LG G2 mini
หลังจากได้รับคำชมจากผู้ใช้งาน และเหล่าบล็อกเกอร์ นักวิจารณ์ในวงการมือถือกันไปพอสมควร กับ LG G2 สมาร์ทโฟนที่แหวกแนวด้วยปุ่ม Rear Key มาในปีนี้ทางค่าย LG ได้ส่ง LG G2 mini ทายาทของรุ่นฮ็อท มาลุยตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ซึ่งมองเผินๆ หน้าตาของมันแทบจะโขกออกมาจากบล็อกเดียวกันกับ G2 แต่เมื่อสังเกตกันดีๆ ตำแหน่งของกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ จะสลับข้างกัน และวัสดุของฝาหลังเปลี่ยนมาเป็นพลาสติกแบบด้าน แทนที่ของเดิมซึ่งมีพื้นผิวมันวาว นอกจากนี้ด้วยคำว่า mini ต่อท้ายชื่อรุ่น ก็พอจะบอกเป็นนัยได้ว่า LG G2 mini เครื่องนี้มีขนาดที่เล็กลง ด้วยหน้าจอสัมผัสแบบ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว ลดความละเอียดของหน้าจอลงมาอยู่ที่ 540 x 960 พิกเซล ซึ่งความละเอียดอาจจะไม่เนียนกริ๊บ แต่หน้าจอ IPS ก็ยังคงให้ความสว่าง และสีสันที่สดใสเหมือนเคย
สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานของ LG G2 mini นั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ด้วย CPU Snapdragon 400 Quad-core 1.2 GHz พร้อม RAM 1 GB มีหน่วยความจำมาให้ 8 GB ตามมาตรฐานของมือถือระดับนี้ โดยที่สามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB ในส่วนของซอฟแวร์นั้นค่อนข้างสดใหม่กับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 หรือ Kitkat นั่นเอง และหากจะพูดถึงจุดเด่นของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่ได้รับมรดกมาจากรุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Rear Key, Plug & Pop, Guest Mode, Quick Memo, Q-Slide ฯลฯ แถมบางฟีเจอร์ยังได้รับการพัฒนาให้ล้ำหน้าจนรุ่นพี่ต้องมีงอน อย่างฟีเจอร์ Knock Code ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยมากกว่า Knock On แบบปกติ โดยเราสามารถตั้งค่าการเคาะในรูปแบบเฉพาะตัวได้ตั้งแต่ 2 – 8 ครั้งเพื่อปลดล็อคหน้าจอ นอกจากนี้อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ การใช้งาน 2 ซิม (รองรับ microSIM) ซึ่งมีปุ่มสลับซิมที่แถบเมนูให้เลือกสลับการใช้งานได้อย่างสะดวก
Physical Overview
LG G2 mini มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดอยู่ที่ 540 x 960 พิกเซล ที่ขอบบนของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง และกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
สำหรับ LG G2 mini นั้นได้ย้ายแถบ Capacitive Button ที่ขอบล่างหน้าจอ มารวมเอาไว้ในหน้าจอสัมผัส โดยจะไล่เรียงไปตั้งแต่ปุ่ม Back, Home, Menu ซึ่งสามารถไปตั้งค่าสลับไอคอนเหล่านี้ได้เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง G2 นอกจากนี้ใน LG G2 mini ยังได้เพิ่มปุ่มสลับซิมเข้ามาอีกด้วย
ขอบเครื่องทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของ LG G2 mini ถูกปล่อยทิ้งไว้โล่งๆ ไม่มีปุ่มกด หรือพอร์ตใดๆ จัดวางอยู่เลย ซึ่งใครที่ติดตามกันมาตั้งแต่สมัย G2 คงพอจะทราบเหตุผลกันดี ^^
ย้ายมาดูกันที่ด้านบนของ LG G2 mini จะพบกับช่องต่อชุดหูฟังสเตอริโอขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรจัดวางอยู่ พร้อมพอร์ต IR Blaster สำหรับเปลี่ยนให้ LG G2 mini กลายเป็นรีโมทครอบจักรวาล
ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของพอร์ต microUSB สำหรับเสียบสายชาร์จ และสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกขนาบข้างด้วยช่องลำโพง (ด้านขวา) และช่องไมโครโฟน (ด้านซ้าย)
ฝาหลังของ LG G2 mini ได้เปลี่ยนเป็นพลาสติกแบบด้านพิมพ์ลวดลายขรุขระ เป็นที่อยู่ของกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED 1 ดวง ถัดลงมาคือแผงปุ่มกด Rear Key เจ้าเก่า ซึ่งรวมเอาปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์เอาไว้ด้วยกัน เป็นคำตอบของคนที่สงสัยว่าทำไมขอบด้านข้างตัวเครื่องถึงได้โล่งซะขนาดนั้น
เกือบลืมบอกไปว่า LG G2 mini เครื่องนี้สามารถเปิดฝาหลังออกมาใส่ซิม (รองรับ microSIM ทั้ง 2 ซิม) เพิ่ม microSD และถอดเปลี่ยนแบตได้ด้วยตัวเองแล้วนะ โดยแบตเตอรี่ของ LG G2 mini นั้นมีความจุอยู่ที่ 2,440 mAh ซึ่งถือว่าเป็นความจุที่เยอะพอสมควรสำหรับมือถือสเปคประมาณนี้
