นอกจาก iPhone X นวัตกรรมใหม่ล่ามาแรงจาก Apple ยังมีอีกสองรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นอกจากวัสดุใหม่อย่างกระจกอันแข็งแกร่งและสีทองเฉดใหม่ iPhone 8 Plus มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง และคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนหรือไม่
Review iPhone 8 Plus
ไอโฟนแปดพลัสมีดีไซน์ที่สวยดีในแง่ของสมาร์ทโฟนวัสดุกระจก รวมถึงสีทองเฉดใหม่ที่เพิ่มความสวยหรู แต่หลายคนน่าจะผิดหวังหากเทียบกับ iPhone 7 Plus ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นแฝดคนละฝา ซึ่งไอโฟนแปดพลัสที่ใช้กระจกนั้นก็ยังเสี่ยงต่อการตกแตก ป้องกันด้วยการติดฟิล์มและใส่เคสกันรอยด้วยจะดีมาก แต่รุ่นนี้มีข้อดีที่การจับถือใช้งานสะดวก และตัวเครื่องมีคุณสมบัติกันน้ำด้วย
ส่วนหน้าจอ Super AMOLED Retina HD TrueTone 5.5 นิ้ว ก็มีขนาดที่ใหญ่ แสดงผลคมชัดผ่านความละเอียด Full HD 1080 x 1920 พิกเซลเช่นเคย ส่วนอินเตอร์เฟซเมนูในรุ่นนี้ได้มาจาก iOS 11 เวอร์ชั่นล่าสุด เมื่อลากหน้าจอจากขอบด้านบน จะพบกับการแจ้งเตือนที่มีลักษณะเหมือนหน้าจอล็อคสกรีนเป๊ะๆ แต่พอลากนิ้วจากขอบหน้าจอด้านล่าง จะพบกับ Control Center ที่รวมคำสั่งลัดจากเมนูต่างๆ ทั้งการเปิด-ปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G LTE Wi-Fi ไฟฉาย เครื่องเล่นเพลง ปรับระดับเสียงและความสว่างหน้าจอ ฯลฯ
ถึงกล้องถ่ายภาพในไอโฟนแปดพลัสจะเป็นกล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล แฟลชแบบ Quad-LED (dual-tone) รูรับแสงกว้าง F/1.8 และ F/2.8 แบบรุ่นพี่ (แถมยังนูนจากตัวเครื่องเหมือนเดิมอีกต่างหาก) แต่เรื่องซอฟต์แวร์ภายในก็เป็นสิ่งสำคัญที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยสิ่งที่เพิ่มมาใหม่ในไอโฟนแปดพลัสและไอโฟนเท็นเป็นรุ่นแรกๆ ก็คือ Portrait Mode ที่ช่วยในการจัดแสงเพื่อการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ มีให้เลือกทั้งแสงไฟธรรมชาติ แสงไฟสตูดิโอที่เพิ่มความสว่างใสให้ใบหน้า แสงไฟคอนทัวร์ที่ช่วยทำให้ใบหน้ามีมิติ แสงไฟเวทีที่จะเลือกส่วนของใบหน้าและประมวลผลร่วมกับฉากหลังสีดำ ซึ่งมีแสงไฟเวทีแบบขาวดำให้เลือกด้วย ทำให้การถ่ายภาพบุคคลเป็นมากกว่าการเซลฟี่ใสๆ แบ๊วๆ แต่เป็นการถ่ายภาพที่แปลกตาและสวยงาม จนทำให้อารมณ์ของภาพดูแตกต่างออกไป แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะกล้องหลังแบบคู่ในรุ่นนี้เท่านั้น
-
- ตัวอย่างการถ่ายภาพก่อนซูมระยะใกล้
-
- ซูมภาพได้ 2 เท่า
คุณภาพภาพถ่ายจากกล้องของไอโฟนแปดพลัสยังถ่ายทอดออกมาได้ดี ทั้งสีสันที่เน้นความสมจริง และความคมชัดที่ทรงพลัง ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติ การซูมแบบออพติคอลก็ทำออกมาได้ดี แม้จะอยู่ห่างจากตัวแบบก็ได้ภาพระยะใกล้แบบง่ายๆ ส่วนภาพถ่าย Portrait Mode แบบใหม่บนไอโฟนแปดพลัสก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ภาพจากแสงไฟเวทีที่ใช้ฉากหลังสีดำยังกำหนดพื้นหลังภาพได้ไม่ 100% ยังพบส่วนเว้าแหว่งอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าดีมากๆ กับการใช้งานฟีเจอร์นี้เป็นรุ่นแรก
ตัวอย่างภาพถ่าย
เรื่องการถ่ายวิดีโอ ไอโฟนแปดพลัสก็ทำได้น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 4k 60 fps (เฟรมเรตต่อวินาที) หรือถ้าวิดีโอ 4k ไม่จำเป็นสำหรับคุณ สามารถเลือกถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p 240 fps ได้ นอกจากนี้ การถ่ายวิดีโอบนไอโฟนแปดพลัสมีอาการสั่นไหวที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าน่าจะมาจากระบบป้องกันการสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) นั่นเอง
เพราะไอโฟนแปดพลัสเป็นแฝดคนละฝากับรุ่นพี่อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น จึงยังมีปุ่มโฮมใต้ขอบหน้าจอเหมือนเดิม รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับใช้งาน Touch ID แต่ใช่ว่าจะมีแต่ฟีเจอร์การใช้งานเดิมๆ เพราะไอโฟนแปดพลัสเพิ่มการใช้งานใหม่ๆ มาให้ไม่น้อยเช่นกัน อย่างการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายผ่านแท่นชาร์จของแอปเปิ้ลที่เรียกว่า AirPower ใครที่ใช้งานไอโฟนร่วมกับ Apple Watch และ AirPods คงดีใจเป็นแน่แท้ เพราะ AirPower สามารถชาร์จทั้งสามอุปกรณ์ได้พร้อมๆ กัน ส่วนใครที่รอเป็นเจ้าของ AirPower ขอให้ติดตามข่าวการวางจำหน่ายอย่างใกล้ชิดในปี 2018 ต่อไป
