หลังจากที่ iQOO ได้ปล่อยตัวเด็ดอย่าง iQOO 11 5G ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว คราวนี้ iQOO ได้ทำตลาดสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง iQOO Z7 Series ในระดับกลางทีเดียวพร้อมกัน 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น iQOO Z7 5G และ iQOO Z7x 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาทเท่านั้น ทั้งสองรุ่นจะมีความแตกต่างอย่างไร คุ้มค่าแค่ไหน เรามาแกะกล่องลองเล่นกันดูครับ
แกะกล่องลองเล่น iQOO Z7 5G
กล่องของ iQOO มาในแนวสีดำแบบดุดัน มีเพียงโลโก้ iQOO สีเหลืองสดใสที่หน้ากล่องโดยที่ไม่ได้ระบุรุ่นใดๆ และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- สมาร์ทโฟน iQOO Z7 5G สี Matrix Blue
- อแดปเตอร์ FlashCharge 120 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C to USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- เอกสารใบรับประกัน, คู่มือการใช้งาน
iQOO Z7 5G ดีไซน์เรียบหรู มีชีวิตชีวากับสี Matrix Blue
จอแสดงผลของ iQOO Z7 5G มีขนาดใหญ่ขนาด 6.64 นิ้ว มองเห็นได้เต็มตาจนเกือบชิดขอบของตัวเครื่อง เป็นจอภาพแบบ IPS LCD ที่ให้สีสันสดใส มีความคมชัดในระดับ FHD+ หรือความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล แสดงผลด้วยอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 120 Hz และยังปรับอัตรารีเฟรชได้อัตโนมัติตามคอนเทนต์ที่แสดงบนหน้าจอ จึงช่วยประหยัดพลังงาน ที่ส่วนบนมีกล้องหน้าสำหรับถ่าย Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบเจาะรูฝังลงบนหน้าจอ มีขนาดเล็ก ไม่รบกวนสายตาขณะใช้งาน
ในรุ่น Z7 5G นี้ เราได้สี Matrix Blue มาทดสอบ เป็นสีที่มีสีสันสวยงาม สดใส มีชีวิตชีวา และยังซ่อนสีสันต่างๆ ไว้มากมายเมื่อเอียงฝาหลังส่องแสงกระทบในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า สีฟ้าอมเขียว สีส้มอมชมพู ดูสวยงามไม่มีเบื่อ พื้นผิวด้านหลังเป็นแบบด้าน จึงไม่ติดลายนิ้วมือได้ง่ายๆ ไม่ต้องเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ ด้านหลังมีกล้อง 2 เลนส์ ดีไซน์แบบวงแหวน Halo คู่ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์ Bokeh พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
ด้านข้างของตัวเครื่องตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มม. จะมีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว โดยปุ่มทั้งหมดอยู่ที่ด้านข้างขวา ส่วนด้านข้างซ้ายดีไซน์แบบโล่งๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ อยู่ที่ด้านนี้
ที่ด้านบนของตัวเครื่องยังคงมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. มาให้ สามารถนำหูฟังคู่โปรดมาเสียบใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และมี IR Blaster หรือพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยทำงานร่วมกับแอพฯ Smart Remote ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องเสียง, หลอดไฟ ฯลฯ ให้เลือกใช้งานมากมาย เมื่อต้องการใช้งานก็เพียงแค่ชี้หัวเครื่องไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมกับแตะสั่งงานบนหน้าจอ
ที่ด้านล่างตัวเครื่องไล่จากทางด้านซ้าย มีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบประกบบนล่าง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟน, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และลำโพงสปีกเกอร์โฟน เมื่อทำงานร่วมกับลำโพงที่ด้านบนเครื่องก็จะให้เสียงแบบสเตอริโอแยกซ้ายขวา ฟังแล้วมีมิติชัดเจน
แกะกล่องลองเล่น iQOO Z7x 5G
กล่องของรุ่นนี้ก็มาในดีไซน์แบบเดียวกัน ด้านหน้ามีเพียงโลโก้ iQOO เท่านั้น และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- สมาร์ทโฟน iQOO Z7x 5G สี Metallic Grey
- อแดปเตอร์ FlashCharge 80 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-A to USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- เอกสารใบรับประกัน, คู่มือการใช้งาน
