Nokia Asha 310
Nokia Asha 310 เป็นมือถือ S40 ที่สาวกโนเกียตัวยงคงคุ้นเคยกันดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ไม่ได้เป็นแค่ฟีเจอร์โฟน S40 อย่างที่ผ่านมา เพราะทางโนเกียได้ยกรับดับให้มันเป็นสมาร์ทโฟนตัวย่อมๆ เพราะมันได้รับการพัฒนาให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปสักเท่าไหร่ ด้วยความสามารถในการลงแอพลิเคชั่นเพิ่มเติมผ่าน Nokia Store, การใช้งานอีเมลอย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi โดย Nokia Asha 310 นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3 นิ้ว มีความละเอียด 400 x 240 พิกเซล แสดงผลได้ 65,536 สี นอกจากนี้ Nokia Asha 310 ยังรองรับการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด มีสล็อตสำหรับใส่ซิม 2 จัดวางอยู่ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง ซึ่งรองรับการถอดเปลี่ยนซิมแบบ Easy Swap ช่วยให้เราสามารถถอดเปลี่ยนซิมแล้วใช้งานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอให้เครื่องรีสตาร์ทตัวเอง สำหรับการใช้งานทั้ง 2 ซิมการ์ดนั้น เราสมารถตั้งค่าซิมหลักสำหรับใช้งานการโทรออก ส่งข้อความ เล่นเน็ตได้จากทั้ง 2 ซิม หรือใครที่สลับการใช้งานบ่อยๆ ก็สามมรถตั้งค่าให้ ‘ถามทุกครั้ง’ เพื่อเลือกซิมในการใช้งานต่างๆ ด้วยตัวเองก็ได้
ย้อนกลับมาดูในส่วนของ User Interface หรือส่วนติดต่อผู้ใช้งาน บน Nokia Asha 310 กันบ้าง กับ Fluid Swipe UI ที่เน้นการปัดหน้าจอไป-มา ซึ่งจะมีหน้าจออยู่ 3 แบบ เริ่มจากหน้ารวมโปรแกรมทั้งหมดในตัวเครื่องซึ่งสามารถปรับแต่ง สลับไอคอนของโปรแกรมต่างๆ ได้ตามใจชอบ และเมื่อใช้นิ้วปัดหน้าจอไปทางซ้ายจะพบกับ Dialer หรือแผงปุ่มกดตัวเลขสำหรับใช้งานโทรศัพท์ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนให้เป็นหน้าโปรแกรม Music หรือ Radio ได้ตามต้องการ หากปัดหน้าจอไปทางด้านขวาจะพบกับหน้า Home ซึ่งสามารถเลือกวางชอร์ทคัทของโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังสร้างชอร์ทคัทของรายชื่อผู้ติดต่อเอาไว้บนหน้าจอนี้ได้เช่นกัน (เฉพาะรายชื่อที่บันทึกไว้ในหน่อยความจำโทรศัพท์เท่านั้น) นอกจากนี้ที่ด้านบนของหน้าจอ ยังมีแถบ Notification ที่สามารถเลื่อนลงมา เพื่อเข้าสู่ทางลัดการตั้งค่าเชื่อมต่อต่างๆ และแจ้งเตือนข้อความเข้า รวมไปถึงสายที่ไม่ได้รับ
Physical Overview
Nokia Asha 310 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3 นิ้ว มีความละเอียด400 x 240 พิกเซล ถัดลงมาใต้จอจะพบกับปุ่มรับสาย/ โทรออก และ ปุ่ม Power/ วางสาย จัดวางอยู่ พร้อมช่องไมโครโฟน
มาดูกันที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะพบกับปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม/ลดเสียง ถัดลงมาจะเป็นปุ่มล็อคหน้าจอ และร่องสำหรับงัดเพื่อเปิดฝาหลัง
ด้านซ้ายของ Nokia Asha 310 มีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดอันที่ 2 ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนแบบ Easy Swap ได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดเครื่อง พร้อมช่องสำหรับใส่ microSD Card จัดวางอยู่ข้างกัน
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตรงกลางเป็นพอร์ต microUSB สำหรับเชื่อมต่อเพื่อซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ท้ายสุดเป็นช่องสำหรับหัวชาร์จรูเข็มที่คุ้นเคยกันดี
ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แบบฟิกซ์โฟกัส ซึ่ง Nokia Asha 310 นั้นไม่ได้มีไฟแฟลชติดมาให้ใช้งานแต่อย่างใด ในส่วนของฝาหลังจะเป็นพลาสติกใสเคลือบพื้นผิวที่มีลวดลายกราฟิกเพื่อเพิ่มรายละเอียดให้ตัวเครื่องดูไม่เรียบจนเกินไป
นอกจากนี้ที่ด้านหลังของ Nokia Asha 310 ยังมีช่องลำโพงจัดวางอยู่ ด้วยการดีไซน์ฝาหลังที่โค้งมนเล็กน้อย ทำให้ยังพอได้ยินเสียงเรียกเข้า ในกรณีที่วางเครื่อง หงายทิ้งเอาไว้
เมื่อเปิดฝาหลังของ Nokia Asha 310 และถอดแบตเตอรี่ความจุ 1110 mAh ออกมา จะพบช่องใส่ซิม 1 จัดวางอยู่เพียงอย่างเดียว
