OPPO Reno Series เป็นไลน์ใหม่ของสมาร์ทโฟนจาก OPPO ซึ่งจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่ห่างหายไปสักพัก โดยก่อนหน้านี้ก็จะเป็น OPPO R17 Pro และ OPPO Find X แต่การกลับมาคราวนี้เป็นการเริ่มต้นกับไลน์ใหม่ที่จะดันเข้าสู่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ซึ่งได้ทำออกมา 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno และ OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมเทคโนโลยี 10x Hybrid Zoom ซูม 10 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียด ซึ่งทาง Whatphone.net ได้รับรุ่นนี้มาทดสอบ และก่อนหน้านี้เราได้ทำการแกะกล่อง ส่องดีไซน์กันไปแล้ว ใครยังไม่ได้ดูสามารถไปดูกันได้
หน้าจอแสดงผลเต็มหน้าจอ ลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตา
เนื่องจากมีการใช้กล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera ซ่อนกล้องหน้าไว้ด้านในตัวเครื่อง ทำให้หน้าจอที่มานั้นไร้ติ่งหรือรอยบากใดๆ ซึ่งมีชื่อเรียกว่าหน้าจอ AMOLED Panoramic Screen ในรุ่นนี้จะมีขนาด 6.6 นิ้ว มีความละเอียด Full HD (2,340 x 1080 พิกเซล) กระจก Corning Gorilla Glass 6 อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 อัตราส่วนพื้นที่หน้าจอ 93.1% พร้อมกับเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตาลงได้มากถึง 50% ผ่านการรับรองการดูแลสายตาโดย TÜV Rheinland และมีขอบเขตสีแบบ DCI-P3 ช่วยให้แสดงสีแบบภาพยนตร์ และยังมีความคมชัดสูง นอกจากนี้ยังมีการซ่อนเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้ใต้หน้าจอแสดงผล ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุอินฟาเรด, เซ็นเซอร์ตรวจจับแสง
ลำโพงสนทนาจะติดอยู่กล้องหน้า Pivot Rising Camera แต่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษในรุ่นนี้ เพื่อให้เสียงลอดผ่านรูกระจกและขอบของหน้าจอออกมาสำหรับการฟังเสียงสนทนา เวลาสนทนาหากติดการแนบหูแบบเดิมๆ จะทำให้ไม่ค่อยได้ยิน แต่เมื่อลดระดับและเอียงสมาร์ทโฟนเข้ากับใบหูสักนิดนึงก็จะได้ยินชัดเจน และเมื่อเราเปิดใช้กล้องหน้าและเผลอทำเครื่องหลุดจากมือ ตัวกล้องจะมีการตรวจจับการหล่น หากตรวจพบจะทำการเก็บกล้องหน้าอัตโนมัติให้ก่อนที่ตัวเครื่องจะหล่นถึงพื้น
Hidden Fingerprint Unlock 2.0 เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่มีการปรับปรุงนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อการสแกนลายนิ้วมือที่มีความแม่นยำมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น
การใช้งานหน้าจอ Home screen จึงทำให้แสดงผลได้เต็มหน้าจอมากขึ้นรวมถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วย และสามารถดูคลิปวิดีโอได้แบบเต็มๆ ไม่มีรอยบากคั่นให้เสียอารมณ์ แต่การใช้งานเล่นเกมอาจจะส่งผลนิดหน่อยตรงมุมโค้งของหน้าจอ หากมีปุ่มต่างๆ ที่ติดขอบหน้าจอทำให้ทัชยากในบางเกม ส่วนการใช้งานกลางแจ้ง หน้าจอก็ยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ระบบเสียงยังมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอและระบบเสียง Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงออกมาดีมีมิติ
ดีไซน์สวยงามสุดพรีเมี่ยม
สำหรับการดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นนี้ถือว่ามีการออกแบบที่ดูดีพรีเมี่ยมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลของสีเวลากระทบแสงซึ่งจะแสดงผลแตกต่างกันทำให้ตัวเครื่องดูเปล่งประกาย การจัดวางตำแหน่งต่างๆ ของกล้องด้านหลังที่จัดวางอยู่ตรงกลางของตัวเครื่องและตัวกล้องไม่นูน อยู่ใต้กระจก Corning Gorilla 3D 6