iQOO Z7x 5G เรียบหรูมีสไตล์ บ่งบอกความเป็นคุณด้วยสี Metallic Grey
จอแสดงผลของ iQOO Z7x 5G มีขนาด 6.64 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ หรือ 1080 x 2388 พิกเซล แสดงผลด้วยอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120 Hz เรียกได้ว่ามีขนาด และสเปกหน้าจอเท่ากับรุ่น Z7 เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าแบบเจาะรูที่อยู่ตำแหน่งเดียวกัน
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Metallic Grey ด้านหลังดีไซน์แบบเรียบๆ ใช้วัสดุเป็นพื้นผิวแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือง่ายๆ ส่วนกล้องของรุ่นนี้ถูกออกแบบในรูปทรงวงแวน Halo คู่ ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และเลนส์ Bokeh 2 ล้านพิกเซล ในส่วนนี้เราจะสังเกตเห็นความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นคือในรุ่น Z7 จะมีระบบกันสั่น OIS กำกับไว้ที่ด้านหลัง และในรุ่น Z7x จะมีระบบกันสั่นแบบ EIS
ขอบด้านข้างของตัวเครื่องจะมีความหนากว่ารุ่น Z7 เล็กน้อย เนื่องจากแบตเตอรี่ของรุ่น Z7x มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ตัวเครื่องหนากว่าเล็กน้อยที่ 9.1 มม. ซ้ายดีไซน์มาแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ อยู่ฝั่งนี้ โดยปุ่มกดทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่ด้านข้างขวา โดยมีมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว
ที่ด้านบนดีไซน์แบบโล่งๆ จะมีเพียงช่องไมโครโฟนเล็กๆ สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา และช่องเสียบถาดซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง โดยช่องที่ 2 จะต้องเลือกว่าจะใส่ SIM2 หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ส่วนที่
ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมามีช่องไมโครโฟนรับเสียงสทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์โฟน
จอแสดงผล Refresh rate 120 Hz, Dual 10x Super Touch Control 1200 Hz
การแสดงผลของ iQOO Z7 Series 5G ทั้งสองรุ่นนั้นมาสเปกเดียวกันหมดไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ 6.64 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ให้สีสัน และความละเอียดสมจริง สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทได้อัตโนมัติตั้งแต่ 60 Hz ไปจนถึง 90 – 120 Hz ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือไถฟีดก็แสดงผลได้เนียนตา และช่วยประหยัดพลังงานด้วย นอกจากนี้ยังตอบสนองต่อการแตะหน้าจอสั่งการสูงถึง 1200 Hz ซึ่งจะเห็นผลก็ต่อเมื่อต้องการความไวในการสัมผัสในขณะเล่นเกม จึงตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ไม่มีติดขัด
จากการแตะสั่งงานที่รวดเร็วทันใจ หน้าจอแสดงผลยังมีระบบ 10x Touch Control Resolution ที่เพิ่มความละเอียดในการแตะสั่งงาน ขยับนิ้วเพียงนิดเดียวหน้าจอก็รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนนิ้วมือ ทำให้การเล่นเกมมีความแม่นยำมากขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น หน้าจอยังลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายกับดวงตา มีระบบการปรับความสว่างอัตโนมัติ ช่วยถนอมสายตาในทุกสภาพแสง
แรงเต็มสปีดด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 782G และ Snapdragon 695
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้หน่วยประมวลผลจากค่ายเดียวกันนั่นก็คือชิพเซ็ตจาก Qualcomm แต่ใช้คนละรุ่น โดยใน iQOO Z7 5G ใช้ชิพเซ็ต Snapdragon 782G Octa-core ความเร็ว 2.7 GHz ชิปประมวลผล Adreno 642L มีหน่วยความจำให้เลือก 2 รุ่น RAM 8 GB, ROM 128 GB และรุ่น RAM 12 GB, ROM 256 GB สามารถขยายเพิ่มอัตโนมัติได้อีก 8 GB รวมเป็น 16 และ 20 GB ตามลำดับ แต่ในรุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ เราแนะนำให้เลือกซื้อเป็นรุ่นหน่วยความจำ 12/256 GB ไปเลย ในราคาต่างกันเพียงแค่ 1 พันบาทเท่านั้น
ส่วนในรุ่น iQOO Z7x 5G เป็นรุ่นรองลงมา แต่ยังใช้ชิพเซ็ตจากค่ายเดียวกัน ต่างกันที่รุ่นนี้ใช้ชิพเซ็ต Snapdragon 695 Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz ชิปประมวลผล Adreno 619 มีหน่วยความจำให้เลือก 2 รุ่นเช่นกัน คือรุ่น RAM 8 GB, ROM 128 GB และรุ่น RAM 8 GB, ROM 256 GB และยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีกสูงสุดถึง 1 TB แต่ก็จะต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใส่ SIM2 หรือ microSD และแน่นอนว่าเราแนะนำให้เลือกรุ่น 256 GB ไปเลย เพราะเพิ่มอีกเพียง 500 บาทเท่านั้นก็ได้หน่วยความจำเพิ่มอีกถึง 1 เท่าตัว
สำหรับระบบปฏิบัติการทั้งสองรุ่นใช้เวอร์ชั่นเดียวกันคือ FuntouchOS 13 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 13 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในขณะนี้ พร้อมอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อีก นอกจากนี้ iQOO ทั้งสองรุ่นยังสามารถใช้ Google Mobile Service ได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดาวน์โหลดแอปฯ ใช้บริการของ Google ได้ครบเช่นเคย นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้จาก V-Appstore ได้อีกด้วย
จากการทดสอบประสิทธิภาพความแรงของ iQOO Z7 5G ด้วยแอพฯ Antutu เวอร์ชั่น 9.5.7 สามารถทำคะแนนได้ 591,195 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 6 CPU สามารถทำคะแนน Single core ได้ 1118 คะแนน และ Multi core ได้ 3018 คะแนน ส่วนผลการทดสอบ Geekbench 6 GPU สามารถทำคะแนนได้ 2302 คะแนน
ผลการทดสอบ iQOO Z7 5G ด้วยแอพฯ Antutu 9.5.7
ผลการทดสอบ iQOO Z7 5G ด้วยแอพฯ Geekbench 6
ส่วนผลการทดสอบประสิทธิภาพความแรงของ iQOO Z7x 5G ด้วยแอพฯ Antutu เวอร์ชั่น 9.5.7 สามารถทำคะแนนได้ 416,329 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 6 CPU สามารถทำคะแนน Single core ได้ 903 คะแนน และ Multi core ได้ 2124 คะแนน ส่วนผลการทดสอบ Geekbench 6 GPU สามารถทำคะแนนได้ 1316 คะแนน
ผลการทดสอบ iQOO Z7x 5G ด้วยแอพฯ Antutu Benchmark 9.5.7
ผลการทดสอบ iQOO Z7x 5G ด้วยแอพฯ Geekbench 6
iQOO Z7 Series 5G – Born for Gen Z สมาร์ทโฟนที่เกิดมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
สมาร์ทโฟน iQOO Z7 Series 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ โดยจากการทดสอบความเร็วแรงของหน่วยประมวลผลจะเห็นว่าทั้งสองรุ่นทำคะแนนได้ดีมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในเรทราคานี้ เรามาทดสอบลองเล่นเกมกันเลยว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นจะเป็นอย่างไร
ในการทดสอบเล่นเกม 3D อย่าง PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบหนักหน่วง ในรุ่น iQOO Z7 5G สามารถปรับความละเอียดของภาพกราฟฟิคได้ถึงระดับ HDR HD และสามารถปรับเฟรมเรทได้สูงถึงระดับ Ultra เลยทีเดียว ถือว่าสามารถปรับภาพกราฟฟิคได้ในระดับที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ส่วนในรุ่น iQOO Z7x 5G สามารถปรับความละเอียดของภาพกราฟฟิคได้ถึงระดับ HD และสามารถปรับเฟรมเรทได้สูงถึงระดับ High ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ที่สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีกระตุก
ไม่เพียงความแรงของหน่วยประมวลผลที่เข้ามาช่วยในการเล่นเกมแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องของการเล่นเกม นั่นก็คือ Multi-Turbo และ Ultra Game Mode ที่ช่วยให้การเล่นเกมไหลลื่นมากยิ่งขึ้น สามารถปรับโหมดความแรงได้ 3 ระดับ สูงสุดที่ระดับ Monster โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่องมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และยังช่วยให้การแจ้งเตือน หรือโทรเข้าขัดจังหวะการเล่นเกมอีกด้วย มีระบบสั่น 4 มิติที่จะทำให้การเล่นเกมสมจริงมากยิ่งขึ้น และสำหรับนักกีฬา Esports ก็ยังมี Esports mode ที่จะช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงจัดการเฟรมเรทไม่ให้มีอาการสะดุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมโดยไม่มีข้อความการแจ้งเตือน หรือสายเรียกเข้ามากวนใจด้วย