Physical Overview
-
- เหนือขอบขอมีกล้องหน้า ลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์
-
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ยังอยู่ในตำแหน่งปุ่มโฮม
-
- ด้านซ้ายมีปุ่มวอลลุ่มและปุ่มเข้าสู่โหมดเงียบ (Silent)
-
- ด้านขวามีทั้งถาดใส่ซิมการ์ดและปุ่มพาวเวอร์
-
- ด้านล่างมีทั้งพอร์ตไลท์นิ่ง 2.0 และช่องลำโพงสเตอริโอ
-
- กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซลและแฟลช Quad-LED dual-tone
Final Opinion & Conclusion
หากคุณใช้งาน iPhone 7 Plus มาก่อนหน้านี้ อาจจะรู้สึกอยากเป็นเจ้าของ iPhone X ที่เพิ่มความว้าวให้นวัตกรรมใหม่ๆ มากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งาน iPhone 6s หรือเก่ากว่า ขอให้ลองเล่น ลองใช้งาน iPhone 8 Plus กันก่อน เพราะมีความสามารถที่พัฒนาขึ้นหลายอย่าง ได้หน้าจอใหญ่ Full HD 5.5 นิ้วพร้อม iOS 11 ที่พร้อมอัพเดทยาวนานอย่างต่ำ 2-3 ปี หรือจะเลือกเป็นสมาร์ทโฟนจากแอปเปิ้ลเป็นเครื่องแรกของคุณก็เจ๋งอยู่นะ
Strength
- ตัวเครื่องกันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP67 (กันน้ำลึก 1 เมตรนาน 30 นาที)
- หน้าจอ Super AMOLED Retina HD TrueTone Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) 5 นิ้ว
- ชิปเซตใหม่ Apple A11 Bionic
- ระบบปฏิบัติการ iOS 11
- พื้นที่ภายในเครื่องความจุ 64 และ 256GB
- กล้องคู่ 12+12 ล้านพิกเซลและแฟลช Quad-LED dual-tone / กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล
- โหมดถ่ายภาพบุคคลแบบใหม่ Portrait Mode
- ปุ่มโฮมและเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับใช้งาน Touch ID
- ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายผ่าน AirPower ได้
ON FOCUS
โหมดถ่ายภาพบุคคลที่มีใน iPhone 8 Plus รุ่นแรก พร้อมการจัดแสงไฟแบบต่างๆ
ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพบุคคลที่ประมวลผลภาพสวยงาม
ข้อมูลทั่วไป
| ขนาด, น้ำหนัก | 158.4 x 78.1 x 7.5 มิลลิเมตร, 202 กรัม |
| SIM Card | Nano SIM |
| แบตเตอรี่ | Li-ion 2,961 mAh |
เครือข่าย
| เครือข่าย 2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz |
| เครือข่าย 3G | 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz |
| เครือข่าย 4G | 700 / 800 / 850 / 900 / 1700/2100 / 1800 / 1900 / 2000 / 2100 / 2300 / 2500 / 2600 MHz |
หน่วยความจำ
| หน่วยความจำภายใน | 64/256GB / RAM 3GB |
| หน่วยความจำภายนอก | ไม่รองรับ |
จอแสดงผล
| ขนาด | 5.5 นิ้ว |
| ความละเอียดและความหนาแน่น | 1080 x 1920 พิกเซล (401) |
| ชนิดและจำนวนสี | LED-backlit IPS LCD 16 ล้านสี |
ระบบ
| หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | Apple A11 Bionic Hexa-core |
| หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Apple GPU (three-core graphics) |
| ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | iOS 11.1.1 |
การเชื่อมต่อ
| Wi-Fi | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi hotspot |
| Bluetooth | รองรับ (v5.0, A2DP, LE) |
| NFC | รองรับ (Apple Pay) |
| USB | Lightning 2.0 |
| ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS, GALILEO, QZSS) |
มัลติมีเดีย
| กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
| ความละเอียด | 12+12 ล้านพิกเซล / กล้อง 7 ล้านพิกเซล |
| คุณสมบัติ | รูรับแสง F/1.8 และ F/2.8 / แฟลช Quad-LED dual-tone / OIS / ซูมออพติคอล 2 เท่า / Portrait Mode / HDR |
| กล้องวิดีโอ | |
| ความละเอียด | 3840 x 2160 (UHD 4k) / 1920 x 1080 (Full HD) |
| คุณสมบัติ | เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ / Time Lapse / Slow Motion |
| วิทยุ | ไม่มี |
| อื่นๆ | คุณสมบัติกันน้ำระดับ IP67 / Touch ID / ลำโพงสเตอริโอ |
ราคา 32,500 บาท (64GB)/38,500 บาท (256GB)
