ถ้ารู้สึกเบื่อกับการดูหนัง ดูภาพยนตร์บนสมาร์ทโฟนหน้าจอเล็กๆ Mi TV Stick คือตัวช่วยที่จะทำให้ดูหนัง ดูละคร ดู Netflix บนหน้าจอทีวีจอใหญ่ได้ง่ายๆ เพียงแค่เสียบเข้ากับพอร์ต HDMI บนจอทีวี เพียงเท่านี้ก็บันเทิงกับภาพยนตร์หน้าจอใหญ่ๆ ที่บ้านได้แล้ว หรือจะพกไปดูหนังในโรงแรม ที่ทำงานก็ได้เช่นกัน มาดูกันว่านอกจากจะดูภาพยนตร์แล้ว เจ้าแท่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง
ทำความรู้จักกับ AndroidTV
AndroidTV คือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ทำงานร่วมกับ Hardware หรืออุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นทีวี หรือกล่องแอนดรอยด์อื่นๆ สามารถดาวน์โหลดแอพฯ ดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมได้บนหน้าจอทีวี แล้วแต่ผู้ผลิตจะนำ AndroidTV ไปใช่ร่วมกับอุปกรณ์อะไร แต่สำหรับ TV Stick นำมาใช้ร่วมกับ Hardware ที่อัดรวมเข้ามาอยู่ในรูปแบบแท่งคล้ายกับ USB Flash drive แต่มาในรูปแบบของพอร์ต HDMI ขนาดเล็กกะทัดรัด พร้อมเสียบเข้าที่ด้านหลังของทีวี เชื่อมต่อ WiFi แล้วใช้งานได้ทันที
แกะกล่องดูหนังกับ Mi TV Stick
กล่องมาในรูปแบบของสีส้ม พร้อมโลโก้แอพฯ ต่างๆ ที่ติดตั้งมาพร้อมกัน ด้านข้างบอกคุณสมบัติเด่น และอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- Mi TV Stick
- Remote Control
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ
- สาย USB
- คู่มือการใช้งาน
Mi TVStick มีลักษณะคล้ายกับ USB Flash Drive แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ตัวเครื่องจะมีลักษณะเป็นแท่งสีดำ ปลายด้านหนึ่งเป็นพอร์ต HDMI ที่จะส่งทั้งสัญญาณภาพ และเสียงแบบดิจิตอลรวมในพอร์ตเดียวกัน สามารถนำไปเสียบกับทีวีที่มีพอร์ต HDMI ได้ทันที
ที่ด้านข้างของตัวเครื่องมีพอร์ต Micro USB เป็นตัวรับพลังงานจากสาย และอแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งหากด้านหลังทีวีมีพอร์ต USB แนะนำให้เสียบกับทีวีได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียบอแดปเตอร์ให้เสียเกะกะ แต่หากเสียบแล้วจ่ายไฟไม่พอก็ค่อยนำอแดปเตอร์มาใช้งาน
เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างยาว อาจจะมีปัญหากับทีวีที่ติดตั้งกับผนัง ซึ่งหากเสียบที่ด้านข้างของทีวีจะไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ แต่หากเสียบที่ด้านหลังอาจจะมีปัญหากับระยะห่างระหว่างทีวีกับผนัง ควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อไปใช้งาน
รีโมทคอนโทรลเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ไม่ได้เป็นอินฟราเรดเหมือนกับรีโมททั่วไป สามารถกดสั่งงานได้โดยไม่ต้องจ่อไปที่ตัวเครื่อง สามารถกดตรงไหนก็ได้ในรัศมีไม่เกิน 5 เมตร ตัวรีโมทต้องใช้ถ่านขนาด AAA 2 ก้อน ต้องหาซื้อมาเองเพราะในกล่องไม่ได้แถมมาให้ ตัวรีโมทมีปุ่มลัดเข้าแอพฯ Netflix และ Prime Video มาให้เป็นปุ่มสีขาวเห็นชัดเจน นอกจากนี้ก็มีปุ่มเปิดปิดเครื่อง, ปุ่ม Google Assistant, ปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง, ปุ่มแอพฯ รวม, ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่มปรับระดับเสียง ที่ด้านบนของรีโมทมีช่องไมโครโฟนรับคำสั่งเสียงด้วย
เสียบ เชื่อมต่อ ใช้งานง่าย ไม่เกะกะ
