OPPO F1
OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ในตระกูล F ด้วย OPPO F1 สมาร์ทโฟนดีไซน์หรู ชูจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพเซลฟี่ กับสโลแกน Selfie Expert แถมยังเปิดตัวมาด้วยราคาไม่ถึง 9 พันบาท ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางอีกรุ่นที่ค่อนข้างน่าสนใจ ซึ่งเจ้า OPPO F1 นั้นมีความโดดเด่นด้วยวัสดุอลูมิเนียมแบบยูนิบอดี้ มีขอบตัวเครื่องซึ่งออกแบบให้โค้งมน 60 องศา ที่ OPPO เคลมว่าผ่านการทดลองมาแล้วว่าเป็นจุดที่สามารถจับถือใช้งานได้ถนัดมือ ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับจุดนี้ว่าเวลาจับตัวเครื่องมันช่างรู้สึกกระชับมือดีเหลือเกิน
OPPO F1 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่แรงใช่ย่อยด้วยขุมพลังจากชิป Snapdragon 616 ตัวใหม่ล่าสุด ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 8 แกน (Octa-Core) เสริมด้วย RAM 3 GB ซึ่งรองรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล ทั้งการเปิดสลับแอพฯ หรือเล่นเกมกราฟิกหนักๆ ก็ยังเอาอยู่ แต่ยังมีบางจังหวะขณะที่รันแอพค้างไว้เยอะๆ หรือเจอเกมที่เฟรมเรทสูงๆ ก็มีอาการหน่วงให้ได้รู้สึกบ้างตามปกติ ในส่วนของส่วนติดต่อผู้ใช้งานจะมีหน้าตาและรูปแบบการใช้งานซึ่งไม่แตกต่างจากมือถือ OPPO รุ่นอื่นๆ ด้วย ColorOS เวอร์ชั่น 2.1.0i ครอบทับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (โลลิป๊อบ) เอาไว้อีกที โดยการใช้งานและเมนูต่างๆ ยังคงสวยงาม เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เสริมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกจำพวก Screen On, Screen Off Gesture หรือการสั่งงานด้วยท่าทาง, วาดนิ้วเป็นตัวอักษรต่างๆ ลงบนหน้าจอเพื่อสั่งงานต่างๆ มาให้เหมือนเช่นเคย
Physical Overview
OPPO F1 มาพร้อมหน้าจอ IPS ความละเอียด HD720p ขนาด 5 นิ้ว เพิ่มความทนทานให้กับหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass 4 ขอบบนของหน้าจอเป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสนทนา, กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ปรับระดับแสง, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง
ด้านล่างของหน้าจอมีแถบ Navigation Bar จัดวางอยู่ โดยแบ่งเป็นปุ่ม Option, Home และ Back ซึ่งปุ่มเหล่านี้จะเป็นฮาร์ดแวร์ที่รองรับการสัมผัสแบบ Capacitive ยังไม่ได้ถูกรวมเอาไว้ให้ใช้งานในหน้าจอแสดงผลแต่อย่างใด
ที่ด้านขวาของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ดที่เป็น Hybrid Slot รองรับทั้ง microSIM (SIM 1) และ nanoSIM (SIM 2) รวมไปถึงสามารถเลือกเปลี่ยนมาเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ในช่องซิม 2 ได้ด้วย ถัดลงมาไม่ไกลคือปุ่มเปิด – ปิดเครื่อง/ เปิด – ปิด หน้าจอ
ขอบตัวเครื่องฝั่งซ้ายเป็นตำแหน่งของปุ่ม Volume สำหรับปรับเพิ่ม-ลดเสียง และสามารถใช้งานเป็นปุ่มชัตเตอร์เมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพได้อีกด้วย
ที่ขอบด้านบนค่อนข้างโล่ง มีเพียงช่องต่อหูฟังสเตอริโอขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรจัดวางอยู่เพียงอย่างเดียว
ขอบล่างเป็นที่อยู่ของพอร์ต microUSB สำหรับเสียบสายชาร์จ และสายดาต้า พร้อมรองรับการใช้งาน USB OTG ส่วนจุดเล็กๆ ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลคือช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา
พลิกมาที่ด้านหลังจะพบกับกล้องถ่ายภาพระบบออโต้โฟกัสความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แฟลช LED 1 ดวง สำหรับแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh นั้นจะเป็นแบบฝังในตัวเครื่องไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้
8 Mega Pixels Digital Camera
