เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยกันไปแล้ว สำหรับคอมพิวเตอร์พกพาสายพันธุ์ล่าสุดจาก Apple ที่มีชื่อเรียกว่า ‘ MacBook ’ ไม่มีคำว่า Air หรือ Pro ต่อท้าย ซึ่ง MacBook นี้เป็นไลน์คอมพิวเตอร์ไลน์ใหม่ของ Apple ที่อยู่ก่อน MacBook Air และ MacBook Pro นั่นเอง โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ก็หนีไม่พ้นดีไซน์ที่สวยงาม
MacBook 2015 บางเบา ไม่ถึง 1 กิดลกรัม
บางเพียง 13.1 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 0.9 กิโลกรัมเท่านั้น
บางเฉียบเพียง 13.1 มิลลิเมตร บางกว่าปากกาเสียอีก
หน้าจอ Retina ขนาดใหม่ 12 นิ้ว ขอบบาง ชัดเต็มตา
MacBook ของ Apple มาพร้อมกับหน้าจอ Retina ขนาด 12 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 2304 x 1440 พิกเซล แสดงผลตัวอักษรและภาพถ่ายได้คมชัดทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังให้ประสบการณ์รับชมภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม โดย MacBook รุ่นนี้จะมีสัดส่วนของภาพที่ 16:10 และนอกจากนี้ไฮไลท์ของจอภาพบน MacBook ใหม่ของ Apple นี้ก็คือ ขนาดความบางของหน้าจอที่บางเพียง 0.88 มิลลิเมตรเท่านั้น บางเฉียบ และเป็นจอ Retina ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยมีมาบน Mac เลยครับ
คีย์บอร์ดใหม่ กลไกแบบปีกผีเสื้อ
คีย์บอร์ดของ MacBookมาพร้อมกับกลไกคีย์บอร์ดแบบใหม่ที่ Appleดีไซน์ขึ้นมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์ และลดอาการโยกและคลอนของปุ่ม โดยเรียกกลไกแบบใหม่นี้ว่า Butterfly Mechanismหรือชื่อภาษาไทยว่ากลไกปีกผีเสื้อ โดยการดีไซน์ปุ่มคีย์บอร์ดใหม่ของ MacBook ใหม่นี้ทำให้คีย์บอร์ดของ MacBook รุ่นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมากถึง 17% ซึ่งจะเห็นว่าคีย์บอร์ดของ MacBook ใหม่นี้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก มีพื้นที่การทำงานของคีย์บอร์ดได้มากขึ้น นอกจากนี้คีย์บอร์ดแบบใหม่นี้ยังตื้นลง เพราะมีส่วนประกอบภายในปุ่มลดลงถึงกว่า 40% เลยทีเดียว และยังมีไฟ LED ส่องสว่างในทุกปุ่มของตัวอักษรบนคีย์บอร์ด และจากการใช้
งานพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดของ MacBook ใหม่นี้เป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนพบว่าคีย์บอร์ดแบบกลไกผีเสื้อของ
MacBook รุ่นนี้ช่วยให้พิมพ์ได้รวดเร็วขึ้นจริงๆ
รูปแสดงกลไกของคีย์บอร์ดแบบใหม่เทียบกับแบบเก่า
Trackpad แบบใหม่มาพร้อม Force Touch
MacBook รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับ Trackpad แบบใหม่จาก Apple ที่มีชื่อเรียกว่า Force Touch หน้าตาของ Trackpad อาจจะดูเหมือนกับทั่วๆไ่ป และยังรองรับการใช้งานคำสั่งนิ้ว Multi-touch ตามแบบฉบับของ Mac ที่คุ้นเคยไม่ว่าจะเป็นการเลื่อน, การปัด, การหนีบนิ้ว, การหมุน และนอกจากนี้ใต้ Trackpad จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกด ซึ่งสามารถตรวจจับแรงกดของนิ้วมือของเราได้ และเพิ่มคำสั่งใหม่ๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คลิกและกด Trackpad ค้างไว้จะสามารถเข้าไปค้นความหมายของคำศัพท์ ดูตัวอย่างไฟล์ใน Finder ได้ เป็นต้น และในอนาคต Force Touch นี้ก็จะรองรับคำสั่งใหม่ๆ มากขึ้นด้วยอย่างแน่นอน
USB-C พอร์ตเดียวครอบจักรวาล
