Motorola ตอนนี้ได้เปิดแบรนด์ใหม่ Verve Life ที่เน้นพัฒนาด้านอุปกรณ์เสริมเป็นหลัก กับล่าสุด Verve Ones ที่เป็นหูฟังแบบไร้สาย ที่ต้องใช้คำว่า “True Wireless Bluetooth Headset” เพราะว่ามันไม่มีสายเลยจริงๆ และยังออกแบบมาให้มีขนาดที่พกพาได้สะดวกและใช้งานได้ง่าย รวมถึงมีฟีเจอร์การใช้งานครบครับ ที่สำคัญเรื่องของเสียงก็ถือว่าทำได้ดีเกินคาด
Motorola Verve Ones หูฟังไร้สายที่ไม่มีสาย
ตัวชุดหูฟังจะประกอบด้วยตัวหูฟังที่แยกออกจากกันอิสระซ้ายและขวา มาพร้อมกับเคสสำหรับเก็บรูปทรงกระบอกที่ทำหน้าที่เป็นที่ชาร์จแบตเตอรี่เติมพลังงานให้กับตัวหูฟังในเวลาที่เก็บไว้ไม่ใช้งานได้ โดยที่ด้านล่างของเคสจะมีช่องให้เสียบสายแบบ Micro USB เพื่อชาร์จไฟเก็บเอาไว้ชาร์จตอนเอาหูฟังมาเก็บ ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานหูฟังได้นานถึง 12 ชั่วโมง
การเปิดเคสเก็บหูฟังจะใช้วิธีบิดหมุน ก็จะเห็นตัวหูฟังวางอยู่ด้านใน ถ้าแกะหูฟังออกมาจะเห็นเป็นขั้วสัมผัสสำหรับชาร์จให้กับหูฟังทั้ง 2 ข้าง และมาดูที่ตัวของหูฟังจะเห็นได้ว่าหน้าตามันเหมือนกัน แต่จะมีตัวอักษร L R ระบุอยู่ให้ทราบว่าอันไหนเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ตัวจุกหูฟังเป็นแบบซิลิโคนที่แกะเปลี่ยนได้ โดยในชุดก็มีแถมมาให้หลายขนาด หรือถือยากจะถอดเปลี่ยนไปใช้แบบอื่นๆ ก็ทำได้ เพราะออกแบบมาใช้เป็นหัวขนาดมาตรฐาน
นอกจากนี้ที่ใกล้ๆ กับบริเวณจุกหูฟัง จะมีตัวเซนเซอร์ที่ตรวจจับว่าเราสวมตัวหูฟังเอาไว้อยู่หรือไม่ ที่จะสะดวกตรงขณะที่เราเปิดฟังเพลงอยู่ พอถอดหูฟังออกก็จะทำการหยุดเพลงที่เล่นอยู่ให้ทันที และที่หูฟังทั้ง 2 ข้างจะมีปุ่มกดอยู่เพื่อสั่งคำสั่งระหว่างที่ใช้งานได้
- กด 1 ครั้งจะเป็นการสั่ง Play / Pause เพลงที่กำลังฟังอยู่
- กด 2 ครั้งติดกัน จะเป็นการสั่ง skip เพลงไปเล่นเพลงต่อไป
- กดค้างไว้ จะเป็นการกดเลือกเปลี่ยนโปรไฟล์เสียง Equalizer ที่จะมีให้เลือกได้หลายแบบ ตอนที่เลือกจะมีระบบเสียงแจ้งว่าเป็นโปรไฟล์เสียงแบบไหน ถ้าต้องการแบบไหนก็กดปุ่มอีกครั้งเพื่อเลือกได้เลย
และนอกจากจะเอาไว้ใช้เป็นหูฟังแล้ว ก็ยังใช้เป็น Small Talk เพื่อสนทนาได้ด้วย โดยปุ่มกดเอาไว้ใช้สำหรับรับและวางสายได้ รวมถึงเป็นไมค์สำหรับใช้เป็นคำสั่งเสียงเวลาใช้งานร่วมกับ Siri หรือว่า Google Now ได้อีกด้วย
ตัวหูฟังนั้นอาจจะดูแล้วเหมือนมีขนาดที่ใหญ่ แต่น้ำหนักถือว่าไม่มากนักอยู่ที่ 68 กรัม (ข้างละ 34 กรัม) เวลาใส่ไม่รู้สึกรำคาญ ส่วนการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนใช้เป็น Bluetooth เวอร์ชั่น 4.1 ที่ประหยัดพลังงาน
เชื่อมต่อการใช้งานกับสมาร์ตโฟนผ่านแอพ Hubble Connected Verve Life
ตัวหูฟัง Motorola Verve Ones จะมีแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้ในการจัดการเพิ่มเติม โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพ Hubble Connected Verve Life ได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยในการจับคู่เชื่อมต่อครั้งแรกกับแอพ จะต้องเอาตัวหูฟังใส่ไว้กับตัวเคสแล้วหมุนฝาออก แอพก็จะทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ
ในตัวแอพ Hubble Connected จะมีแจังปริมาณแบตเตอรี่ของตัว verve ones ทั้ง 2 ข้างว่ามีแบตเตอรี่อยู่กี่เปอร์เซนต์ และจะมีเมนูให้เลือกปรับแต่งได้ตั้งแต่
- EQ Setting ปรับโปรไฟล์ของเสียงที่มีให้เลือกได้ 6 แบบคือ Bass, Live, Brilliant, Balanced, Rhythm, Moto Sound
- เปิดปิดระบบ Ear-detect
- ระบบ Pass-through audio ที่จะเปิดให้เสียงจากภายนอกเข้ามาทางไมโครโฟน ทำให้ระหว่างที่ใส่ฟังเพลงอยู่ เราสามารถได้ยินเสียงภายรอบข้างได้ด้วย ใช้เพื่อความปลอดภัยเวลาที่อยู่นอกสถานที่, เดินทาง หรือว่าออกกำลังกาย แต่การเลือกเปิดโหมดนี้ก็จะส่งผลให้คุณภาพของเสียงเพลงที่ฟังลดลงด้วย
- Voice Prompt เลือกภาษาเสียงพูดของระบบ ที่จะบอกเราเวลาใส่หูฟังว่าจะให้พูดเป็นภาษาอะไร (แนะนำว่าใช้เป็นภาษาอังกฤษ)
- Location แสดงพิกัดตำแหน่งสุดท้ายของหูฟังผ่านทางแผนที่ เพื่อช่วยให้เราทราบตำแหน่งของหูฟังได้ กรณีที่ทำตกหล่นหรือว่าสูญหายได้
ใช้เป็นหูฟังแบบสเตอริโอ เสียงคุณภาพ HD หรือใช้ข้างเดียวเป็น Smalltalk ก็ได้
ด้วยความที่ตัวหูฟังแยกออกจากกันอย่างอิสระ ทำให้เราเลือกใช้งานได้ว่าจะใส่ทั้ง 2 อันเพื่อใช้ฟังเพลงดูหนังคุณภาพเสียงแบบสเตอริโอระดับ HD แต่ถ้าต้องการใช้งานเพื่อสนทนา ก็ใส่หูข้างเดียว แล้วอีกอันเสียบชาร์จไว้ในเคสก็ได้
หูไม่มีสาย หลุดง่ายหรือเปล่า?
ตัวหูฟัง Verve Ones พอเห็นเป็นดีไซน์แบบนี้ ที่ไม่มีสายคล้องติดกันและไม่มีตัวซิลิโคนเป็นปีกมาคล้องกับใบหู หลายคนอาจจะรู้สึกว่าแล้วแบบนี้มันจะหลุดง่ายหรือเปล่า เพราะถ้าใส่ๆ อยู่แล้วเกิดหลุดหล่นหลายไปนี่มีน้ำตาไหลกันแน่ จากการทดสอบดูโดยใส่ตลอดเวลา จะนั่งเดินหรือใส่วิ่งก็ไม่หลุด แต่ว่าตอนใส่จะต้องกดเข้าไปให้ตัวจุกยางแน่นกระชับ และควรจะเลือกตัวจุกยางให้เหมาะกับขนาดหู ของเรา
สรุป
หลังจากที่ได้ทดลองใช้แล้ว ค่อนข้างประทับใจเรื่องของเสียงที่ดังและเก็บมิติของเสียงได้ดี พร้อมทั้งยังมีให้ปรับ Equalizer ให้เหมาะกับรูปแบบเพลงที่ฟังได้หลายแบบ และระบบเสียง Pass-through ที่ให้เราได้ยินเสียงภายนอกระหว่างที่ฟังเพลงได้ ซึ่งเหมาะมากในเวลาที่ใส่เพื่อออกกำลังกาย เพราะตอนใส่ตัวจุกยางจะเก็บเสียงจนไม่ได้ยินเสียงภายนอก แต่พอมีระบบนี้ก็จะช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้ ใช้งานได้ทั้งเป็นหูฟังและ Handfree สำหรับรับสายสนทนา ส่วนรูปลักษณ์การออกแบบทำออกมาได้สวยงาม ตัวเคสสำหรับเก็บอาจจะดูมีขนาดที่ใหญ่ไปนิดแต่ก็ยังพกพาได้ง่ายและมีน้ำหนักที่เบา และใช้ในการชาร์จเติมไฟให้กับตัวหูฟังได้ในตัว
แต่ว่าก็ยังมีบางอย่างที่ขัดใจอยู่ อย่างเช่นปุ่มควบคุมที่ไม่สามารถปรับระดับเสียงได้ และการเปลี่ยนเพลงก็เลือกได้แค่ Skip เพลง ไม่สามารถ Fwd หรือ Rev ได้
Verve Ones ตอนนี้วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย โดยราคาอยู่ที่ 7,990 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่น Verve Ones+ ที่เพิ่มคุณสมบัติกันน้ำได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายโดยเฉพาะ จะต่างตรงที่ตัวหูฟังจะมีสีส้มเพิ่มขึ้นมา ราคาอยู่ที่ 8,990 บาท
ขอขอบคุณ : Jaben.co.th สำหรับสินค้า Verve Ones ในการทดสอบ
สเปคเบื้องต้น