และถ้าใครไม่อยากใช้เคสทางออโป้ก็ได้ใส่ จุดเซรามิก O-Dot ที่ด้านหลังของตัวเครื่องมาให้ โดยจุดเซรามิกนี้จะช่วยให้ตัวเครื่องไม่ติดพื้นป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดกับเลนส์กล้องได้ แต่ถ้าใครใช้เคสที่ทางออปโป้ก็หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะเคสค่อนข้างหนาปกป้องตัวเครื่องและเลนส์กล้องหลังได้อย่างดี
กล้องหลัง 3 เลนส์ 10x Hybrid Zoom ซูม 10 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียด
OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 + เลนส์ Tele ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 + เลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ระบบกันสั่น Dual OIS มาพร้อมโหมด Ultra Night Mode 2.0 สำหรับถ่ายภาพกลางคืนได้สว่างและรายละเอียดคมชัดมากขึ้น, โหมด Dazzle Color Mode 2.0 สำหรับความการภาพที่มีสีสันสดใสมากขึ้นกว่าเดิม และโหมด Portrait ถ่ายภาพบุคคลละลายฉากหลัง อีกทั้งยังมีโหมดบิวตี้ไว้ให้เลือกปรับตกแต่งใบหน้าให้กับแบบได้ การบันทึกวิดีโอก็รองรับระดับ 4K 60fps และยังสามารถบันทึกเสียงได้รอบทิศ 360 องศา
หน้าตา UI ของกล้องก็จัดเรียงมาแบบใช้งานง่าย เพียงปัดหน้าจอก็เปลี่ยนเป็นการบันทึกวิดีโอ หรือ ถ่ายภาพบุคคล ซึ่งจะเป็นโหมดที่เราใช้งานกันบ่อยๆ สำหรับโหมดที่ใช้ไม่บ่อยทางออปโป้ก็จะจัดรวมไว้ในเมนู 3 ขีด และการปรับตั้งค่าอื่นๆ อาทิ HDR, Dazzle และกล้องมุมกว้าง จะถูกวางไว้อีกด้าน ซึ่งเวลาจะใช้งานก็เพียงแต่แตะก็เปิดการใช้งานนั้นๆ แล้ว นอกจากนี้ยังมี AI ที่ช่วยปรับแสงสีตามวัตถุและซีนต่างๆ
จากที่ได้ทดลองใช้งานถ่ายภาพ การถ่ายในที่กลางแจ้งถือว่าทำได้ดีเลย สีสันสวยงาม โฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำ ส่วนการถ่ายในที่ร่ม ถ่ายอาหาร การปรับแสงสีของ AI อาจจะยังทำได้ไม่ดีนัก แต่การโฟกัสและระยะชัดตื้นทำได้ดีมาก ดูเนียนตาและมีมิติมากขึ้น
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง
ถ่ายภาพมุมกว้าง
โหมดถ่ายภาพบุคคล
Ultra Night Mode 2.0
Ultra Night Mode 2.0
สำหรับการซูม 10 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียด ถือว่าทำได้ดีมาก แต่เมื่อมีการซูมในที่แสงน้อย มือจะต้องนิ่ง ไม่อย่างนั้นภาพที่ได้ออกมาอาจจะไม่ชัด แต่ถ้าถ่ายในที่แจ้ง แสงดีๆ ภาพที่ได้ออกมาถือว่าสวยงามเลย ส่วนการซูม 60 เท่านั้น ถามว่าจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือไม่นั้น ก็คงตอบได้ว่าขึ้นอยู่กับการใช้งานเสียมากกว่า อาจจะแค่ซูมดูอะไรบางอย่าง แต่การซูมที่ 2x, 6x และ 10x ส่วนตัวคิดว่าได้ใช้งานแน่นอน ไม่ว่าไปที่ไหน บางครั้งเราไม่ต้องเดินเข้าไป กดซูมถ่ายภาพได้เลย แสนสะดวกสุดๆ
ภาพตัวอย่างการซูม 10 เท่า และ 60 เท่า
ซูม 1 เท่า
ซูม 2 เท่า
ซูม 6 เท่า
ซูม 10 เท่า
ซูม 50 เท่า
ซูม 60 เท่า
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beauty
เป็นกล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera ซ่อนอยู่ในตัวเครื่องมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 สำหรับการถ่ายเซลฟี่ มาพร้อมโหมดบิวตี้สามารถปรับแต่งหน้าสวยใสจากมือถือได้เลย และยังมีการใช้แสงแฟลชอ่อนๆ เพิ่มแสงให้กับใบหน้าอัตโนมัติ เมื่อมีการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย และยังมีโหมด Portrait เซลฟี่ได้แบบหน้าชัดหลังเบลอสวยๆ กันเลย
ภาพตัวอย่างจากล้องหน้า
โหมด Portrait
โหมด Portrait
โหมด Portrait
ประสิทธิภาพและการใช้งาน
OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855 และ RAM 8GB หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ความจุ 256GB รองรับการใช้งานเมมโมรี่การ์ดแบบ microSD ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0 มีฟีเจอร์ Smart Assistant, Smart Service, Step Tracker, Clone Apps พร้อมกับ Gestures & Motion มาให้ใช้งานเพื่อเพิ่มความสะดวกกัน 
นอกจากนี้ยังมี Game Space แอพพลิเคชั่นที่เข้ามาช่วยในการจัดการทรัพยากรของเครื่องในเรื่องการเล่นเกมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเราสามารถเลือกระดับประสิทธิภาพเองได้ และยังช่วยปิดการเจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการเล่นเกมของเรา รวมไปถึงการปิดกั้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตของแอพพลิเคชั่นที่ทำงานเบื้องหลังตลอดเวลาเพื่อให้เกมที่เราเล่นนั้นได้ใช้อินเตอร์ได้เต็มที่ ซึ่งเราสามารถเพิ่มเกมที่เราเล่นเข้าไปเพื่อดูว่าเกมเหล่านั้นรองรับ Game Space หรือไม่ และทั้งหมดนี้ยังทำงานร่วมกับ HyperBoost 2.0 ที่ช่วยในการเล่นเกมดีขึ้น ทั้งการแสดงผลและการสัมผัสที่รวดเร็วทันใจ จากการทดสอบลองเล่น PUBG Mobile ตัวเกมก็แสดงผลภาพได้สูงระดับ HD และลื่นไหล ไม่มีกระตุกให้เห็น และการระบายความร้อนก็ทำได้ดี
ด้านแบตเตอรี่ความจุ 4,065mAh ถือว่าเป็นความจุที่ค่อนข้างเยอะ สามารถใช้งานได้แบบเต็มวัน และยังรองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge 3.0 ที่ช่วยให้ชาร์จได้เต็มเร็วขึ้นด้วย
ความคิดเห็นจาก Whatphone.net
ด้วยดีไซน์และสเปคที่ให้มาถือได้ว่า OPPO Reno 10x Zoom จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงสุดพรีเมี่ยมจากออปโป้ไปแล้ว ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์สวย ถ่ายรูปภาพได้แบบครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นมุมมองธรรมดา ถ่ายภาพมุมกว้าง ซูมได้เยอะแบบชัดเจนไม่เสียรายละเอียด อีกทั้งยังเอาไว้เล่นเกมแรงๆ ดูหนังฟังเพลงกับหน้าจอที่ลดแสงสีฟ้า ระบบเสียง Dolby Atmos ถ่ายวิดีโอ 4K กับกันสั่น OIS ส่วนตัวมาองว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ค่อนข้างครบเครื่อง น่าเสียดาย น่าจะให้ SuperVOOC Flash Charge มาให้ ไม่อย่างนั้นจะครบเครื่องมากกว่าเดิมเลย แต่ VOOC Flash Charge 3.0 ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการชาร์จเร็วแล้ว
จุดเด่น
- หน้าจอ AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (2,340 x 1080 พิกเซล) กระจก Corning Gorilla Glass 6 ลดแสงสีฟ้าป้องกันอันตรายต่อสายตา
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ครอบคลุมการถ่ายรูป
- ซูม 10 เท่า ไม่สูญเสียรายละเอียด และซูมได้สูงสุด 60 เท่า
- สเปคแรง เล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้สบายๆ
- แบตเตอรี่อึด มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0
- ซ่อนกล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera สวยงามและแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ มีการตรวจจับการหล่นจะเก็บกล้องอัตโนมัติ
จุดสังเกต
- น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ ยิ่งใช้งานกับเคสที่แถมมาในกล่องแล้วรู้สึกว่าหนักขึ้นพอสมควร
- น่าจะให้ SuperVOOC Flash Charge มาให้สำหรับสมาร์ทโฟนที่ต้องการให้เป็นระดับเรือธง
จบไปแล้วสำหรับรีวิว OPPO Reno 10x Zoom สำหรับใครที่อยากติดตามรีวิว, บทความ, ทิป เทคนิค การใช้งานต่างๆ และข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์ เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลย
