หลังจากที่ HUAWEI ได้ปล่อย HUAWEI WATCH Fit รุ่นแรกมาแล้วประมาณปีครึ่ง ถึงคราวยกเครื่องอัพเกรด WATCH Fit รุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์เด่นๆ อย่างการการเพิ่ม และอัพเกรดเซ็นเซอร์ต่างๆ, คุยโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth calling ส่วนการใช้งานอื่นๆ จะเป็นอย่างไรมาแกะกล่องลองใช้กันดูเลยครับ
แกะกล่อง Huawei Watch Fit 2
กล่องของ WATCH FIT 2 ด้านหน้าจะเป็นสีเดียวกันกับที่อยู่ในกล่อง ที่ด้านหน้าจะมีคุณสมบัติเด่นๆ บ่งบอกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล 1.74 นิ้วแบบ FullView, รองรับ Bluetooth Calling ส่วนที่ด้านหลังกล่องก็มีคุณสมบัติเด่นๆ อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน, ภาพเคลื่อนไหวการออกกำลังกาย, ระบบวัดเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือดอัตโนมัติ, รองรับการออกกำลังกาย 97 รูปแบบ, เล่นเพลงได้อย่างอิสระด้วยหน่วยความจำในตัว ฯลฯ ส่วนอุปกรณ์จะมีอะไรบ้าง มาแกะกล่องดูกันเลย
อุปกรณ์ในกล่อง
- Huawei Watch Fit 2 สี Sakura Pink
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB
- คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
จะเห็นว่าในกล่องมีเพียงสายชาร์จแบตเตอรี่มาเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นสายชาร์จแบบ USB-A ที่สามารถเสียบชาร์จได้กับอแดปเตอร์สมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่น หรือจะเสียบเข้ากับ USB คอมพิวเตอร์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ก็ได้เช่นกัน การเสียบชาร์จจะมีแม่เหล็กดูดให้แป้นชาร์จติดกันพอดี แต่หากเสียบผิดด้าน แม่เหล็กจะผลักไม่ให้ชาร์จได้
HUAWEI WATCH FIT 2 มีจอแสดงผลขนาด 1.74 นิ้ว ความละเอียด 336 x 480 พิกเซล ใช้จอภาพแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม รองรับการแสดงผลแบบ Always on Display สามารถแสดงเวลา หรือภาพกราฟฟิคเล็กๆ น้อยได้โดยใช้พลังงานต่ำ หน้าจอแสดงผลจึงแสดงนาฬิกาบอกเวลาตลอด ไม่มืดดำเหมือนสมาร์ทแบนด์รุ่นก่อนๆ
ที่ด้านข้างขวามีเพียงปุ่มเปิดปิดเครื่องโดยการกดค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที และยังทำหน้าที่เป็นปุ่มเมนู และปุ่ม Home ไปด้วยในตัว ส่วนตัวเรือนทำจากวัสดุไฟเบอร์โพลิเมอร์ที่แข็งแรง และทนทาน สำหรับสี Sakura Pink ขอบด้านข้างจะเป็นสี Pink Gold ดูหรูหราสวยงาม เหมาะกับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ถัดลงมาจากปุ่มกดเป็นช่องสปีกเกอร์โฟน สามารถใช้สนทนาโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธได้ทันที
ด้านหลังของตัวเรือนมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ซึ่งจะเห็นการทำงานของมันด้วยการปล่อยแสงสีเขียว และสีแดงออกมาตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนบนผิวหนัง ส่วนจุด 2 จุดเป็น POCO Pin เป็นพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ที่ดูดด้วยแม่เหล็ก หากใส่ผิดด้านจะถูกผลักออกเพื่อป้องกันการชาร์จผิดขั้ว
สายนาฬิกาสี Sakura Pink วัสดุเป็นซิลิโคน ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายผิว สวมใส่ได้สบาย น้ำหนักเบาเพียง 26 กรัม สามารถใส่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้กระทั่งใส่นอนได้ทั้งคืน
การเปลี่ยนสายนาฬิกาสามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเลย ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า “Link” เพียงแค่ใช้ปลายเล็บกดปุ่มแล้วดึงสายออก แล้วเสียบสายใหม่เข้าไปจนดังคลิก ก็สามารถใช้งานได้ทันที
เชื่อมต่อง่ายดาย ใช้งานร่วมกับแอพฯ Huawei Health ได้ทั้ง HarmonyOS, Android และ iOS
ในการเชื่อมต่อก็ไม่ยุ่งยาก หากใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS อย่างเช่นเครื่องที่เราใช้ทดสอบเป็น HUAWEI P50 Pro เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม เปิดเครื่องแล้วนำมาวางใกล้ๆ กับสมาร์ทโฟนจะมี Pop up เด้งเตือนที่หน้าจอเพื่อกดเชื่อมต่อ ใช้เวลาไม่นานก็เชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อย หากมีอัพเดท WATCH FIT 2 ก็รอเพียงอึดใจเดียวก็พร้อมใช้งานทันที หรือหากใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็เพียงแค่ทำการเชื่อมต่อผ่านเมนูตามขั้นตอนก็พร้อมใช้งานเช่นกัน
สำหรับการปรับเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา หรือ Watch Faces ก็มีให้เลือกดาวน์โหลดฟรี และแบบเสียตังค์ซื้อ มีทั้งแบบเข็ม แบบตัวเลข และเป็นภาพกราฟฟิคแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย สามารถอุดหนุนนักพัฒนา และช่วยส่งเสริมการให้นักพัฒนาออกแบบลายหน้าปัดใหม่ๆ ออกมาให้เราได้เลือกซื้อกันด้วย นอกจากนี้ยังใช้ภาพถ่ายจากกล้องของเรามาเป็นภาพพื้นหลังหน้าปัดนาฬิกาได้อีกต่างหาก
ตรวจวัดสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ ตลอด 24 ชม.
WATCH FIT 2 ถูกออกแบบมาให้ใส่ได้ตลอดทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่จะทำงานตรวจวัดค่าต่างๆ ในร่างกายเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการนับจำนวนก้าวเดิน, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2), วัดอุณหภูมิผิวหนัง, วัดความเครียด, ตรวจจับความเคลื่อนไหวในการนอน สามารถเปิดดูข้อมูลคร่าวๆ ได้บนหน้าจอ หรือหากต้องการดูข้อมูลแบบละเอียดก็เปิดแอพฯ HUAWEI Health เพื่อดูข้อมูลย้อนหลังแบบละเอียดเป็นรายชั่วโมงได้
ข้อมูลต่างๆ เหลานี้จะช่วยให้เราทราบถึงสุขภาพโดยรวมในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นหากนอนน้อยไปก็ควรจะเข้านอนให้เร็วขึ้น หรือในแต่ละวันหากเราเดินน้อยไป ก็ควรจะลุกขึ้นเดินให้บ่อยขึ้น และหากว่ามีความเครียดก็ควรจะผ่อนคลาย หรือใช้ WATCH FIT 2 เป็นตัวช่วยกำหนดลมหายใจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถคำนวนรอบเดือนของคุณผู้หญิงได้อีกด้วย
รองรับการออกกำลังกายสูงสุด 97 โปรแกรม ฟังเพลงแบบไม่ต้องพกสมาร์ทโฟน
ในด้านการออกกำลังกาย WATCH Fit 2 ก็ยังรองรับการออกกำลังกายในแบบต่างๆ มากถึง 97 แบบ ไม่ว่าจะเป็นเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, พายเรือ, กระโดดเชือก, เป็นต้น กันน้ำลึกถึง 5 ATM หรือ 50 เมตร สามารถใส่ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรืออาบน้ำได้โดยไม่ต้องกังวล พร้อมรองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะอยู่ใต้น้ำได้ และในครั้งนี้ WATCH FIT 2 ได้อัพเกรดเพิ่มภาครับสัญญาณดาวเทียม GPS และมีหน่วยความจำขนาดใหญ่ 4 GB สามารถดาวน์โหลดเพลง เชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธได้โดยไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่าใส่นาฬิกาเรือนเดียวก็ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องพะวงกับสมาร์ทโฟนอีกต่อไป
รองรับ Bluetooth Calling และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกต่างๆ
จากเดิม WATCH FIT รุ่นแรกไม่สามารถสนทนาโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ได้ แต่ในรุ่นนี้รองรับ Bluetooth Calling พร้อมไมโครโฟนสทนา สามารถสนทนาโทรศัพท์ได้ในรัศมีไกลถึง 100 เมตรได้ (ระยะทางการเชื่อมต่อจะลดลงเมื่อมีสิ่งกีดขวาง) อาจจะเก็บสมาร์ทโฟนไว้ในล็อคเกอร์แล้วไปออกกำลังกายในฟิตเนสก็ได้ หรือจะรับสายขณะขับรถก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังใช้เป็น Remote Shutter ในการถ่ายภาพโดยแตะที่หน้าจอ WATCH FIT 2 เพื่อถ่ายภาพได้ และนอกจากนี้ยังรองรับการนำทางโดยทำงานร่วมกับแอพฯ Petal Maps บนสมาร์ทโฟนเพื่อบอกทางได้โดยไม่ต้องหันไปมองสมาร์ทโฟน
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 วันพร้อมระบบชาร์จเร็ว
ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 292 mAh ในการใช้งานปกติตามสเป็คแล้วจะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 วัน หรือหากใช้งานแบบหนักๆ ตามสเป็คแล้วจะใช้งานได้ประมาณ 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์ แต่จากการใช้งานจริงเปิดเซ็นเซอร์ตรวจวัดทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมง และเปิด Always on Display เพื่อให้หน้าจอติดตลอดเวลาจะใช้แบตเตอรี่วันละ 20% หรือประมาณ 5 วัน ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว ต่างจากสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ ที่จะอยู่ได้ 1-2 วันเท่านั้น สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ก็รองรับการชาร์จเร็ว โดยตามสเป็คชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้งานได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง แต่หากชาร์จจนเต็ม 100% ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
บทสรุป HUAWEI WATCH FIT2 จากความเห็นของ What Phone
สำหรับใครที่ไม่ชอบสมาร์ทวอชที่มีขนาดใหญ่ อยากได้สมาร์ทวอชที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา WATCH FIT 2 เป็นสมาร์ทวอชที่ตอบโจทย์มาก ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ตัวเรือนไม่ใหญ่จนเกินไป สวมใส่สบายได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่น้อยหน้าสมาร์ทวอช ทั้งฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย การตรวจจับความเคลื่อนไหว และสุขภาพตลอดทั้งวัน และยังสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 1 สัปดาห์ และด้วยราคาเปิดตัวเพียง 4,990 บาท ถือว่าเป็นสมาร์ทวอชที่คุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งจากเลยครับ
สรุปสเป็ค
- ขนาด 46 x 33.5 x 10.8 มม. น้ำหนัก 26 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.74 นิ้วแบบสัมผัส ความละเอียด 336 x 480 พิกเซล
- หน่วยความจำ RAM 32 MB + ROM 4 GB
- ตัวเรือนวัสดุไฟเบอร์โพลิเมอร์, สายซิลิโคน
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 BR+BLE
- เซ็นเซอร์ IMU 9 แกน (เซ็นเซอร์มาตรความเร่ง, เซ็นเซอร์ไจโรสโคป, เซ็นเซอร์แม่เหล็ก)
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล
- มีสปีกเกอร์ และไมโครโฟน รองรับ Bluetooth calling ไกล 100 เมตร
- กันน้ำลึก 50 เมตร (5 ATM)
- แบตเตอรี่ 292 mAh, ชาร์จไฟ 5V, 1A
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 10 วัน
- รองรับการใช้งานทั้ง HarmonyOS, Android 6.0 และ iOS 9.0
- มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Sakura Pink, Isle Blue
- ราคา 4,990 บาท