เปิดตัวมาพร้อมสโลแกน Selfie Expert จึงไม่ต้องสงสัยว่า OPPO F1 นั้นจะเน้นไปที่การใช้งานถ่ายภาพเซลฟี่กับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปได้สว่างใสกว่าเดิมแม้อยู่ในที่แสงน้อยด้วยค่ารูรับแสงที่กว้างถึง f/2.0 และเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/4 นิ้ว ขาดไม่ได้ด้วยโหมดบิวตี้ที่มีให้เลือกความเนียนใสได้ 3 ระดับ ซึ่งจุดเด่นในเรื่องของกล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO ที่สะสมชื่อเสียงมาจากหลายรุ่น จนมาถึงรุ่นนี้ก็ยังไม่ทำให้ผิดหวัง ส่วนการใช้งานกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล จริงๆ แล้วก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ด้วยระบบโฟกัสไว PDAF (Phase Detection Autofocus) รวมไปถึงโหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย รองรับการถ่ายไฟล์ RAW, รองรับ Expert Mode ให้เราตั้งค่าได้อย่างอิสระอารมณ์เดียวกับกล้องโปร ทั้งการเลือกปรับแมนนวลโฟกัส, ปรับสปีดชัตเตอร์, ปรับค่า Exposure, ปรับ White Balance และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เราเลือกใช้งานกันอย่างจุใจ
Entertainment
การใช้งานด้านความบันเทิงก็เรียกได้ว่าจัดมาให้ครบตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันทั้งเครื่องเล่นวิดีโอที่รองรับการใช้งานแบบ Pop-up Play ที่สามารถแสดงผลคลิปวิดีโอเป็นหน้าต่างเล็กๆ ให้เราทำงานอื่นไปด้วย ดูวิดีโอไปด้วยโดยไม่ขาดตอน พร้อมเครื่องเล่นเพลงที่สามารถเลือกเล่นเพลงจากโฟลเดอร์ได้อย่างสะดวก ส่วนใครที่ชอบหอบหิ้วมือถือไปฟังเพลงก่อนนอนก็สามารถเลือกตั้งค่าปิดเครื่องเล่นเพลงตามเวลาที่กำหนดจะได้ไม่ต้องเปลืองแบตไปกับการเปิดเพลงทิ้งเอาไว้จนถึงเช้า นอกจากนี้ความบันเทิงพื้นฐานอย่างวิทยุเอฟเอ็มก็ยังมีมาให้ไม่ได้หายไปไหน
Connectivity
OPPO F1 มาพร้อมการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเครือข่าย 4G LTE และยังคงรองรับ 3G ทุกคลื่นทุกความถี่ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi สามารถใช้งานเป็น Wi-Fi Hotspot แชร์อินเตอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับ, แชร์ไฟล์ด้วยความเร็วสูงผ่าน Wi-Fi Direct และแชร์ภาพขึ้นสมาร์ททีวีได้อย่างสะดวกด้วยระบบ Wireless Display นอกจากนี้พอร์ต microUSB 2.0 ยังสามารถรองรับการใช้งาน USB OTG (ตั้งเข้าเมนูตั้งค่าเพื่อไปเปิดการใช้งาน OTG ก่อนนะ) ให้เรานำเอาแฟลชไดรฟ์ที่เป็นแบบ Dual USB มาเสียบเพื่อเล่นไฟล์มีเดีย เปิดไฟล์เอกสาร หรือถ่ายโอนไฟล์บน OPPO F1 ได้อย่างสะดวก
Final Opinion & Conclusion
OPPO F1 เป็นสมาร์ทโฟนราคาต่ำหมื่นอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจด้วยประสิทธิภาพจากชิปเซ็ทรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 616 พร้อม RAM 3 GB นอกจากนี้การออกแบบ และวัสดุตัวเครื่องก็ดูเรียบหรู ดูทนทานมีระดับด้วยตัวเครื่องโลหะ อีกทั้งการใช้งานกล้องก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจทั้งจุดขายอย่างกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลังตัวหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งจัดเต็มโหมดถ่ายภาพมาให้ไม่แพ้รุ่นใหญ่ในค่าย ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ค่อนข้างคุ้มค่า สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 4G สเปคครบ ในงบที่จำกัด
Strength
– หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ใช้กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4
– ตัวเครื่องโลหะ
– ตัวเครื่องบางเพียง 7.3 มิลลิเมตร
– หน่วยความจำภายใน 16 GB, รองรับไมโครเอสดีสูงสุด 128 GB
– ชิป Snapdragon 616 Octa-core, RAM 3 GB
– รองรับการใช้งาน Gesture & Motion
– กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, f/2.0, โหมดบิวตี้
– กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, PDAF, ถ่ายไฟล์ RAW, Expert Mode
– เครื่องเล่นเพลง, วิทยุ FM
– รองรับ 4G LTE, 3G และ Wi-Fi
Weakness
– ต้องเลือกว่าจะใช้งาน 2 ซิม หรือเพิ่มเมม (ช่องซิม 2 กับเมม ใช้สล็อตร่วมกัน)
– แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
– ถ้าความละเอียดหน้าจออยู่ในระดับ Full HD จะครบเครื่องกว่านี้
รูปตัวเครื่อง OPPO F1
รูปหน้าจอ OPPO F1