Dual Camera 64 MP พร้อมระบบกันสั่น Ultra-Sensing OIS
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีกล้องมาให้เลือกใช้งานถึง 2 เลนส์ด้วยกัน ถ้าเน้นการถ่ายภาพ iQOO Z7 5G จะมีกล้องถ่ายภาพความละเอียดมากกว่าที่ 64 ล้านพิกเซล และมีระบบกันสั่นแบบ Ultra-Sensing OIS (Optical Image Stabilization) โดยจะเป็นระบบกันสั่นที่ตัวเลนส์ ต่างจากรุ่น Z7x 5G ที่มีเพียงระบบกันสั่นแบบ EIS (Electronic Image Stabilization) ที่ใช้ซอฟท์แวร์เข้าช่วยในการคำนวนการสั่นไหวของภาพ และในรุ่นนี้กล้องจะมีความละเอียดมาให้ 50 ล้านพิกเซล สำหรับสเปกของกล้องทั้ง 2 รุ่นมีดังนี้
iQOO Z7 5G
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79 ระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
- กล้องวิดีโอความละเอียด 4K 30 fps, Full HD 60 fps, HD 60 fps
iQOO Z7x 5G
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 ระบบกันภาพสั่นไหวแบบ EIS
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องวิดีโอความละเอียด Full HD 60 fps, HD 60 fps
ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพของทั้ง 2 รุ่นจะมีลูกเล่นการถ่ายภาพมาให้แบบพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพกลางคืน, การถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายพาโนรามา, ไลฟ์โฟโต้, สโลโม, ไทม์แลปส์, เอกสาร และยังมีการถ่ายรูปแบบสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายสติ๊กเกอร์ AR, การถ่ายวิดีโอแบบ Dual view เป็นการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน ซึ่งจำให้เห็นใบหน้า และ Reaction ของผู้ถ่าย หรือผู้ถือกล้องด้วย ไม่จำเป็นต้องตัดต่อซ้อนภาพให้วุ่นวาย ในการถ่ายวิดีโอในรุ่น Z7 5G ก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงถึง 4K แต่ใน Z7x 5G ถ่ายได้ที่ความละเอียด 1080p เท่านั้น นี่คือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
ตัวอย่างภาพถ่าย
ในการถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืนที่นอกจากจะทำให้คนดูโดดเด่นแล้ว ยังสามารถปรับเปลี่ยนดวงไฟเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังให้กลายเป็นรูปอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ, รูปดวงดาว, รูปผีเสื้อ หรือรูปดอกซากุระ ทำให้ภาพออกมาดูแปลกตาไม่เหมือนใคร
ตัวอย่างภาพถ่าย
ที่สุดของความเร็ว FlashCharge 120W ชาร์จเต็ม 100% ใน 26 นาที
ถือเป็นสมาร์ทโฟนในเรทราคาคุ้มค่าที่สุดที่นำเอาเทคโนโลยีการชาร์จเร็วถึง 120 วัตต์มาใช้ในรุ่น Z7 5G โดยปกติแล้วการชาร์จเร็วในระดับนี้จะอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงทั้งนั้น โดยแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุถึง 5000 mAh โดยจากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่จาก 2% ชาร์จเพียง 5 นาทีก็ได้ไฟมาถึง 30%, ชาร์จ 11 นาที ได้ไฟมาถึง 50% และเมื่อปล่อยชาร์จจนถึง 21 นาที ก็จะได้ไฟมาถึง 85% เลยทีเดียว ถือว่าเร็วมากๆ โดยเมื่อใกล้ถึง 100% จะใช้เวลาเพิ่มเล็กน้อย เพื่อความปลอดภัยในการชาร์จ
ส่วนในรุ่น Z7x 5G ก็มีจุดเด่นตรงที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานมากๆ และมีอแดปเตอร์ชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟ 80 วัตต์มาให้ในกล่อง จากการทดสอบชาร์จจาก 2% ใช้เวลา 10 นาทีก็ได้ไฟมาถึง 22%, 20 นาทีได้ไฟมาถึง 40% และที่ 60 นาทีก็ได้ไฟมาถึง 96% ถือว่าเร็วมากๆ สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ใช้เวลาเพียงประมาณ 67 นาทีเท่านั้น อาจจะดูช้ากว่า แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่า จึงใช้เวลามากกว่านั่นเอง