8 Megapixel Camera with Multi-Point AF
LG G2 mini มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED หนึ่งดวง ด้วยความที่เป็นรุ่นเล็กจึงได้ตัดระบบกันสั่น OIS ออกไป แต่ยังคงมีระบบ Multi-Point AF หรือระบบออโต้โฟกัสแบบหลายจุด (สูงสุด 9 จุด) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจับโฟกัส ให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดมากยิ่งขึ้น ในส่วนของซอฟแวร์กล้องนั้นมีหน้าตาเมนูคำสั่งต่างๆ ถอดแบบมาจากรุ่นพี่อย่าง G2 เป๊ะ มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น HDR, Panorama, Continuous shot, Beauty shot, Time catch shot และ Sports สำหรับการตั้งค่าพื้นฐานก็มีมาให้ครบทั้งการปรับความสว่าง, ปรับไวท์บาลานซ์, ปรับค่า ISO, เลือกเอฟเฟ็คท์สี, เลือกโหมดโฟกัส (รองรับแมนนวลโฟกัส), ถ่ายภาพด้วยเสียง (Cheese shutter) ฯลฯ สำหรับการถ่ายวิดีโอ LG G2 mini ยังคงทำได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p
Entertainment
การใช้งานในภาคบันเทิงของ LG G2 mini นั้นมีมาให้ใช้งานกันอย่างครบครัน ทั้งเครื่องเล่นวิดีโอที่รองรับไฟล์ Full HD 1080p สามารถถ่ายภาพนิ่งจากวิดีโอมาเก็บเอาไว้ได้ พร้อมย่อเป็นหน้าต่างขนาดเล็ก เพื่อทำงานอื่นขณะรับชมวิดีโอได้ทันที นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Smart Video ที่จะเปิดหน้าจอไว้ตลอดเวลาที่เรากำลังดูวิดีโออยู่ สำหรับเครื่องเล่นเพลงสามาถเลือกเล่นเพลงจากโฟลเดอร์ที่เรารวมเพลงเอาไว้ได้ทันที พร้อมรองรับการปรับเอฟเฟ็คท์เสียงผ่านอีควอไลเซอร์ และเลือกค้นหา MV เพลงที่ฟังอยู่จาก YouTube ได้ทันที ส่วนฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างวิทยุ FM ก็ยังคงมีมาให้รับฟังกัน อีกทั้งยังเลือกอัดเพลงจากรายการวิทยุเอาไว้ฟังภายหลังได้ด้วย
Connectivity
LG G2 mini รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน 3G จากทั้ง 2 ซิม ให้เลือกสลับใช้งาน Data ได้จากทั้ง 2 สล็อต โดยไม่ต้องปิดเครื่องถอดเปลี่ยนซิมให้วุ่นวาย อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่น Smart Forward ช่วยให้เราไม่พลาดทุกการติดต่อ ในกรณีที่มีการใช้งานโทรศัพท์ผ่านซิมใดอยู่ เมื่อมีใครติดต่อเข้ามายังหมายเลขของอีกซิม ตัวเครื่องจะโอนสายไปยังซิมหลักที่กำลังใช้งานอยู่ทันที สำหรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ก็มีมาให้ใช้งานกันตามปกติ พร้อมรองรับการโอนไฟล์ด้วยความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi Direct นอกจากนี้ LG G2 mini ยังติด IR Blaster หรือพอร์ตส่งสัญญาณอินฟราเรด สำหรับใช้งาน Quick Remote แปลงร่าง LG G2 mini เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ภายในบ้าน ได้เกือบทุกชนิด
Final Opinion & Conclusion
LG G2 mini สมาร์ทโฟน 2 ซิม ที่มีสเปคระดับกลาง ซึ่งถือเป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การใช้งานของ G2 แต่ยังไม่เห็นความจำเป็นของการใช้มือถือ จอใหญ่ Full HD พร้อมสเปคสุดแรง เพราะฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ที่ LG G2 mini ให้มานั้นค่อนข้างครบครัน ยกเอาจุดเด่นจาก G2 มาไว้เกือบทั้งหมด พร้อมเคาะราคาเปิดตัวออกมาในระดับที่ไม่สูงจนเกินไปนัก
Strength
– หน้าจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว
– ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4.2 (Kitkat)
– เพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 32 GB
– เข้ารหัสการเคาะหน้าจอเพื่อปลดล็อคผ่าน Knock Code
– รวมฟีเจอร์เด่นๆ จากรุ่นพี่อย่าง G2
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม, เชื่อมต่อ 3G ได้ทุกเครือข่าย (จากทั้ง 2 ซิม)
– กล้อง 8 ล้านพิกเซล, Multi-Point AF, ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p
– เครื่องเล่นเพลง, วิทยุ FM, เครื่องเล่นวิดีโอรองรับไฟล์ HD
– แบตเตอรี่ความจุสูง (Li-Ion 2,440 mAh)
Weakness
– ฝาหลังใช้วัสดุเป็นพลาสติกแบบด้านพิมพ์ลวดลายขรุขระ ทำให้เกิดรอยเปื้อนง่ายพอสมควร
รูปตัวเครื่อง LG G2 mini G2
รูปหน้าจอ LG G2 mini G2