นอกจากเรื่องของดีไซน์ ความบาง คีย์บอร์ด และหน้าจอ Retina แล้ว MacBook ใหม่ของ Apple รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับพอร์ตเพียงพอร์ตเดียว และยังเป็นพอร์ตที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดเรียกว่า USB-C โดยพอร์ตเพียงพอร์ตเดียวของ MacBook รุ่นนี้ทำหน้าที่ครอบจักรวาลทั้ง เป็นพอร์ตจ่ายไฟเพื่อเสียบอแดปเตอร์ชาร์จไฟ (รุ่นนี้ไม่ใช้พอร์ตแบบ Magsafe แล้ว), ใช้เป็นพอร์ตเชื่อมต่อเข้ากับ USB, ใช้เป็นพอร์ตต่อเชื่อมเข้ากับจอภาพและโปรเจ็คเตอร์ผ่านทาง HDMI และ VGA โดยพอร์ต USB-C นี้มีขนาดเล็กเพียง 1/3 ของพอร์ต USB ปกติ
นอกจากนี้ยังสามารถเสียบได้ทั้งสองด้านได้อีกด้วย
พอร์ต USB-C จะมีอแดปเตอร์สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ
ไฮไลท์ของพอร์ต USB-C คือสามารถเสียบ PowerBank ชาร์จไฟให้กับ MacBook ได้ด้วย
อีกด้านหนึ่งของ MacBook จะมีรูไมโครโฟนขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรูไมโครโฟน 2 รู ช่วยในการตัดเสียงรบกวน
ลง Windows ได้ตามปกติ
นอกจาก MacBook จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของ Mac OS อย่าง OS X Yosemite แล้ว เรายังสามารถนำ MacBook มาลงระบบปฏิบัติการ Windows ได้ตามปกติ ผ่านทาง Bootcamp หรือวิธีการอื่นๆ ก็สามารถทำได้
Intel Core M, MacBook ตัวแรกที่ไม่มีพัดลม
โปรเซสเซอร์ภายในของ MacBook นั้นมาพร้อมกับ Intel Core M (Broadwell) ซึ่งเป็นชิพที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ 14 นาโนเมตร และเป็น MacBook ตัวแรกที่ไม่มีพัดลม เพราะ Intel Core M นั้นกินพลังงานต่ำเพียง 5 วัตต์ มีความร้อนน้อยลง จึงไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมระบายอากาศอีกต่อไป และถึงแม้ว่า Intel Core M ที่มีบน MacBook จะทำให้ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของโปรเซสเซอร์ลดลง แต่ก็ทำให้ตัวแผงวงจรของ MacBook นั้นมีขนาดเล็กลงมาก แผงวงจรของ MacBook นั้นเล็กกว่า MacBook Air 11 นิ้วเสียอีก นอกจากนี้ MacBook รุ่นใหม่นี้ยังให้สเป็คของหน่วยความจำ (RAM) แบบ LPDDR3 ขนาดถึง 8 GB และมีความจุของ SSD ตั้งแต่ 256 GB ถึง 512 GB ส่วนการใช้งานนอกสถานที่ด้วยแบตเตอรี่นั้น ด้วยความที่แผงวงจรของ MacBook นั้นเล็กลงมาก จึงทำให้ภายในของ MacBook นั้นใส่แบตเตอรี่ก้อนมหึมา และทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบ MacBook รุ่นนี้นั้นก็อยู่ได้ราวๆ 6-9 ชั่วโมง แล้วแต่ความหนักเบาในการใช้งานในแต่ละวัน
สรุป
MacBook ใหม่ของ Apple รุ่นนี้นั้นเป็นโน้ตบุ๊คที่เหมาะแก่ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องทำงานนอกสถานที่บ่อย ด้วยรูปลักษณ์สวยงาม พกพาสะดวกสบายด้วยน้ำหนักที่เบาเพียงไม่ถึง 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีความบางมากอีกด้วย และ MacBook รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mac OS X Yosemite มีหน้าจอ Retina ที่คมชัด พร้อมคีย์บอร์ดใหม่ที่พิมพ์ได้อย่างแม่นยำ แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้สเป็คเครื่องที่สูง เพราะด้วยความที่ Apple นั้นออกแบบ MacBook รุ่นนี้ให้เน้นในด้านของการพกพาสะดวก กินพลังงานต่ำ จึงมีการใช้โปรเซสเซอร์ที่กินไฟต่ำและประสิทธิภาพไม่ได้สูงมาก เพราะฉะนั้นถ้าซื้อมาใช้งานด้านกราฟิกหรือตัดต่อนั้นไม่เหมาะอย่างแน่นอน
ข้อดี
- ดีไซน์สวย อลูมิเนียมยูนิบอดี้
- มีสีให้เลือกหลายสี คือ สีเงิน, สีเทา และสีทอง
- Trackpad และคีย์บอร์ดแบบใหม่
- จอ Retina สวยคมชัดทุกมุมมอง
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ข้อเสีย
– มีพอร์ตเชื่อมต่อแค่พอร์ตดียว
– ต้องทำความเข้าใจกับคีย์บอร์ดสักระยะหนึ่งจึงจะพิมพ์ได้สะดวกขึ้น