OnePlus 7T สมาร์ทโฟนรุ่นอัพเกรดจาก OnePlus 7 มาพร้อมกับหน้าจอรีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz ที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานหน้าจอได้อย่างสบายตาและสมูทมากกว่าเดิม หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องพร้อมกับพรีวิวตัวเครื่องไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงแก่เวลาที่จะมารีวิวการใช้งานให้ทุกท่านได้อ่านกัน ไปติดตามกันได้เลยครับ
สเปค ONEPLUS 7T
- ขนาดตัวเครื่อง 160.94×74.44×8.13 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 190 กรัม
- หน้าจอ Fluid AMOLED Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีรีเฟรชเรท 90 Hz
- สแกนลายนิ้วมือใต้
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 ตัว แบบ Triple Camera เลนส์หลักความละเอียดชัด 48 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto ความละเอียดชัด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียดชัด 16 ล้านพิกเซล
- ชิพประมวลผล Qualcomm SnapdragonTM 855 Plus (Octa-core, 7nm, up to 2.96 GHz) , with Qualcomm AI Engine
- GPU Adreno 640
- RAM 8GB
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB แบบ UFS 3.0
- ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 10
- ระบบเสียง Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 3,800mAh รองรับ Warp Charge 30T (5v/6A)
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Frosted Silver และ Glacier Blue รุ่น 8GB / 128GB
- ราคา 17,990 บาท
หน้าจอขนาดใหญ่ รีเฟรชเรท 90Hz เนียนตามากกว่าเดิม
สำหรับรุ่นนี้มีการอัพเกรดหน้าจอให้ดีกว่าเดิมด้วยการใช้หน้าจอ Fluid AMOLED Display ขนาดใหญ่ 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีรีเฟรชเรทสูงถึง 90 Hz ช่วยให้เราใช้งานหน้าจอรับชมความบันเทิงได้แบบเนียนตาและสมูทมากขึ้น ซึ่งจากการที่ได้ใช้งานแล้วพบว่าเป็นหน้าจอที่คมชัดใช้งานแล้วสบายตา เมื่อมีการเลื่อนเมนูต่างๆ ก็มีความสมูทแบบรู้สึกได้เลย
หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นแบบหยดน้ำ มีการฝังกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 พิกเซลเข้ามาให้ใช้งานเซลฟี่กันด้วย
ส่วนการดีไซน์ตัวเครื่องก็ค่อนข้างบางและมีน้ำหนักที่กำลังดี ฝาหลังดีไซน์ขอบโค้งที่จะช่วยให้จับได้ถนัดมือมากขึ้นถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ และกระจกที่นำมาใช้งานนั้นเป็นกระจก 3D Corning Gorilla Glass แบบด้านที่สัมผัสแล้วรู้สึกดีมากๆ การที่มีกระจกด้านแบบนี้ก็จะช่วยลดปัญหารอยนิ้วมือติดตัวเครื่องไปด้วย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีรอยนิ้วมือติดเลยนะ ก็มีบ้างแต่น้อยกว่าดีไซน์กระจกแบบเงานั่นเอง
แต่ชุดเลนส์กล้องจะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง ดังนั้นเวลาใช้งานควรใส่เคสเพื่อความปปลอดภัย หรือควรระมัดระวังเรื่องการวางตัวเครื่อง เพราะอาจจะทำให้เป็นรอยได้ และในรุ่นนี้มาพร้อมพอร์ต USB-C ไม่มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
กล้องหลัง Triple Camera ถ่ายได้ครบทุกมุมมอง
กล้องหลัง 3 ตัว แบบ Triple Camera เลนส์หลักความละเอียดชัด 48 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto ความละเอียดชัด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียดชัด 16 ล้านพิกเซล อยู่ในชุดเลนส์สีดำตัดกับสีของฝาหลังได้อย่างลงตัวและสวยงาม ส่วนด้านการถ่ายรูปก็โฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2x และยังมีโหมดกลางคืนมาให้ใช้งานกันอีกด้วย
ภาพตัวอย่างกล้องหลัง
ภาพที่ได้ออกมานั้นก็มีความคมชัดสวยงาม มีการเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี และการถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ทำได้ดีอยู่ รวมถึงโหมดกลางคืนที่ทำให้ภาพสว่างและคมชัดมากขึ้นโดยที่ไม่หลอกตามากเกินไปด้วย
ประสิทธิภาพระดับเรือธง พร้อม Fnatic Mode สำหรับคอเกมเมอร์
ถึงแม้จะเป็นรุ่นระดับเริ่มต้นใน 7T Series แต่ก็ยังคงระสิทธิภาพระดับเรือธงอยู่ โดยใช้ชิพระมวลผล Qualcomm Snapdragon 855+ พร้อมกับชิพประมวลผลกราฟิก Adreno 640 ประมวลผลร่วมกับ RAM 8GB มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน 128GB แบบ UFS 3.0 รันระบบกิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 10 ที่มีหน้าตาเหมือนกับ Pure Android แต่จะมีการเสริมฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และไม่มีอาการหน่วง
Fnatic Mode เป็นส่วนขยายของ Game Space ที่จะมีการปรับประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการบล็อคการแจ้งเตือน, สายโทรเข้า, ปิดการปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ และปรับสภาพแสงของหน้าจอให้เหมาะสม แต่จะต้องเป็นเกมที่รองรับกับโหมดนี้เท่านั้น ถึงจะรีดประสิทธิภาพได้สูงสุด จากที่ทดสอบเล่นเกม Call Of Duty และ PUBG Mobile ตัวเกมก็แสดงผลกราฟิกได้ในระดับสูง ภาพคมชัด การทัชก็ตอบสนองได้ดี และได้ Fnatic Mode มาช่วยในการปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ทำให้เล่นได้อย่างต่อเนื่องและแถบแจ้งเตือนไม่มีการบังหน้าจอในขณะเล่นอีกด้วย
ชาร์จไวด้วย WARP CHARGE 30
แบตเตอรี่ 3,800mAh สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบเต็มวันสบายๆ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี WARP Charge 30T กับอะแดปเตอร์ที่มาในกล่องเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่กลับมาให้เต็มไวขึ้น จะได้กลับมาใช้งานได้เร็วขึ้นนั่นเอง
ความคิดเห็น OnePlus 7T จาก WHATPHONE.NET
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ผานการปรับรุงมาให้ดีกว่าเดิม และมีราคาที่จับต้องได้มากขึ้น มีความสามารถระดับท็อป ใช้งานได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป การถ่ายภาพก็ครอบคลุมทุกมุมมอง การรับชมความบันเทิงทั้งเรื่องของภาพบนหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz ก็ดูได้แบบเนียนตา การเล่นเกมที่แสดงผลกราฟิกสวยงามและเครื่องไม่ร้อน แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้เต็มวันสบายๆ แต่สำหรับใครที่อยากได้รุ่นท็อปกว่านี้ก็ต้องขยับไที่ OnePlus 7T Pro เลย
https://whatphone.net/comparison/oneplus-7t-pro-vs-oneplus-7t/
จุดเด่น
- หน้าจอแสดงผลคมชัดสวยงาม ใช้งานแล้วสบายตา
- แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้เต็มวัน
- ดีไซน์สวย ดูพรีเมี่ยม
- กล้องถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี โฟกัสเร็วและแม่นยำ
จุดสังเกตุ
- ไม่มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. อาจจะต้องหาอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้หูฟังเดิม
- ชุดเลนส์กล้องนูน ควรใส่เคสไว้ตลอดการใช้งาน