อย่างที่เราได้บอกไปว่าตัว Mi TVStick มีขนาดค่อนข้างเล็กกะทัดรัด สามารถนำไปเสียบเข้าที่พอร์ต HDMI ด้านหลังทีวีได้ทันที ไม่ได้เป็นกล่องที่ต้องหาที่วางให้เกะกะ สาย USB ก็สามารถเสียบได้จากพอร์ต USB ของทีวีที่อยู่ด้านหลัง เพราะตัวเครื่องใช้ไฟเพียง 5 วัตต์เท่านั้น หรือหากจ่ายไฟไม่พอค่อยใช้อแดปเตอร์ที่มีมาให้ในกล่อง
ขั้นตอนการใช้งานก็เพียงแค่เปิดทีวี เชื่อมต่อรีโมทคอนโทรล แล้วเชื่อมต่อ WiFi ตามขั้นตอนที่ปรากฎบนหน้าจอ เสร็จแล้ว Login Google Account ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน แต่หากใช้งานครั้งแรกอาจจะมีให้อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็เสร็จสิ้น
ภายใน TV Stick ก็จะมีบริการจาก Google และแอพฯ ที่ดาวน์โหลดมาให้พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix, Prime video, Google Play Movies, Google Play Music, Facebook Watch การใช้งานแอพฯ เหล่านี้หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วก็สามารถ Login เข้าใช้งานดูหนัง ฟังเพลงได้เลยทันที หรือหากต้องการใช้งานแอพฯ อื่นๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก Google Play Store อย่างเช่น True IDTV, iflix, Line TV เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเกมให้เลือกดาวน์โหลดมาเล่นผ่านรีโมท หรือผ่านจอยเกม ซึ่งจะต้องซื้อเพิ่มมาเล่นก็ได้เช่นกัน หน่วยความจำเครื่องมีมาให้ 8 GB แต่เหลือให้ใช้งานได้ 5.1 GB ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว
สำหรับการใช้งานด้วยคำสั่งเสียงก็มี Google Assistant มาให้ หรือหากต้องการค้นหาก็สามารถใช้คำสั่งเสียงสั่งพิมพ์ได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ไม่ต้องกดรีโมทเลือกตัวอักษรให้เสียเวลา
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Chromecast ในตัว สามารถแคสได้ทั้งภาพนิ่ง คลิปวิดีโอจากหน้าจอมือถือไปยังหน้าจอทีวีได้เพียงแค่อยู่ในวง LAN เดียวกัน หรือหากเป็นแอพฯ อื่นๆ ก็เพียงแค่เลือกหนัง ซีรี่ย์ที่ดูจากมือถือค้างเอาไว้จากนอกบ้าน กลับมาถึงบ้านก็แคสขึ้นหน้าจอทีวีก็ได้เช่นกัน สามารถดูได้แบบต่อเนื่องไร้รอยต่อ
บทสรุป Mi TV Stick จากความเห็นของ What Phone
ถือเป็นอุปกรณ์ที่สร้างความบันเทิงให้กับเราได้ผ่านหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ ทำให้เราไม่ต้องอุดอู้อยู่กับหน้าจอมือถือเครื่องเล็กๆ นั่งดูหนัง ละคร ซีรี่ย์ได้แบบสบายๆ ไม่ต้องก้มหน้าก้มตาเพ่งหน้าจอมือถือ เหมาะกับผู้ใช้ที่มีทีวีเครื่องเก่าที่ดาวน์โหลดแอพฯ เพิ่มไม่ได้ หรือเหมาะกับผู้ใช้ที่มี Account ดูหนังฟังเพลงจากสมาร์ทโฟน แต่อยากดูบนหน้าจอใหญ่ๆ ก็เหมาะเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถพกพาไปดูที่บ้านเพื่อน หรือพกเดินทางไปต่างจังหวัดดูที่โรงแรม เพียงแค่เสียบแล้วเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือด้วย WiFi Hot spot หรือผ่าน WiFi โรงแรมก็ดูต่อได้ทันที เปิดตัวในราคาเพียง 1,490 บาท เพียงเท่านี้ก็เปลี่ยนทีวีเครื่องเก่าให้เห็น Android TV ได้แล้ว
สรุปสเป็ค
- ขนาด 92.4 x 30.2 x 15.2 มม.
- น้ำหนัก 28.5 กรัม
- หน่วยประมวลผล CPU: Quad core Cotex A53
- GPU: ARM Mali-450
- RAM: 1 GB, ROM: 8 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 9
- การเชื่อมต่อ HDMI x 1, Micro USB x 1
- Bluetooth 4.2
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4 GHz / 5 GHz
- รองรับวิดีโอความละเอียด 1920 x 1080 FHD@60fps
- รองรับระบบเสียง Dolby Audio and DTS
- มี Chromecast ในตัว
- ราคา 1,490 บาท