OPPO Enco Free True Wireless Headphones คือชุดหูฟังไร้สายรุ่นแรกจากค่าย OPPO อาจจะได้เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วเมื่อปลายปี คราวนี้ OPPO ประเทศไทยนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย แต่จะมีจุดเด่นที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างไรบ้าง มาดูกันได้เลยครับ
แกะกล่องลองฟัง OPPO Enco Free True Wireless Headphones
หลังจากที่ได้รับเครื่องทดสอบมาแล้ว เราค่อนข้างตื่นเต้นกับชุดหูฟังจากค่ายที่เคยผลิตแต่สมาร์ทโฟน ซึ่งหลายๆ ท่านก็พอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าทาง OPPO เคยทำชุดเครื่องเสียงและชุดเครื่องเล่น Blu-ray, DVD กันมาก่อน คราวนี้มาทำชุดหูฟัง True wireless เป็นของตัวเองบ้าง อาจจะช้ากว่าค่ายอื่นๆ แต่คราวนี้ OPPO ทำการบ้านมาดีมากสำหรับรุ่นนี้ ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบหรู ดูสวยงาม เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- ชุดหูฟังพร้อม Charging case
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- คู่มือการใช้งานแบบรวดเร็ว
- Ear tip สำหรับเปลี่ยน 2 ชุด (Size M, L)
สำหรับตัว Charging case หรือกล่องสำหรับเก็บหูฟังพร้อมกับทำการชาร์จแบตเตอรี่ในตัวจะมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมโค้งมน ผิวตัวเคสเป็นลักษณะแบบขาวด้าน ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือ ด้านหน้าต้วเคสมีแถบโลหะสีเงินพร้อมโลโก้ OPPO และไฟ LED บอกสถานะการทำงานของตัวเครื่องเป็นไฟสีขาว รวมถึงบอกระดับแบตเตอรี่เป็นสีเขียว ส้ม และแดง ด้านข้างขวาจะมีปุ่มกลมเล็กๆ สำหรับใช้ Paring กับโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแบบ USB-C สามารถใช้สายชาร์จมือถือ หรือสายชาร์จที่มีมาให้ในกล่องชาร์จแบตเตอรี่ได้
เมื่อเปิดเคสออกมาจะพบกับชุดหูฟังทั้งสองอยู่ด้านใน หากต้องการใช้งานก็สามารถดึงออกมาได้ทันที และเมื่อใช้งานเสร็จก็ใส่กลับเข้าไปโดยจะมีแม่เหล็กช่วยดูด เมื่อเข้าที่แล้วหูฟังจะได้รับการชาร์จแบตเตอรี่ทันที สะดวกมากๆ ส่วนที่ตัวหูฟังที่ปลายจะมี Ear tip ที่เป็นยาง ซึ่งจะช่วยเกาะหูไม่ให้หลุดง่าย และยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ทั้งหมด 3 ขนาด ที่ติดอยู่กับเครื่องเป็น Size S หากต้องการเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้นก็มี Size M และ L ตัวก้านหูฟังจะมีแถบสไลด์แบบสัมผัสสามารถเปลี่ยนเพลง ปรับระดับเสียงได้จากแถบนี้ทั้งสองด้าน ที่ปลายก้านจะมีหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และมีรูไมโครโฟนเล็กๆ สำหรับรับเสียงสนทนา ซึ่งจะรับเสียงได้ดีกว่ารุ่นที่ไม่มีก้านยื่นออกมาแบบนี้
เชื่อมต่อง่ายดาย เพียงแค่เปิดเคส
หากคุณใช้สมาร์ทโฟนของ OPPO และเป็นรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป เมื่อเปิดฝาเคสของ Enco Free หน้าจอก็จะขึ้นรูปของหูฟังรุ่นนี้พร้อมให้คุณเชื่อมต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูบลูทูธให้วุ่นวายเหมือนรุ่นอื่นๆ จากนั้นระบบจะทำการเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติ สะดวกรวดเร็วมากๆ
แต่ถ้าหากใช้งานสมาร์ทโฟน OPPO A Series หรือ F Series หรือ OPPO R15 จะไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะสามารถเชื่อมต่อผ่านเมนูบลูทูธได้เช่นกัน รวมไปถึงสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ด้วย เพียงแค่เปิดฝาเคสขึ้นมาแล้วกดปุ่มด้านข้างขวาค้างเอาไว้จนไฟด้านหน้ากระพริบ จากนั้นก็ใช้สมาร์ทโฟนเข้าเมนูบลูทูธ แล้วเลือกชื่อ “OPPO Enco Free” เพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่สำหรับรุ่นนี้ยังไม่มีแอพฯ สำหรับปรับแต่งการทำงานของชุดหูฟังรุ่นนี้ออกมา จึงยังไม่สามารถปรับแต่งเสียง หรือปรับแต่งการใช้งาน หรือไม่สามารถอัพเดท Firmware เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้ แต่คาดว่าน่าจะมีแอพฯ ออกมาให้ใช้งานเร็วๆ นี้
รองรับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 เล่นเกมแบบไร้ดีเลย์