2 Mega Pixels Digital Camera
Nokia Asha 310 มาพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซลโดยที่ไม่มีระบบออโต้โฟกัส หรือ ไฟแฟลช LED ติดมาให้แต่อย่างใด สำหรับลูกเล่นในการถ่ายภาพก็จะมีเอฟเฟ็คท์สีให้เลือกใช้งานกัน 3 แบบ ทั้ง Greyscale, Negative และ Sepia และสามารถปรับไวท์บาลานซ์ได้โดยอัตโนมัติ, ตั้งเวลาถ่ายภาพได้นานสูงสุด 5 วินาที สำหรับการบันทึกภาพจะต้องสัมผัสไอคอนรูปกล้องที่หน้าจอ เนื่องจากไม่มีปุ่มชัตเตอร์มาให้ สำหรับโหมดการถ่ายวิดีโอสามารถเลือกบันทึกได้ที่ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล (QCIF) สามารถเลือกปรับเอฟเฟ็คท์สี และปรับไวท์บาลานซ์ได้เหมือนกับโหมดการถ่ายภาพนิ่ง รวมไปถึงเลือกปิดไมโครโฟนเพื่อบันทึกแค่ภาพเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว โดยเราสามารถเลือกบันทึกได้นานจนกว่าหน่วยความจำจะเต็ม
Music Player & FM Radio
เครื่องเล่นเพลงของ Nokia Asha 310 ก็ยังคงแสดงภาพศิลปิน หรือภาพปกอัลบั้มอย่างสวยงาม แยกประเภทการแสดงผลของเพลงตามรายชื่อเพลง, รายชื่อศิลปิน และแนวเพลง สามารถเลือกปรับแต่งโทนเสียงให้เข้ากับแนวเพลงที่ชื่นชอบผ่านอีควอไลเซอร์แบบสำเร็จรูปทั้ง 5 แบบ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเล่นวิดีโอโดยเราสามารถเลือก Capture ภาพนิ่งของไฟล์วิดีโอเก็บไว้ได้อีกด้วย และในส่วนของภาครับสัญญาณวิทยุ FM สเตอริโอก็ยังคงมีมาให้รับฟัง พร้อมระบบสแกนคลื่นอัตโนมัติ หรือจะเลือกค้นหาคลื่นที่คุณชื่นชอบได้ด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหา พร้อมบันทึกเสียงเพลงหรือรายการที่ชื่นชอบเก็บไว้ฟังภายหลังได้อีกด้วย
Connectivity
ทางด้านการเชื่อมต่อ Nokia Asha 310 นั้นจรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านเครือข่าย Edge/GPRS เพียงเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่า Nokia Asha 310 จะไม่รองรับ 3G แต่ก็ยังรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์ความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi ตามจุด Hotspot ต่างๆ ซึ่งใครที่มีเราท์เตอร์ Wi-Fi อยู่ที่บ้าน และที่ทำงาน ก็สามารถประหยัดค่า Data ไปได้มากโข โดยเราสามารถใช้งานแอพแชทสุดฮิตอย่าง Line รวมไปถึง Social Network อย่าง Facebook และ twitter ได้อย่างสะดวก และสามารถดาวน์โหลดเกมมันส์ๆ จากค่าย EA มาเล่นได้อย่างจุใจ
Final Opinion & Conclusion
Nokia Asha 310 เป็นมือถือ 2 ซิม ทางเลือกสำหรับวัยรุ่นวัยเรียน ที่มองหามือถือเครื่องใหม่ซึ่งรองรับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่าครบครัน ทั้ง Facebook และ twitter อีกทั้งยังรองรับการใช้งานแอพแชทสุดฮิตอย่าง Line ซึ่งมีให้ใช้งานบนมือถือเกือบทุกแพลทฟอร์ม ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนคุยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ความสามารถในการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และการดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นเพิ่มเติมจาก Nokia Store ยังช่วยยกระดับให้มือถือ S40 ราคา 3 พันนิดๆ นั้นกลายเป็นน้องๆ ของสมาร์ทโฟนกันเลยทีเดียว
Strength
– หน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 3 นิ้ว
– กล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม, ซิม 2 ถอดเปลี่ยนได้แบบ Easy Swap
– เครื่องเล่นเพลง พร้อมช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
– วิทยุ FM สเตอริโอ, บันทึกเสียงเก็บไว้ฟังภายหลังได้
– เชื่อมต่อผ่าน EDGE/GPRS
– รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi
– รองรับการใช้งานโปรแกรม Line
– ดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติมได้จาก Nokia Store
Weakness
– ไม่มีระบบออโต้โฟกัส และไฟแฟลช
– ไม่มีกล้องหน้า
รูปตัวเครื่อง Nokia Asha 310
รูปหน้าจอ Nokia Asha 310