บทสรุป iQOO Z7 Series 5G จากความเห็นของ What Phone
หากดูจากภายนอกแล้วทั้งสองรุ่นแทบจะไม่ต่างกันเลย แต่ด้วยสเปกที่มีบางจุดแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล ขนาดแบตเตอรี่ ความเร็วในการชาร์จ ความละเอียดกล้องก็มีความต่างกันเล็กน้อย โดยหากต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพในราคาสุดคุ้มต้องยกให้ iQOO Z7 5G รุ่นนี้เลย เร็วกว่า แรงกว่า ชาร์จไว 120 วัตต์ กล้อง 64 ล้านพิกเซล แต่หากต้องการสมาร์ทโฟนที่มีราคาย่อมเยาว์กว่า iQOO Z7x 5G ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ค่อนข้างจะคุ้มค่า ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาทเท่านั้นเอง แต่ก็ยังได้กล้อง 50 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า 6000 mAh ชาร์จเร็ว 80 วัตต์ ใช้งานยาวๆ ได้ 2-3 วันทีเดียว และนี่คือทั้งหมดของ iQOO Z7 Series 5G ที่เราแนะนำว่าเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่คุ้มค่าในราคาที่ทุกคนจับต้องได้
iQOO Z7 Series พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดเอ็กคลูซีฟสำหรับ iQOOer ชาวไทยโดยเฉพาะ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย และ 4 รุ่นความจุ ในราคาสุดพิเศษ ดังนี้
iQOO Z7 5G กับ 2 สีใหม่ Metallic Grey และ Matrix Blue
- รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 10,999 บาท
- รุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 11,999 บาท
- พร้อมรับ E VIP Card มูลค่า 4,999 บาท สำหรับรับประกันตัวเครื่องเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น
iQOO Z7x 5G กับ 2 สีใหม่ Metallic Grey และ Tropical Blue
- รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 7,999 บาท
- รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 8,499 บาท
- พร้อมรับ E VIP Card มูลค่า 3,999 บาท สำหรับรับประกันตัวเครื่องเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 2 ปี สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น
สรุปสเปก iQOO Z7 5G
- ขนาด 164.58 x 75.80 x 8.75 มม. น้ำหนัก 201.5 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- หน้าจอ IPS LCD FHD+ ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล, แสดงผล 120 Hz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 782G Octa-core 2.7 GHz
- ชิปประมวลภาพ 3D Adreno 642L
- ระบบปฏิบัติการ Android 13, Funtouch OS 13
- หน่วยความจำมี 2 รุ่น
- RAM 8 GB, ROM 128 GB
- RAM 12 GB, ROM 256 GB
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79 ระบบกันสั่น Ultra-Sensing OIS
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 30 เฟรมต่อวินาที, Full HD 1080p 60 เฟรมต่อวินาที
- แบตเตอรี่ 5000 mAh, FlashCharge 120 วัตต์
- มีให้เลือก 2 สี Matrix Blue, Metallic Grey
สรุปสเปก iQOO Z7x 5G
- ขนาด 164.63 x 75.80 x 9.10 มม. น้ำหนัก 205 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- หน้าจอ IPS LCD FHD+ ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2388 พิกเซล, แสดงผล 120 Hz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 Octa-core 2.2 GHz
- ชิปประมวลภาพ 3D Adreno 619
- ระบบปฏิบัติการ Android 13, Funtouch OS 13
- หน่วยความจำมี 2 รุ่น
- RAM 8 GB, ROM 128 GB
- RAM 8 GB, ROM 256 GB
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79 ระบบกันสั่น EIS
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 60 เฟรมต่อวินาที
- แบตเตอรี่ 6000 mAh, FlashCharge 80 วัตต์
- มีให้เลือก 2 สี Tropical Blue, Metallic Grey
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง iQOO Z7 5G
ตัวอย่างภาพจากกล้อง iQOO Z7x 5G