ชุดหูฟังรุ่นนี้รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็วในการเชื่อมต่อ หรือการประหยัดแบตเตอรี่ ทำงานร่วมกับชิพประมวลผล Qualcomm และ MediaTek โดยการเชื่อมต่อของรุ่นนี้เป็นแบบ Binaural ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโดยกับสมาร์ทโฟนแบบอิสระทั้งสองข้าง จึงทำให้เกิดความหน่วงต่ำมาก จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile พบว่ามีความหน่วงของเสียงน้อยมากจนแทบจะไม่แตกต่างจากการใช้หูฟังแบบมีสาย แต่หากสังเกตภาพและเสียงดีๆ ก็ยังพอจะสังเกตเห็นความหน่วงได้อยู่ ซี่งความหน่วงในระดับนี้เมื่อเทียบกับการทดสอบหูฟัง True Wireless รุ่นอื่นๆ บอกได้เลยว่ารุ่นนี้ทำได้น่าประทับใจมากๆ ส่วนการทดสอบกับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีบลูทูธที่ต่ำกว่าอย่าง Bluetooth 4.2 ก็ยังสามารถฟังเพลงได้ แต่การเล่นเกมเสียงจะดีเลย์พอสมควร จึงเหมาะกับการฟังเพลงมากกว่า
ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะฟังเพลง เล่นเกม หรือออกกำลังกาย
อย่างที่บอกว่า OPPO ทำการบ้านของรุ่นนี้มาดีมาก พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงตามสเป็คแล้วสามารถฟังได้ต่อเนื่องถึง 25 ชั่วโมงเมื่อแบตเตอรี่เต็ม โดยตัวหูฟังเองใช้ฟังเพลงได้นาน 5 ชั่วโมง และสามารถนำไปชาร์จกับ Charging case ได้อีก 4 รอบ หรือหากสนทนาโทรศัพท์ก็สามารถโทรได้นาน 3 ชั่วโมง และหากรวมชาร์กับ Charging case ก็จะได้รวม 15 ชั่วโมง นอกจากนี้ตัวหูฟังยังรองรับมาตรฐาน IPX4 สามารถกันละอองน้ำ หรือกันเหงื่อได้ในระดับหนึ่ง
ภายในกล่องยังมี Ear tip มาให้อีก 2 ขนาด สามารถถอดเปลี่ยนให้เหมาะกับใบหู หรือเพื่อให้แน่นหูขึ้นได้ตามความต้องการ ซึ่งหากต้องการสวมใส่แบบสบายๆ แนะนำให้ใส่ขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง จะไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก แต่ก็จะได้พลังเสียงที่ยังไม่เต็มเท่าใดนัก แต่หากต้องการฟังเสียงแบบเต็มๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใส่ Ear tip ขนาดใหญ่ เพราะนอกจากจะช่วยกันเสียงรอบข้างแล้ว ยังได้พลังเสียงแบบเต็มๆ เหมาะกับการฟังเพลงแบบเงียบๆ คนเดียวไม่มีเสียงอื่นใดมารบกวน
สำหรับการปรับระดับเสียงก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมา เพียงแค่แตะที่ก้านหูฟังด้านซ้ายแล้วสไลด์ขึ้นลงเสียงก็จะปรับตามการสไลด์ของนิ้วมือ หรือหากต้องการปรับเปลี่ยนเพลงก็แตะก้านหูฟังแล้วสไลด์ขึ้นหรือลงเช่นกัน ส่วนการหยุดเพลงก็เพียงแค่ถอดหูฟังออก เพลงก็จะหยุดโดยอัตโนมัติ และเมื่อใส่หูฟังก็จะเล่นเพลงให้โดยอัตโนมัติด้วย ส่วนการรับสาย วางสาย ก็เพียงแค่ใช้นิ้วแตะ หรือเคาะที่หูฟัง 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังมี AI ช่วยในระบบตัดเสียงรบกวน จากการทดสอบสนทนาผ่านหูฟังพบว่าระบบตัดเสียงรบกวนได้ดีพอสมควร อีกทั้งเสียงสนทนาก็ยังคงชัดเจนด้วยเช่นกัน
สรุปการใช้งาน OPPO Enco Free ในความเห็นของ What Phone
จากการทดสอบทำได้น่าประทับใจในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่สามารถฟังได้อย่างยาวนานต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ในด้านการเล่นเกมก็ให้เสียงไม่ดีเลย์ ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆ ในการเล่นเกม ส่วนในด้านการสนทนาก็ทำได้ดี สนทนาได้ชัดเจน ระบบตัดเสียงรบกวนก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นชุดหูฟัง True Wireless ที่มีคุณสมบัติครบครัน และตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน ที่สำคัญราคาของรุ่นนี้ก็ไม่แพงจนเกินไปด้วย รองรับการใช้งานทุกรุ่นทุกแบรนด์ ซึ่งหากต้องการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุดควรใช้กับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 จะดีกว่า สำหรับชุดหูฟัง True Wireless รุ่นนี้ถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless อีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่องมากๆ ถ้าต้องการหูฟังไว้ใช้งานได้ครบๆ แบบนี้แนะนำรุ่นนี้เลยครับ
ราคาเปิดตัว : 3,999 บาท