นจะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น เพราะต้องรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมาให้เต็มที่
GPU Turbo 3.0 จะช่วยลดการใช้พลังงานของชิปเซ็ตลงไป 10% พร้อมกับจัดการทรัพยากรระบบให้เหมาะสมกับการเล่นเกมมากขึ้น ทำให้สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่นมากขึ้นและยังประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย นอกจากนี้เกมที่รองรับการทำงาน GPU Turbo 3.0 ยังรองรับเพิ่มมากขึ้นเป็น 25 เกม จากเดิมมีเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น ทางทีมงานได้ทดลองเล่น PUBG Mobile ก็ปรับระดับสูงสุดมาให้ เมื่อเข้าไปเล่นก็เล่นได้อย่างลื่นไหล เครื่องไม่ร้อนง่าย ถือว่าทำได้ดีเลยสำหรับซุปเปอร์คาเมร่าโฟนรุ่นนี้
แบตเตอรี่สุดอึด พร้อมชาร์จให้เพื่อนได้
สำหรับรุ่นนี้ได้ใช้แบตเตอรี่ 4,200mAh มาให้ ใช้งานทั้งวันได้สบายๆ ภายในกล่องมีอะแดปเตอร์ SuperCharge 2.0 (40W) มาให้ใช้งานชาร์จแบบด่วนๆ ได้ โดยสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 70% ได้ภายในครึ่งชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบไร้สายความเร็วสูงสุด 15W และมีระบบ Reverse Wireless Charging ชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายเหมือนกับ Huawei Mate 20 Pro
สรุป Huawei P30 Pro
สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คำว่า “ซุปเปอร์คาเมร่าโฟน” นั้น เรียกได้ถูกต้องแล้ว มีการพัฒนาด้านกล้องเพิ่มจากเดิมมาก การถ่ายภาพนิ่งก็สามารถทำได้หลายมุมมอง ทั้งซูม ทั้งมุมกว้าง ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ทำได้ดีเลย แต่ไม่เพียงแค่กล้องเท่านั้น ด้านอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผลสำหรับการใช้งานและเล่นเกม, การแสดงผลที่เต็มตามากขึ้น, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน, ดีไซน์รูปทรงที่ดูสวยงามและหรูหรามากขึ้น
“กล้องดี ดีไซน์สวย แบตเตอรี่อึด สมแล้วที่เป็นซุปเปอร์คาเมร่าโฟน”
ใครที่คิดว่าอยากจะได้มือถือถ่ายภาพสวยๆ ถ่ายวิดีโอดีๆ ไว้เล่นเกมด้วย แบตเตอรี่อึดๆ Huawei P30 Pro รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนครับ
จุดเด่น
- กล้องหลัง LEICA Quad Camera คุณภาพดีมาก ซูมได้ถึง 50 เท่า ถ่ายมุมกว้างก็ทำได้
- ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลัง ระบบกันสั่น OIS + AIS
- หน้าจอ OLED แม้ความละเอียดจะแค่ Full HD+ แต่ก็ยังแสดงผลได้สวยงาม ขอบหน้าจอบางมาก
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอทำงานได้รวดเร็ว
- ตัวเครื่องแรง ลื่นไหล ด้วยชิปประมวลผลระดับเรือธง Kirin 980 + RAM 8 GB
- รองรับระบบชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge
- EMUI 9.1 เวอร์ชั่นล่าสุด มีฟีเจอร์ ลูกเล่นมากมาย
- กันน้ำมาตรฐาน IP68
จุดสังเกต
- ดีไซน์กล้องหลังนูนขึ้นถึงจะไม่มาก แต่ก็ควรหาเคสใส่สำหรับการปกปิดเลนส์ที่นูนออกมา
- หน่วยความจำภายนอกต้องใช้ Nano Memory Card ของหัวเว่ยเท่านั้น
- ตัวเครื่องถูกปิดโหมดประสิทธิภาพมาตั้งแต่โรงงาน คือ ถ้าอยากให้เครื่องแรงสะใจ ต้องเปิด Performance Mode เองในเมนูตั้งค่าแบตเตอรี่ แต่จะทำให้แบตเตอรี่ลดไวกว่าปกติ
จบไปแล้วสำหรับรีวิวของเจ้า Huawei P30 Pro ที่ทางเว็บไซต์เรานำมาฝากกัน และสำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ
พิเศษ!!! โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของ Huawei P30 Pro ในราคาพิเศษ
คุณสามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ ในราคาที่คุณเลือกเองได้กับแอปฯ VFIN ที่ประมูลสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ตลอด 30 วัน 30 เครื่อง ด้วยการร่วมมือกับ JFIN กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล โดยใช้คริปโตเคอร์เรนซี่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
สามารถเข้าไปประมูลกันได้ผ่านแอปฯ เท่านั้นนะครับ และเปิดให้ผู้ใช้งาน Android สามารถดาวโหลดได้เท่านั้นครับ
ช่องทางการดาวโหลดแอปฯ และวิธีการใช้งาน
ดาวน์โหลดแอพฯ
http://bit.ly/vfinandroid
วิธีการประมูล
https://web.facebook.com/
วิธีการเติม JFIN
http://bit.ly/JFCHOWTO
รายละเอียดกิจกรรมประมูล
https://web.facebook.com/
